“พาณิชย์” จับมือ 4  เทคยักษ์ระดับโลกเปิดตัว MOC Plus ยกระดับบริการรัฐสู่มาตรฐานใหม่

“พาณิชย์” จับมือ 4  เทคยักษ์ระดับโลกเปิดตัว MOC Plus  ยกระดับบริการรัฐสู่มาตรฐานใหม่

“พาณิชย์” จับมือ 4  บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก พัฒนาระบบบริการของกระทรวงพาณิชย์ด้วยเทคโนโลยี AI และ Cloud ภายใต้โครงการ MOC Plus เพิ่มความสะดวก ลดความยุ่งยากในการรับบริการ พุ่งสู่ 4 เป้าหมาย 

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับ 4 องค์กรเทคโนโลยีระดับโลก ได้แก่ Amazon Web Services (AWS) โดยน.ส.ภัคธภา ฉัตรโกเมศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ Google Cloud ประเทศไทย โดยนายอรรณพ ศิริติกุล Country Director Huawei Technologies (Thailand) โดยดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ ประธานบริหาร และ Microsoft ประเทศไทย โดย นางชนิกานต์ โปรณานันท์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจภาครัฐ ร่วมมือปฏิรูประบบบริการของกระทรวงพาณิชย์สู่พาณิชย์ดิจิทัล ที่มุ่งให้บริการประชาชนเข้าถึงข้อมูลและบริการของกระทรวงพาณิชย์แบบ “จุดเดียว จบจริง” ลดความซับซ้อน ลดงานซ้ำซ้อน และยกระดับประสบการณ์บริการภาครัฐสู่มาตรฐานสากล

โดยทั้ง 4 องค์กรร่วมสนับสนุนการพัฒนาสถาปัตยกรรมข้อมูลกลาง (Central Data Architecture) ระบบ Cloud ความมั่นคงปลอดภัยระดับสากล และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งาน AI ในทุกกรมของกระทรวง เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างเป็นระบบ โปร่งใส และตรวจสอบย้อนกลับได้

“พาณิชย์” จับมือ 4  เทคยักษ์ระดับโลกเปิดตัว MOC Plus  ยกระดับบริการรัฐสู่มาตรฐานใหม่

นางศุภจี กล่าวว่า การเดินหน้าทรานส์ฟอร์มครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งการทำงานแบบไซโล ข้อมูลกระจัดกระจาย และความซับซ้อนของขั้นตอนงาน โดย MOC Plus จะเข้ามาเปลี่ยน “ภาระ” ให้เป็น “ความสะดวก” ลดความยุ่งยาก ทำให้ข้าราชการมีเวลาไปทำงานที่สร้างคุณค่ามากขึ้น

 “ประชาชนไม่ได้ต้องการข้อมูลที่แยกส่วน เขาต้องการบริการที่ ครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ เราจึงต้องทำให้กระทรวงพาณิชย์เป็น Single Window เชื่อมโยงทุกกรมทุกกองเข้าด้วยกัน ใช้ AI ช่วยตอบคำถามพื้นฐาน ตรวจสอบข้อมูล รวมถึงทำให้บริการโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน”นางศุภจี กล่าว

ทั้งนี้การทรานส์ฟอร์มครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของส่วนกลางเท่านั้น แต่เป็นงานร่วมกันของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงทูตพาณิชย์ในต่างประเทศทั่วโลก เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างเท่าเทียม และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย

“พาณิชย์” จับมือ 4  เทคยักษ์ระดับโลกเปิดตัว MOC Plus  ยกระดับบริการรัฐสู่มาตรฐานใหม่

สำหรับ MOC Plus มี 4 เป้าหมายสำคัญ ได้แก่

1.Excellence Services ยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ เชื่อถือได้

2.Good Experience ให้บริการ 24 ชั่วโมง ผ่าน AI Assistant ลดการรอสาย ลดการเดินทาง

3.Personalized Service ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล เช่น สิทธิประโยชน์ FTA ที่ตรงกับสินค้า

4.Transparency  ทุกขั้นตอนตรวจสอบย้อนกลับได้ ลดช่องว่างทุจริต

โดยเริ่มต้นด้วยโครงการนำร่องในงานของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ 1. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ใช้ AI ตรวจจับความเสี่ยงนอมินีผ่าน Risk Score Card วิเคราะห์ข้อมูลนิติบุคคล รูปแบบบัญชีม้า ที่อยู่ซ้ำ การถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ไม่สอดคล้องรายได้ รวมถึงการตรวจสอบกรรมการเป็นคนไทยจริงหรือไม่ ลดช่องโหว่การจดทะเบียนโดยมิชอบ 2. กรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) ใช้ Chatbot AI และระบบ AI ตรวจความทับซ้อนของเครื่องหมายการค้า ลดเวลาการตรวจสอบ เพิ่มความแม่นยำ และอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอได้รวดเร็วขึ้น และ 3. กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) พัฒนา AI ผู้ช่วยด้านข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ ให้เลือกใช้สิทธิประโยชน์ FTA ที่เหมาะสม เพื่อให้ SMEs เข้าถึงข้อมูลส่งออก–นำเข้าได้ง่ายขึ้นและพร้อมแข่งขันในตลาดโลก

 

โครงการแรกที่ประชาชนจะสัมผัสได้คือ Call Center กลางของกระทรวง ที่ใช้ AI ช่วยตอบคำถามพื้นฐานจากฐานข้อมูลกลางของทุกกรม ลดปัญหากดเมนูซ้ำและการโทรผิดหน่วยงาน พร้อมส่งต่อเรื่องซับซ้อนให้เจ้าหน้าที่อย่างรวดเร็ว และในปี 2569 จะเป็นปีแห่งการ Upskill บุคลากรพาณิชย์ด้าน AI โดย 4 บริษัทเทคโนโลยีจะร่วมสนับสนุนการอบรม เพื่อให้ข้าราชการทุกกรมสามารถใช้ AI ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่ Master Plan ระยะ 5 ปี เพื่อวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล AI–Cloud ให้กระทรวงพาณิชย์ก้าวเป็น “Digital Commerce Ministry” อย่างเต็มรูปแบบ และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

 

“MOC Plus ไม่ใช่แค่โครงการเทคโนโลยี แต่เป็นการปฏิรูประบบราชการของกระทรวงพาณิชย์อย่างแท้จริง เพื่อประโยชน์ของประชาชนและภาคธุรกิจ เราจะทำให้บริการรัฐทันสมัย โปร่งใส เชื่อถือได้ และตอบโจทย์ยุคใหม่”นางศุภจี กล่าว