กฎหมายตีตรา ตีค่า Sex Worker | วาระทีดีอาร์ไอ

กฎหมายตีตรา ตีค่า Sex Worker | วาระทีดีอาร์ไอ

ภาพผู้คนในโลกออนไลน์สวมสะบัดส่าหรี เป็นกระแสทันทีหลังจากภาพยนตร์ของประเทศอินเดีย “คังคุไบ หญิงแกร่งแห่งมุมไบ” ออกฉายสู่สายตาคนไทย 

ภาพยนตร์แนวอาชญากรรมชีวประวัตินี้ได้เล่าเรื่องราวการต่อสู้ของหญิงชื่อว่า คังคุไบ กฐิยาวาฑี เธอเป็นตัวแทนของผู้ค้าบริการทางเพศ หรือ “Sex worker” ที่เรียกร้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของทุกอาชีพที่ควรเท่าเทียมกัน 

ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เพียงสร้างกระแส การแต่งกายเลียนแบบคังคุไบ แต่ทำให้ผู้ชมได้ตั้งคำถามถึงสิทธิและปัญหาการคุ้มครอง Sex worker โดยเฉพาะในประเทศไทยที่กฎหมายด้านการปราบปรามการค้าประเวณีที่เป็นปัญหามาอย่างยาวนาน ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแม้พลวัตของสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปมากแล้วก็ตาม

Sex Worker ในประเทศไทยยังคงต้องเผชิญผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการห้ามการค้าประเวณี ทั้งการถูกล่อลวง การบังคับให้ขายบริการทางเพศ การใช้ความรุนแรงต่อผู้ให้บริการทางเพศ หรือแม้แต่การถูกตีตราให้เป็น “อาชญากร” โดยกฎหมาย

1. การค้าบริการทางเพศ กับผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม

ในปัจจุบันประเทศไทยไม่มีการจัดทำสถิติจำนวนผู้ให้บริการทางเพศอย่างเป็นทางการ แต่จากการสำรวจของเว็บไซต์ Havocscope ที่สำรวจสถิติในธุรกิจสีเทาของโลก พบว่าในปี พ.ศ. 2558 มีจำนวนผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการให้บริการทางเพศทั่วโลก ประมาณ 13.8 ล้านคน และประเทศไทยมีผู้ให้บริการประมาณ 2.5 แสนคน หรือคิดเป็นอันดับ 8 ของโลก 

ผลการสำรวจยังชี้ว่าอุตสาหกรรมทางเพศในประเทศไทยสร้างรายได้ประมาณ 6.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี แต่การค้าบริการทางเพศในไทยเป็นอาชีพในระบบเศรษฐกิจใต้ดิน (Underground Economy) ไม่ถูกนำไปคิดคำนวณใน GDP

จึงเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่ถูกนับรวมในระบบเศรษฐกิจ แต่ในทางกฎหมายผู้ประกอบอาชีพให้บริการทางเพศนั้นถูกนับรวมในฐานะอาชญากรที่รัฐสามารถจับกุมเอาผิดได้

2. กฎหมายการค้าบริการทางเพศ สร้างต้นทุนมากกว่าผลกำไร

ปัจจุบันกฎหมายไทยที่เกี่ยวข้องกับการค้าบริการทางเพศมีทั้งบทบัญญัติที่มุ่งแก้ไขปัญหาการค้าบริการทางเพศโดยตรงและโดยอ้อม โดยมีแนวคิดว่า การค้าบริการทางเพศ หรือการค้าประเวณีเป็นอาชญากรรม (Criminalization)

โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 ที่กำหนดความผิดอาญาและกำหนดโทษสำหรับ Sex worker ในหลายกรณีไว้ เช่น การติดต่อชักชวนเพื่อการค้าประเวณี (หาลูกค้า) การโฆษณาการค้าประเวณี เป็นต้น 

เจตนารมณ์ของกฎหมายที่เน้นเพียงการลงโทษผู้ให้บริการทางเพศ ส่งผลให้พนักงานเจ้าหน้าที่มุ่งแต่จะบังคับใช้กฎหมายกับผู้ให้บริการทางเพศ โดยในช่วง ม.ค. - มิ.ย. ปี 2564 พบว่ามีกรณีการดำเนินคดีผู้ให้บริการทางเพศ 4 คดีเท่านั้น ซึ่งอาจไม่ตรงกับจำนวนผู้ให้บริการทางเพศที่มีในปัจจุบัน 

อีกทั้งการกำหนดความผิดทางอาญาแก่ผู้ให้บริการทางเพศได้สร้างต้นทุนจำนวนมากในการดำเนินคดีและการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งจำนวนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไปดำเนินการจับกุม รวมถึงระยะเวลาของกระบวนการในการดำเนินคดีทางกฎหมาย และยังเปิดโอกาสให้เกิดการทุจริตรับสินบนหรือการใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบ

3. บทเรียนจากต่างประเทศ: มุมมองต่ออาชีพ Sex worker ที่ต่างจากไทย

กลับไปที่เรื่องราวของ คังคุไบ ในประเทศอินเดีย มีพัฒนาการการจัดการอาชีพการค้าบริการทางเพศที่น่าสนใจ โดยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีของอินเดียแม้จะมีวัตถุประสงค์ในการขจัดการค้าประเวณีให้หมดไป แต่ไม่ได้กำหนดให้ทุกการกระทำผิดกฎหมาย และมีนโยบายการจ้างงานหรือการสนับสนุนด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนให้ Sex worker เลิกประกอบอาชีพ

อีกประเทศที่น่าสนใจ คือ ฝรั่งเศส มีแนวคิดกำจัดการค้าประเวณีเช่นเดียวกับประเทศไทย แต่ฝรั่งเศสไม่ได้มอง Sex worker เป็นผู้กระทำความผิด แต่เป็นเหยื่อที่ต้องได้รับการช่วยเหลือทางด้านสังคมและการเงิน

สำหรับประเทศที่มีแนวคิดการจดทะเบียนการค้าประเวณีให้เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายล้วนมีเจตจำนงที่คล้ายคลึงกันคือ สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ แม้รัฐอาจไม่สนับสนุนแต่ไม่ขัดขวาง

เว้นแต่เกินขอบเขตไปสู่การค้ามนุษย์ที่นับเป็นอาชญากรรมที่ยอมรับไม่ได้ เช่น เยอรมนีได้ออกกฎหมายการคุ้มครอง Sex worker โดยอนุญาตให้ประกอบอาชีพค้าประเวณีด้วยความสมัครใจ และได้รับการรับรองคุ้มครองจากหน่วยงานของรัฐ 

ทั้งนี้ Sex Worker ต้องลงทะเบียนการค้าประเวณีกับรัฐ และเสียภาษีให้แก่รัฐในหมวดภาษีเงินได้สำหรับงานอิสระ เช่นเดียวกับประเทศสิงคโปร์ที่กำหนดให้การค้าประเวณีไม่เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่กำหนดเขตพื้นที่ในการให้บริการและห้ามเป็นเจ้าของสถานบริการ เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

4. แนวทางต่อไปในการขับเคลื่อนเพื่อคุ้มครอง Sex worker

รัฐควรพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี โดยทบทวนตั้งแต่เจตนารมณ์ของกฎหมาย เนื่องจากการลดปริมาณของผู้ค้าประเวณีสามารถทำได้หลายรูปแบบโดยไม่ต้องยึดโยงอยู่กับโทษทางอาญาและตีตราให้คนเป็นอาชญากรเท่านั้น ควรเปิดกว้างว่าเครื่องมือที่นำมาแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไม่ได้มีแค่กฎหมายเพียงอย่างเดียว 

อีกทั้งควรเป็นบุคคลที่รัฐจะมุ่งคุ้มครองและให้การช่วยเหลือสภาพความเป็นอยู่และความปลอดภัย ยกระดับมาตรฐานด้านสุขภาพเพื่อเสริมสร้างทางเลือกให้กับบุคคลเหล่านี้ในการตัดสินใจที่จะประกอบอาชีพ

นอกจากนี้รัฐควรเริ่มจากการจัดเก็บข้อมูลสถิติของผู้ให้บริการทางเพศอย่างเป็นทางการ เนื่องจากในปัจจุบัน Sex worker ไม่ได้มีเพียงกลุ่มผู้หญิงเท่านั้น แต่ Sex Worker จำนวนมากที่เป็นผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ยังคงประสบปัญหาและออกมาเรียกร้องสิทธิเหล่านี้ จะเห็นได้จากในงาน Bangkok Naruemit Pride 2022 

ซึ่งนอกเหนือไปจากประเด็นการสมรสเท่าเทียมหรือการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศแล้ว สิทธิของ Sex worker เป็นประเด็นที่ LGBTIQA+ ให้ความสำคัญเช่นกัน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมากและกฎหมายไม่ได้ยึดโยงอยู่กับศีลธรรมในทุกเรื่องอีกต่อไป 

อุตสาหกรรมการค้าประเวณีในไทยก็เช่นกัน ที่ไม่ควรถูกจำกัดในมุมมืดและถูกตีกรอบด้วยศีลธรรมเท่านั้น รัฐควรทบทวนนโยบายเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในการประกอบอาชีพ สุขภาวะทางเพศ ของ Sex Worker รวมทั้งการช่วยพัฒนาทักษะที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มทางเลือกในการประกอบอาชีพในระยะยาว.

คอลัมน์ วาระทีดีอาร์ไอ
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)
ฉัตรฑริกา นภาธนาพงศ์
รัศมีจันทร์ เสาวคนธ์

อ้างอิง
1. Havocscope, “Remittance from Sex Workers in Thailand”, Accessed by June 1,2022, https://havocscope.com/thailand-remittance.
2. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, “โครงการพัฒนากฎหมายเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพสตรี และครอบครัว ทบทวนกฎหมายว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการค้าประเวณี ระยะที่ 2 รายงานการศึกษาฉบับสมบูรณ์”, สืบค้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2022, https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:191583, น 40
3. Legal Service India E-Journal, “Legalization of Prostitution In India”, Accessed by June 1,2022, https://www.legalserviceindia.com/legal/article-3392-legalization-of-prostitution-in-india.html
4. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, โครงการพัฒนากฎหมายเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพสตรี และครอบครัว ทบทวนกฎหมายว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการค้าประเวณี รายงานการศึกษาฉบับสมบูรณ์, สืบค้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2022, https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:191564. น 25
5. World Tax Inc., “Germany Tax Rates 2017,” Accessed by June 1,2022, http:// www.worldwide-tax.com/germany/germany_tax.asp
6. Ben Chapman - Schmidt, “Sex in the Shadow of the Law: Regulating Sex Work and Human Trafficking in Singapore,” 10 Asian Journal of Comparative Law, (2015): p 2