Tokenizationทางออกจากวิกฤติ ของธุรกิจโรงแรมไทย?

ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนชีวิตของพวกเราคนไทยทั้งประเทศไปข้างหน้า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็จะต้องเป็นฟันเฟืองตัวสำคัญ ที่คอยขับเคลื่อนให้เครื่องยนต์ของเราสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

โดยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนั้นมีสัดส่วนถึง 20-22%ของGDPของประเทศไทย นำเงินตรามาหมุนเวียนหล่อเลี้ยงในประเทศของเราถึง 1,930,000,000,000 บาท (หนึ่งพันเก้าร้อยสามสิบล้านล้านบาท) ในปี 2562 โดยธุรกิจโรงแรมถือว่าเป็นส่วนสำคัญใน Ecosystem ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประเทศไทย เพราะแน่นอนว่าเวลาคนเราไปเที่ยวไม่ว่าจะในต่างประเทศหรือภายในประเทศ เราก็ต้องใช้บริการโรงแรมเอาไว้พักเอาไว้นอน จริงไหมครับ?

 ฝันร้ายกลายเป็นจริง ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่อปีของไทย จากหลายสิบล้านคน กลายเป็น“0”จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของCOVID-19ทำให้โรงแรมเล็กใหญ่ หลายร้อยหลายพันแห่งต้องปิดตัวลงทั้งอย่างชั่วคราวและถาวร และโรงแรมที่เหลือที่ยังกัดฟันสู้อยู่ ก็ต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อการอยู่รอด

ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุน การเปลี่ยนมาขายห้องพักเป็นแบบระยะยาว เพื่อหากระแสเงินสดเข้ามาพยุงรายจ่ายประจำต่างๆ ของธุรกิจ เพียงเพื่อให้ธุรกิจยังพอดำเนินต่อไปได้แบบไม่ขาดทุนจนเกินไป โดยHotelierทุกคนก็ยังหวังลึกๆว่า พอวิกฤตที่แสนน่ากลัวนี้ผ่านพ้นไป พวกเค้าจะกลับมาฟื้นตัวและสามารถ กลับมารับลูกค้าใหม่ได้ในเร็ววัน

 

พอสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ประเทศเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เริ่มทยอยกลับเข้ามา ทุกโรงแรมก็ต้องทำการเตรียมตัวเข้าสู่เส้นสตาร์ทเพื่อที่จะเตรียมพร้อมออกวิ่งอีกครั้ง เริ่มปัดฝุ่นเก็บกวาดห้องพัก เรียกเพื่อนพ้องพนักงานกลับเข้ามาอย่างเต็มอัตรา ในการที่จะกลับมาออกวิ่ง (Operate) อีกครั้ง

มันก็เปรียบได้เหมือนกับการที่จะRestart เครื่องยนต์ตัวใหญ่ที่ไม่ได้ใช้งานอยางเต็มประสิทธิภาพมาเป็นเวลานาน ซึ่งก็อาจจะมีบางสิ่ง บางชิ้นส่วน ที่ติดๆ ขัดๆ บ้าง แต่ผู้เขียนก็เชื่อว่าด้วยจิตใจที่พร้อมบริการ และด้วยนิสัยของคนไทยที่มีHospitalityที่ดี ติดอันดับต้นๆของโลก สมชื่อLand of Smileพวกเราจะสามารถกลับมาเฉิดฉายได้อย่างเต็มภูมิอีกครั้งแน่นอน!

แล้วการTokenizationจะช่วยธุรกิจโรงแรมได้อย่างไร? 

แน่นอนว่าเงินคือกำลังขับเคลื่อนหลักของธุรกิจที่จะกลับมาOperateโดยTokenizationสามารถเข้ามาเป็นFund-raising Instrumentให้กับธุรกิจโรงแรมได้ หากคุยกันโดยหลักการแล้วการระดมทุนผ่านDigital Tokenเช่นการออกInitial Coin Offeringนั้นจะต้องมีสินทรัพย์ที่นำมาเป็นสินทรัพย์อ้างอิง(Asset-back)ซึ่งในกรณีของผู้ประกอบการโรงแรมนั้น สินทรัพย์ที่พวกเค้ามีและอาจนำมาเป็นสินทรัพย์อ้างอิงได้ คือตัวโรงแรม ที่ดิน หรือกระแสรายรับที่เค้าพึงมีจากการประกอบกิจการนั่นเอง

การTokenizationนั้น ผู้ประกอบกิจการโรงแรมสามารถวางโครงสร้างดีลให้ไม่ต้อง“เสียความเป็นเจ้าของ”จากการทำTokenizationได้ เช่น การระดมทุนโดยใช้กระแสรายรับจากห้องพักที่เริ่มทยอยกลับมาอย่างเห็นได้ชัด มาเป็นสินทรัพย์อ้างอิงในการระดมทุน

โดยเจ้าของธุรกิจโรงแรมสามารถกำหนดผลตอบแทนที่จะให้กับผู้ที่มาลงทุนได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งอาจจะแตกต่างออกไปจากวิธีเดิมๆ (เช่นการIPO) เช่น ให้ผลตอบแทนเป็นเงินสด แถมกับการให้ผลตอบแทนเป็นสิทธิในการแลกใช้สินค้าและบริการที่เจ้าของโรงแรมกำหนดได้ เช่น สิทธิในการใช้ห้องพัก ห้องอาหาร ห้องประชุมสัมมนา หรือ สปาของโรงแรม เป็นต้น

 จะเห็นได้ว่าTokenizationนั้นเป็นวิธีที่ทำให้กิจการสามารถทำการระดมทุนจากสินทรัพย์อ้างอิงได้ โดยอาจไม่ต้องเสียความเป็นเจ้าของของสินทรัพย์นั้นๆ และ ไม่ต้องใช้สินทรัพย์แบบ“เต็มส่วน”โดยอาจทำTokenizationเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ ยกตัวอย่างเช่น ตัวโรงแรมอาจมี 2 ตึก แต่นำมาTokenizeเฉพาะตึกใดตึกหนึ่งนั่นเอง

ในส่วนของการระดมทุนผ่านDigital TokenหรือการทำICOในประเทศไทยนั้น ผู้ระดมทุนในที่นี้จะเรียกว่าIssuerจะต้องทำการระดุมทุนผ่านICO Portalหรือ ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล เพราะการระดมทุนแบบนี้นั้นอยู่ภายใต้ พรก. สินทรัพย์ดิจิทัล และถูกกำกับดูแลโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.

      ในแง่ของผู้ลงทุน นอกจากจะได้ผลตอบแทนแล้ว ก็ยังสามารถได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ จากการลงทุนในครั้งนี้ จากผลตอบแทนที่อาจไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเงิน เช่น การได้ไปพักในห้องพักของโรงแรม ได้มีประสบการณ์ในการรับประทานอาหารในห้องอาหาร การได้ไปนั่งทานAfternoon Teaที่Lobby Loungeของโรงแรม หรือการได้ไปใช้งานฟิตเนสและซาวน่า เป็นต้นโดยการที่ผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนเป็นประสบการณ์ดังกล่าว ก็อาจสร้างผลดีให้กับตัวโรงแรมได้อย่างมหาศาลเช่นกัน เพราะว่าผู้ลงทุนจะได้เข้ามา“มีส่วนร่วม”และมีความผูกพันธ์กับตัวกิจการโรงแรม และโรงแรมอาจได้Loyalty Customersแทนที่จะได้แค่Investorsก็เป็นได้