ขายสลากเกินราคา...แก้ไขยังไงดี | นรชิต จิรสัทธรรม

ขายสลากเกินราคา...แก้ไขยังไงดี | นรชิต จิรสัทธรรม

การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา เป็นปัญหาที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนกระทั่งล่าสุดนี้ รัฐบาลและสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้หวังให้การใช้เทคโนโลยีอย่าง “แอปเป๋าตัง” เข้ามาช่วยแก้ปัญหา

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเริ่มเปิดให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสลากผ่านแอปเป๋าตัง ตั้งแต่งวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 สลากกินแบ่งรัฐบาลที่ขายในแอปฯนั้นไม่บวกราคาเพิ่มคือ 80 บาท แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ค่อยสะดวกสำหรับผู้บริโภคเท่าใดนัก

เพราะกว่าจะซื้อได้ต้องค้นหาพิกัดของแผงขายสลากที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก่อน จากนั้นจึงเดินทางไปที่แผง เพื่อใช้แอปฯกดซื้อสลากและสแกน QR-code เพื่อจ่ายเงิน

รัฐบาลตั้งเป้าให้มีจุดซื้อ 1,000 แห่ง ซึ่งเข้าจริงไม่น่ารองรับความต้องการของประชาชนได้ นอกจากนี้ แม้ซื้อสลากผ่านแอปฯก็ยังต้องเก็บสลากที่เป็นกระดาษไว้เป็นหลักฐานขึ้นรางวัลอยู่ เลยไม่แน่ใจว่าจะมีแอปฯ ไว้เพื่อการใด 

หลังจากที่รัฐบาลได้เข้ากวาดล้างแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ทางเลือก ซึ่งได้แก่ กองสลากพลัสและมังกรฟ้า รัฐบาลก็ได้เพิ่มวิธีการจำหน่ายสลากออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม โดยใช้วิธีการที่คล้ายคลึงกับแอป ทางเลือกเหล่านั้น

นั่นคือ สแกนสลากเข้าระบบออนไลน์แล้วเปิดให้ผู้ขายสลากที่ต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายมาขึ้นทะเบียนเป็นร้านค้าสลาก และให้ประชาชนทั่วไปสามารถเลือกซื้อสลากออนไลน์ในราคา 80 บาทได้ผ่านทางหน้าแอปเป๋าตัง

ในกรณีที่ถูกรางวัลประชาชนสามารถเลือกได้ว่าจะรับเงินรางวัลผ่านการโอนเงินของธนาคารกรุงไทย โดยเสียค่าธรรมเนียมร้อยละ 1 หรือจะเดินทางไปขึ้นเงินเองที่สำงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ส่วนผู้ขายสลากก็จะได้รับเงินที่ขายสลากได้ผ่านแอปถุงเงิน

สลากออนไลน์ที่วางขายอยู่บนแอปเป๋าตังค์นั้นจะมีจำนวนทั้งสิ้น 5 ล้านฉบับ จากสลากที่วางขายอยู่ในตลาดทั้งหมด 100 ล้านฉบับ 

ขายสลากเกินราคา...แก้ไขยังไงดี | นรชิต จิรสัทธรรม

ส่วนสลากที่ไม่ได้วางขายบนแอปเป๋าตังค์ก็จะนำไปขายผ่านระบบตัวแทนและระบบซื้อ-จองล่วงหน้าเช่นเดิม ซึ่งจากคำสัมภาษณ์ตัวแทนผู้ขายสลากจากสื่อต่าง ๆ ต้นทุนในการรับสลากมาขายปัจจุบันมีราคาสูงกว่า 90 บาทแล้ว

หากต้องนำมาวางขายในราคา 80 บาทตามกฎหมายย่อมต้องขาดทุนแน่นอน พวกเขาจึงจำเป็นต้องขายสลากแพงกว่า 80 บาทเพื่อให้มีกำไร สุดท้ายก็แก้ปัญหาการขายสลากเกินราคาไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงอยากพาผู้อ่านไปทำความรู้จักหวยใบเสร็จของเกาะไต้หวัน เพื่อเป็นทางเลือกและแนวทางสำหรับนำมาปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาการขายหวยเกินราคาในประเทศไทย

สาเหตุที่ผู้เขียนเลือกยกระบบหวยใบเสร็จของเกาะไต้หวันขึ้นมา นั่นเป็นเพราะว่า นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคาได้อย่างเด็ดขาดแล้ว ยังเอื้อต่อการจัดเก็บภาษีและการขึ้นทะเบียนธุรกิจ SMEs อีกด้วย

ขายสลากเกินราคา...แก้ไขยังไงดี | นรชิต จิรสัทธรรม

    ในอดีตไต้หวันมีการขายสลากโดยรัฐบาลคล้ายคลึงกับประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้ไปสร้างสาธารณูปโภคและสวัสดิการภายในประเทศ แต่ต่อมากลับก่อให้เกิดการขายหวยแบบผิดกฎหมายมากขึ้น

รัฐบาลไต้หวันจึงค่อย ปรับรูปแบบการขายสลากเรื่อยมา จนนำมาสู่การเกิดขึ้นของหวยใบเสร็จในปัจจุบัน ซึ่งใช้เลข 8 หลักบนใบเสร็จหรือใบกำกับภาษีจากร้านสะดวกซื้อและร้านค้าต่าง มาออกเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล 

รางวัลจะออก ทุกๆ  2 เดือน และเงินที่นำมาเป็นรางวัลให้กับผู้ที่ถูกรางวัลก็คือเงินภาษีที่ทุกคนจ่ายไปผ่านการซื้อของ ซึ่งเงินรางวัลก็มีจำนวนตั้งแต่ 200 เหรียญไต้หวัน ไปจนถึง 10 ล้านเหรียญไต้หวัน 

ดังนั้นแล้วเมื่อเราเข้าไปซื้อของในร้านค้าแล้วร้านค้าออกใบเสร็จให้ ก็เปรียบเสมือนเราได้ซื้อสลากไปพร้อมกับกาซื้อสินค้าทั่วไป ซึ่งถ้าร้านค้าไม่ออกใบเสร็จให้ เราก็จะไม่มีสิทธิลุ้นรางวัล วิธีนี้จึงเป็นแรงจูงใจให้ผู้บริโภคต้องเรียกร้องขอใบเสร็จจากร้านค้า

หากร้านค้าไหนไม่ยอมออกใบเสร็จให้ก็อาจจะมีปัญหากับลูกค้าได้ ส่งผลให้ร้านค้าจำเป็นต้องไปจดทะเบียนและเสียภาษีให้ถูกต้องตามมา รวมถึงยังช่วยประหยัดต้นทุนให้กับคอหวยอีกด้วย 

ขายสลากเกินราคา...แก้ไขยังไงดี | นรชิต จิรสัทธรรม

เพราะเพียงแค่ซื้อสินค้าทั่ว ๆ ไป และเก็บใบเสร็จไว้ให้ดีก็มีสิทธิลุ้นถูกรางวัล ไม่จำเป็นต้องแบ่งเงินไปซื้อสลากอีก คอหวยทั้งหลายก็จะมีเงินสำหรับใช้จ่ายซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น ทั้งยังช่วยให้คอหวยไม่ต้องแย่งกันกว้านซื้อสลากที่เป็นเลขเด่นเลขดังในแต่ละงวดอีกด้วย 

การแย่งกันซื้อสลากที่เป็นเลขเด็ดในแต่ละงวดก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สลากถูกขายเกินราคา เนื่องจากสลากที่มีเลขเด็ดนั้นมีจำนวนจำกัดและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมาก การออกสลากผ่านใบเสร็จรับเงินจึงเป็นการกระจายโอกาสให้ทุกคนมีโอกาสถูกรางวัลอย่างทั่วถึง เพราะทุกคนย่อมต้องซื้อสินค้าเพื่อบริโภคในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

    นอกจากนี้ หากนำระบบการขายสลากของเกาะไต้หวันมาปรับใช้กับประเทศไทยก็จะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลในการบริหารจัดการธุรกิจ SMEs และการจัดเก็บภาษีมากขึ้น เนื่องจากข้อมูลของร้านค้า SMEs จะถูกนำเข้าสู่ระบบที่เป็นทางการมากขึ้นผ่านการจดทะเบียน รัฐบาลก็จะมีข้อมูลในจัดเก็บภาษีและการบริหารจัดการให้ความช่วยเหลือ SMEs ได้ถูกวิธีในยามที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ รวมทั้งยังจะช่วยลดปัญหาการขายหวยใต้ดินได้อีกทางหนึ่ง

เพราะสาเหตุการเกิดขึ้นของหวยใต้ดิน ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการที่คอหวยไม่สามารถหาซื้อเลขที่ตัวเองต้องการได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงต้องหันไปซื้อจากเจ้ามือหวยใต้ดินแทน ซึ่งหากรัฐบาลนำระบบการขายสลากแบบเกาะไต้หวันมาใช้ ก็จะช่วยลดความจำเป็นของการซื้อหวยใต้ดินลง

    อย่างไรก็ดี ข้อควรระวังของการนำระบบหวยของเกาะไต้หวันมาใช้ในประเทศไทย คือ ประการแรก ร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็กในประเทศไทยมักมีทัศนคติต่อการเก็บภาษีในเชิงลบ เนื่องจากพวกเขาเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อย การเก็บภาษีจะทำให้พวกเขามีรายได้ลดลง อีกทั้งพวกเขายังมีความรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้รับการดูแลจากรัฐเท่าที่ควร การเข้าระบบเพื่อเสียภาษีให้รัฐจึงเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่าสำหรับพวกเขา 

ดังนั้น รัฐจึงจำเป็นเข้าไปดูแลธุรกิจ SMEs ให้มากขึ้น เช่น ปรับปรุงระบบการจดทะเบียนให้ง่ายขึ้น เรื่องการเข้าถึงสินเชื่อ หรือการให้ความช่วยเหลือในช่วงวิกฤต ซึ่งเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากนัก เพราะเมื่อนำธุรกิจ SMEs เข้าสู่ระบบได้แล้วรัฐก็จะมีข้อมูลมากขึ้น การออกแบบนโยบายก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ประการที่สอง เรื่องกลุ่มผู้ที่เสียประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงระบบการขายสลาก ซึ่งได้แก่ กลุ่มตัวแทนผู้ขายสลาก กลุ่มเจ้ามือหวยใต้ดินที่อาจมีรายได้ลดลงจากการมีลูกค้าลดลง กลุ่มตำรวจที่รับส่วยจากเจ้ามือหวยใต้ดิน เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลก็จำเป็นต้องสร้างอาชีพใหม่ให้กับตัวแทนผู้ขายสลากไปควบคู่กัน 

พร้อมทั้งกระจายรายได้จากภาษีที่เก็บได้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมเหมือนกับช่วงที่มีการขายหวยบนดิน ที่จะกระจายได้รายได้จากการขายหวยบนดินไปยังผู้จำหน่าย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การสื่อสารแห่งประเทศไทย และภาษีการพนัน เป็นต้น

โดยกำหนดให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยังเป็นผู้ทำหน้าที่ออกเลขรางวัลในแต่ละงวดและรับขึ้นเงินรางวัลเช่นเดิม ทั้งนี้ก็เพื่อลดการต่อต้านจากผู้เสียผลประโยชน์ลง 

ประการสุดท้าย ระบบสลากแบบไต้หวันอาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแบบมูเตลู (หรือที่ชอบเรียกกันว่าสายมู) เพราะเป็นระบบแจกเลขแบบสุ่ม ผู้ซื้อไม่สามารถเลือกซื้อเลขได้เอง ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเพื่อขอเลขอาจลดความนิยมลง ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องอาจต้องปรับตัว

ขายสลากเกินราคา...แก้ไขยังไงดี | นรชิต จิรสัทธรรม

จากที่เล่ามาทั้งหมด ผู้เขียนหวังว่าผู้มีอำนาจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำข้อเขียนนี้ไปพิจารณา ลำพังแค่การไปนำกำลังตำรวจไปสำรวจตรวจตราบริเวณหน้าแผง หรือการบุกค้นสำนักงานของแอปฯ ขายสลากทางเลือกล้วนเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ หากไม่สามารถกำจัดคนกลางที่โก่งราคาสลากได้ การขายสลากเกินราคาก็จะยังดำเนินอยู่ต่อไป

การแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาจึงจำเป็นต้องแก้ไขและยกเครื่องใหม่ทั้งระบบ ซึ่งระบบใบเสร็จแบบเกาะไต้หวันก็เป็นแนวทางที่น่าสนใจ แม้ว่าในช่วงแรกอาจจะต้องพบเจอกับความยุ่งยากและการต่อต้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงย่อมส่งผลให้มีผู้เสียประโยชน์ แต่ในระยะยาวย่อมส่งผลดีอย่างแน่นอน

 เพราะช่วยให้สามารถควบคุมราคาสลากได้ ช่วยลดอิทธิพลของเจ้ามือหวยใต้ดินด้วย ทั้งยังจูงใจให้ธุรกิจ SMEs มาจดทะเบียนเสียภาษีอย่างถูกต้องอีกด้วย เรียกได้ว่า “ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงหลายตัว”.
คอลัมน์ มุมมองบ้านสามย่าน
อดิศา ชูดวง นิสิตปริญญาโท หลักสูตรเศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นรชิต จิรสัทธรรม คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น