โรคเลื่อนรถไฟซีพี & ละครภูมิใจไทย ใครเป๋าตุง
โม้กันมานาน จนคนไทยตั้งความหวังว่า ชาตินี้ก่อนตาย จะมีวาสนาขึ้นรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ก่อนลาโลกนี้ไป
แต่ต้องเจอ “โรคเลื่อน”ของกลุ่มซีพีมาแล้วถึง 9 ครั้ง ในการเจรจา หลังได้รับการประกาศว่า เป็นผู้ชนะในการยื่นซองประกวดราคา ตั้งแต่ 24 ธันวาคม 2561 รวมระยะเวลาร่วม10 เดือน ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเจรจาต่อรองกับเอกชนผู้เข้าเสนอราคาการประมูลงานของรัฐ
เหตุแห่งความล่าช้า แม้กลุ่มซีพีจะเสนอการประมูลที่รัฐจ่ายคืนหลังการก่อสร้าง 117,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่วงการรับเหมาฟันธงว่าขาดทุน จึงตามมาด้วยการมี “เงื่อนไข” นอกเหนือ TOR การประมูลเพื่อการการันตี ”ขาดทุน” ที่กรรมการพิจารณาร่างสัญญาของ รฟท. มิอาจยอมจรดปากกาเซ็นได้ เพราะ “เสี่ยง” ต่อการถูกดำเนินคดีภายหลัง ด้วยกระทำการเกิน “เงื่อนไขการประมูล” ที่กฎหมาย ป.ป.ช.ในปัจจุบัน กำหนดว่า คดีทุจริต ”ไม่มีอายุความ” ขุดมาเอาผิดย้อนหลังเมื่อใดก็ได้
จึงทำให้กรรมการทั้งหลาย ต้องยึด TOR เป็นหลัก ส่วนฝ่ายการเมืองที่ใครมีอำนาจเหนือกว่า จะลงนามเองก็ตามสบาย แต่เสี่ยง “คุก” เอาเอง
การเจรจาจึงถูกยื้อมาเป็นเดือนที่ 10 จน เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศลั่นประเทศว่า ซีพีจะต้องลงนามในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ไม่งั้น เรียกรายอื่นมาเจรจาและเข้าสู่กระบวนการ “ริบเงินค้ำประกัน” 2 พันล้านบาท และการขึ้นแบล็คลิสต์เอกชนผู้เข้าร่วมประมูล ซึ่งทำให้รัฐเสียหาย
แต่ขึงขังได้ไม่กี่วัน ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย “ผู้ใต้บังคับบัญชา” ของเสี่ยหนู ประกาศว่า “เลื่อน” ไปอีก 10 วัน อ้างเรื่องไม่มีบอร์ด รฟท.เพราะลาออก!
เป็นข้ออ้างที่หาความชอบธรรมไม่ได้ ที่สำคัญ “น้ำลาย” ที่เสี่ยหนูพ่นไป กลายเป็น “ไม่เด็ดขาด” เข้าทำนองหัวหน้าไปทาง เลขาฯไปทาง ที่ทำให้ชักสงสัยว่า นี่คือละครฉากใหญ่ของภูมิใจไทย ที่ “แบ่งหน้าที่”เจรจากับ ใครหรือไม่ แต่ที่ไม่สงสัยเลยคือ ยังไงเสียเสี่ยหนูแกแพ้ทาง “ชิดชอบ”แน่นอน
ดังนั้น อนาคตรถไฟความเร็วสูง จะเกิดขึ้น ช้า-เร็ว หรือล้มลุกคลุกคลาน ขึ้นอยู่กับ “ผู้ยิ่งใหญ่” แห่งบุรีรัมย์ มากกว่าใครในเวลานี้!