สร้างพลังใจไว้สู้วิกฤติ | บวร ปภัสราทร

สร้างพลังใจไว้สู้วิกฤติ | บวร ปภัสราทร

จะสู้กับวิกฤตินานาประการที่จะมาในวันหน้า การดูแลพลังกายให้เข้มแข็งเพียงอย่างเดียวนั้นอาจไม่พอเสียแล้ว พลังใจสำคัญมากในยามนี้ ต้องหาทางที่จะทำให้ไม่อ่อนใจไปในทันทีที่เจอวิกฤติซ้ำแล้วซ้ำอีก

พลังใจต้องพร้อมก่อนที่จะเจอวิกฤติ ใจนำกาย ใจหมดพลัง กายก็อ่อนแอไปด้วย ต้องยอมรับกันก่อนว่าใครที่ยังมีพลังใจสู้ชีวิตกันไปได้ในยามนี้ ถือได้ว่าเก่งมากแล้ว เจอกับทั้งโรคระบาด ภัยเศรษฐกิจที่รุนแรง ศักยภาพที่อ่อนด้อยลงเมื่อเทียบกับบ้านอื่นเมืองอื่น  อนาคตที่ดูทึบมืดไม่สว่างไสว หลายคนยังสู้ต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง 

เพราะเชื่อว่ายังมีหนทางที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ ไม่ว่ารอบตัวจะเป็นอย่างไร ถ้าจะเชื่อเช่นนั้นได้ต้องลดการหยิบยืมความทุกข์ที่ใหญ่กว่าที่มีอยู่ในวันนี้ เป็นทุกข์ที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมาเป็นประเด็นสร้างความกังวลในวันนี้ ถ้าวันหน้าความทุกข์ที่กังวลนั้นจะมาถึงจริง ๆทั้ง ๆที่สู้เต็มที่แล้ว

วันนี้อย่าเพิ่งรีบทุกข์ วันนี้เชื่อมั่นไปก่อนว่าเรายังมีหนทางที่จะหลีกเลี่ยงทุกข์นั้นได้ เพราะทุกข์นั้นวันนี้ยังมาไม่ถึง อย่ายืมทุกข์ในอนาคตมากังวลในวันนี้

ดึงอำนาจในการควบคุมสรรพสิ่งรอบตัวกลับมาเป็นของเรา แทนที่จะมัวแต่ยกเรื่องคนอื่นมาควบคุมว่าไอ้นั่นก็ทำไม่ได้ ไอ้นี่ก็เป็นไปไม่ได้ ตราบเท่าที่คนนั้นยังนั่งเก้าอี้นี้อยู่ ไม่ว่าใครจะมาเป็นอะไร ขอให้ตัวเราสามารถกำหนดเส้นชัยของเราเองให้ได้ เส้นชัยจะใกล้หรือไกลแค่ไหนจากอุปสรรคที่ล้อมอยู่รอบตัวเป็นสิ่งที่ยอมได้

แต่เส้นชัยนั้นต้องเป็นเส้นชัยที่เรากำหนดของเราเอง อย่าให้อิทธิพลหรืออุปสรรคใด ๆมาเบี่ยงเบนเส้นชัยในชีวิตของเราไปในทางอื่น เพียงแต่ระวังไว้หน่อยว่าเราได้เลือกเส้นชัยที่เหมาะสมกับตัวเราในบริบทที่เป็นอยู่จริงเท่านั้น

หาทางลดความกลัวลงไปบ้าง เป็นธรรมดาที่คนเราจะมีความกลัวมากกว่าปกติในยามที่เผชิญหน้ากับวิกฤติ แต่ถ้ากลัวล้มเหลวมากเกินไป ในที่สุดก็จะล้มเหลวจริง ๆเพราะไม่กล้าจะเสี่ยงอะไรเลย ปรับความล้มเหลวที่พบเจอให้กลายเป็นทุนสำหรับที่จะใช้เดินหน้าต่อไป 

อย่าใช้ความล้มเหลวเป็นบทลงโทษตนเองในยามนี้ ความล้มเหลวเป็นเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู รอบตัวย่ำแย่ขนาดนี้ เส้นสายก็ไม่มี ไม่ใช่คนใหญ่คนโต ล้มเหลวบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ล้มเหลวแล้วต้องเรียนรู้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก มั่นใจไว้เสมอว่าล้มแล้วจะฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ให้ได้

ทำการงานในยามยากเย็นแสนสาหัสเช่นนี้ มีการล้ำเส้นกันเป็นประจำ ถ้ามัวเสียเวลา เสียพลังใจไปกับการจองเวร เรื่องยากจะยากขึ้นไปอีก เพราะแรงพยาบาทมาครอบงำความคิดสร้างสรรค์ไปหมด

คนเก่ง ๆ กลายเป็นคนงี่เง่าได้จากความพยายามในการจองเวรล้างแค้นในเรื่องที่ผ่านมา เดินทางยามยากมีอะไรที่เกินเลยไปบ้าง ถ้าไม่หนักหนาเกินไปก็ไปวางไปบ้าง ลองปล่อยให้กฎแห่งกรรมทำหน้าที่ไปบ้าง

ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้ไปก่อเวรกรรมอะไรไว้กับเขามาก่อน กรรมจะเดินทางมาถึงช้าหรือเร็วก็อย่าไปใส่ใจมากนัก ให้อภัยไว้ก่อนดีกับการเดินทางในยามยากของเรามากที่สุด 

เดินทางไปตามหนทางที่เต็มไปด้วยวิกฤติ เพื่อนร่วมทางมีความสำคัญมาก หาพรรคพวกที่คิดบวกไว้เยอะ ๆ ส่วนพวกที่แต่ละวันก็ตั้งวงพยากรณ์ถึงนรกที่จะมาในวันหน้าก็คบค้าไว้เหมือนชวนเพื่อนไปดูหนังผี พยายามสมาคมกับคนคิดบวกไว้มากหน่อย แต่ไม่ได้ถึงเอาแต่โลกสวยกันตลอด

เราต้องอยู่กับความเป็นจริง รับรู้ว่ากำลังเจอสารพัดวิกฤติ แต่มองความพยายามของเราทุกอย่างไปในทางบวก อย่าเอาแต่ค้านกันเองว่านี่ก็จะไม่ได้ผล นั่นก็ยังดีไม่พอ จนไม่ได้ทำอะไรเลย  ปล่อยชีวิตให้ไหลไปตามที่วิกฤติขีดเส้นทางเอาไว้ 

ท่ามกลางความยากลำบากอาจมีคนยื่นมือมาช่วยเหลือ กตัญญูต่อคนเหล่านั้นไว้เท่าที่จะทำได้ เพราะความกตัญญูนี้จะช่วยเติมเต็มพลังใจให้เราว่าทุกความยากลำบาก เรายังเป็นคนที่มีคนอื่นให้ความช่วยเหลือ คนเนรคุณไม่เคยรอดจากวิกฤติไปได้ด้วยดี.
คอลัมน์ : ก้าวไกลวิสัยทัศน์
รศ.ดร.บวร ปภัสราทร
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี