ถึงเวลาลงมือทำ"IRPC" เปิดกลยุทธ์ERAปรับองค์กรสู่ Net Zero Company

ถึงเวลาลงมือทำ"IRPC" เปิดกลยุทธ์ERAปรับองค์กรสู่ Net Zero Company

IRPC ตั้งเป้าหมายองค์กร Net Zero Emission ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2603 ด้วย 3 กลยุทธ์ ปรับกระบวนการผลิต มุ่งธุรกิจพลังงานสะอาด และสนับสนุนสตาร์ทอัพสร้างเครือข่ายธุรกิจสู่อนาคต

นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด หรือ IRPC เปิดเผยว่าความเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศและภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง IRPC ได้ตั้งเป้าหมายสู่องค์กร Net Zero Emission ในปี 2603 โดยตั้งเป้าสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2593 และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 20% ภายในปี 2573 จากปี 2561 

นอกจากนี้ได้สร้างการมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ ผ่านกลยุทธ์ความยั่งยืน 3C ประกอบด้วย 1.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) 2.การบริหารจัดการตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน  (Circular Economy)3.การสร้างคุณค่าเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน (Creating Social Value)

นอกจากนี้ IRPC ยังให้การสนับสนุนผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เพื่อสร้างเครือข่ายสตาร์ทอัพขับเคลื่อนการแสวงหาธุรกิจใหม่โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม (New S-Curve) เกี่ยวกับการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยที่ ผ่านมา IRPC มีความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงอย่างต่อเนื่องเพื่อไปสู่ Net Zero Company ผ่านการดำเนินการด้วยกลยุทธ์ ERA ดังนี้

Eco - operation & technology การปรับปรุงกระบวนการผลิตภายในบริษัทฯ ลดการใช้พลังงานผ่านการ กำหนดเป้าหมายโดยใช้ดัชนีชี้วัดการใช้พลังงาน และเปลี่ยนมาใช้พลังงาน แสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดทดแทน พร้อมทั้งกำลังดำเนินการศึกษาการใช้พลังงานทางเลือก โดยการ ลงทุนในโครงการ Solar Rooftop และ โครงการ Solar Farm เพื่อใช้สำหรับกระบวนการผลิตในโรงงาน ต่อไปในอนาคต

 ทั้งนี้ IRPC ประสบความสำเร็จจากการสร้างสวนโซลาร์ลอยน้ำในบ่อน้ำดิบสำรองของ บริษัทฯ บนพื้นที่รวมกว่า 200 ไร่ ซึ่งได้บูรณาการคุณค่าในเชิงการดำเนินธุรกิจที่เสริมความมั่นคงทางด้านพลังงาน และในด้านสิ่งแวดล้อม โดยช่วยลดภาวะโลกร้อนจากการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกกว่า 9,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้บนเกาะเสม็ด ทั้งเกาะ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 10,000 ไร่ นอกจากนี้ยังมีโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลตาม มาตรฐานยูโร 5 ซึ่งจะช่วยลดปัญหามลภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 และเป็นไปตามนโยบายของ IRPC ที่มุ่งมั่นสู่การเป็นโรงงานสีเขียว โดยคาดว่าจะพร้อม ดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในต้นปี 2567 รวมถึงการหาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และธุรกิจใหม่ๆ ที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ

 Reshape portfolio นวัตกรรมที่ส่งเสริมธุรกิจคาร์บอนต่ำ ธุรกิจพลังงานสะอาด พลังงาน หมุนเวียน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ

Absorption and offset โดยได้ดำเนินการร่วมกับกลุ่ม ปตท.  2 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการปลูกป่า เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2. โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ทั้งนี้ CCS เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิต ได้ในระดับหลายล้านตันต่อปีและนำไปกักเก็บในชั้นธรณีที่มีศักยภาพและเหมาะสมแบบปลอดภัยและ ถาวร โดยไม่มีการปล่อยกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้อีก โดยจะเริ่ม ศึกษาในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี เพื่อเป็นต้นแบบสำคัญในการขยายผลสู่ระดับประเทศได้ในอนาคต

ยังสนับสนุนผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ผ่านโครงการ “Decarbonize Thailand Startup Sandbox” เพื่อสร้างเครือข่ายสตาร์ทอัพ ขับเคลื่อนการแสวงหาธุรกิจใหม่โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม (New S-Curve) เกี่ยวกับการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้มีศักยภาพก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน