ฝ่ายค้านไร้น้ำยา
การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท
ในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาภาพรวมทั้งหมดแล้วเสร็จ โดยมีเนื้อหาที่ปรับลดงบประมาณแต่ละหน่วยงานไปพอสมควร แต่ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนนัก และในช่วงสัปดาห์นี้ จะเป็นการพิจารณาชั้นอุทธรณ์ที่ให้หน่วยงานต่างๆ แปรญัตติ เอางบประมาณที่ อนุกมธ.แต่ละคณะปรับลดงบประมาณ คืนสู่หน่วยงาน
ก่อนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจัดทำเป็นเอกสารและส่งให้ “ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ” ภายในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระพิจารณา วาระสอง อภิปรายรายมาตรา และวาระสาม คือ การให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบทั้งฉบับ
อย่างไรก็ดี ในชั้นการทำงานของกมธ. มีวาระพิจารณาที่พอแบ่งได้เป็น 2 เจตนา คือ ปรับลดงบประมาณ หรือ เพิ่มงบประมาณ โดยเล็งเห็นประโยชน์ใช้สอยของหน่วยงานและตามความจำเป็น และ การตัดงบประมาณ ด้วยความ “หมั่นไส้” ส่วนตัว รวมถึงเป็นความพยายามจ้องจับผิด เพื่อหวังผลต่อยอดทางการเมือง
กับปรากฎการณ์คร่าว ๆ ที่เห็นชัด คือ การพยายามขุดคุ้ยของ “กมธ.ฝ่ายค้าน” ที่หวังผลจะนำประเด็นไปต่อยอดสู่การ “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” ทั้งหน่วยสะสมและหาข้อมูล และหน่วยที่ลุกมาข่มขู่ว่ามีข้อมูลเด็ด เช่น การจัดสรรงบประมาณโดยขาดรายละเอียดหรือเป็นเงินนอกงบประมาณ ที่กมธ.ไม่สามารถตรวจสอบเนื้อหาได้ในชั้นการเสนอร่าง พ.ร.บ.ที่พบว่ามีมูลค่าประมาณการ 8.5ล้านล้านบาท
หรือ อย่างกรณีการจัดสรรงบประมาณที่เขียนรายละเอียด แต่ไม่เกี่ยวกับพันธกิจของหน่วยงาน เป็นต้น
อย่างไรเสีย การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 จะผ่านการพิจารณา ระยะเวลาที่ถูกกะเกณฑ์ว่าจะผ่านการพิจารณาในชั้นสภาฯ เดือนมกราคม และเข้าสู่ “วุฒิสภา” เพื่อประทับตรารับรอง ก่อนออกมาเป็นกฎหมายอนุมัติการเบิกจ่าย และใช้จ่ายงบประมาณภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563
ดังนั้นการเล่นเกมของฝ่ายค้าน ที่จ้องจับเท็จ จับผิดการใช้งบประมาณ สุดท้ายแล้วเพียงแค่หวังผลทางมวลชน แต่ในทางปฏิบัติ ยากที่จะเป็นไปได้
ขณะที่การทำงานของสภาฯ สัปดาห์นี้ วันพุธที่ 18 ธันวาคม ต้องจับตาการพิจารณาญัตติ เสนอให้ สภาฯ ตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ที่ยังค้างต่อการอภิปราย เพื่อสนับสนุนหรือเห็นแย้งต่อการตั้งกมธ.ฯ หากไม่มีการเล่นเกมจากฝ่ายรัฐบาล และเป็นไปตามการคาดหมาย กมธ.จำนวน 49 คนจะถูกแต่งตั้ง
แม้ชื่อของ กมธ. ที่ถูกคัดเลือกมาตามสัดส่วนของพรรคการเมืองต่างๆ และรัฐบาล จะเปิดอย่างเป็นอย่างการไม่ครบถ้วน แต่เชื่อว่าในชั้น กมธ.ที่ มีวาระสำคัญ คือ ตั้งประธาน กมธ. จะถูกหยิบยกมาถกเถียงตั้งแต่ยกแรก เพราะ ฝ่ายค้าน ต่างต้องการให้ แนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ บรรลุสู่เป้าหมายคือ มีหนทางแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนฝ่ายรัฐบาล อยากคุมเกมแก้รัฐธรรมนูญ ดังนั้นอำนาจของ ประธานกมธ.ที่อาจต้องวัดพลังกัน จึงน่าจับตา
โดย... เทพจร