บางกอกเคเบิ้ล โชว์ 'แผ่นพื้นพลังงานจลน์' คู่สายไฟ GreenLoop ปั้นโลกยั่งยืน

บางกอกเคเบิ้ล โชว์นวัตกรรม “แผ่นพื้นพลังงานจลน์” ใน NEXTOPIA กลางพารากอน ชูสายไฟฟ้าต้นแบบชนิดใหม่ GreenLoop ลดก๊าซเรือนกระจก สร้างความยั่งยืนครบวงจร
นางสาวเปมิกา นครศรี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด หรือ Bangkok Cable (BCC) ผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาสายไฟฟ้าและสายเคเบิลชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมสายไฟฟ้าไทยให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านทิศทางประเทศสู่การใช้พลังงานสะอาด สอดคล้องกับความต้องการของโลกอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้นำ Global Lifestyle Destination รังสรรค์โปรเจกต์ The Kinetic Floor นำ “แผ่นพื้นพลังงานจลน์” หรือ Kinetic Tiles มาสร้างประสบการณ์แบบ Interactive กับผู้บริโภคในโซน NEXTOPIA ชั้น 5F และชั้น 5M ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อริเริ่มและขับเคลื่อนให้ผู้คนเห็นถึงแนวทางการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด โดยแผ่นพื้นดังกล่าว สามารถเปลี่ยนแรงก้าวเดินให้เป็นพลังงานไฟฟ้า สะท้อนถึงโอกาสของการนำพลังงานจากการเคลื่อนไหวของผู้คน มาใช้ประโยชน์จริงในโลกแห่งอนาคต
“เราวิจัยเทคโนโลยีแผ่นพื้นนี้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. (KMITL) เพื่อแสดงให้เห็นว่าทุกก้าวย่างของผู้คนสามารถสร้างพลังงานสะอาดได้จริง แม้ปัจจุบัน เราจะยังไม่ได้จำหน่ายเทคโนโลยีนี้ในไทย แต่เรามองว่านี่คือโอกาสในการสร้างประสบการณ์ให้กับผู้คนได้คุ้นเคยและเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีนี้” นางสาวเปมิกา กล่าว
สำหรับโปรเจกต์ The Kinetic Floor และแผ่นพื้นพลังงานจลน์ของบางกอกเคเบิ้ล กระจายตัวอยู่ในโซน NEXTOPIA ชั้น 5F และชั้น 5M รวมจำนวน 6 จุด พื้นที่รวมประมาณ 100 ตร.ม. โดยเมื่อเหยียบหรือเดินผ่าน จะสร้างพลังงานไฟฟ้า ให้เกิดเป็นแสงสีต่างๆ รอบๆ พื้นที่นั้น ให้ผู้คนสามารถสัมผัสประสบการณ์สร้างพลังงานสะอาดได้ ผ่านการเดินเพียงไม่กี่ก้าว ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแท่นเซ็นเซอร์ให้ได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับสายไฟและพลังงานสะอาด
นางสาวเปมิกา กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกโซนภายใน NEXTOPIA ได้ใช้ระบบสายไฟฟ้ามาตรฐานของ BCC เพื่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพที่ไว้วางใจได้ ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้ร่วมกับ สจล. (KMITL) พัฒนาสายไฟต้นแบบชนิดใหม่ภายใต้ชื่อ GreenLoop ด้วยแนวคิด Go Green & Sustainable Innovation เพื่อรองรับระบบของแผ่นพื้นพลังงานจลน์สำหรับโครงการ NEXTOPIA โดยเฉพาะ โดยใช้ฉนวนที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลประเภท Post Consumer Recycle (PCR) ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เทียบเท่าการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2e) 23% เมื่อเทียบกับการใช้พลาสติกใหม่ทั่วไป สะท้อนถึงบทบาทของ BCC ในการช่วยปิดวงจรการบริโภค นำวัสดุเหลือใช้กลับมาอัปไซเคิลให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่มีคุณค่า ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างครบวงจร
“ภาพรวมทั้งโปรเจกต์นี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทีมหลากหลายส่วน ทั้งวิศวกร นักออกแบบ ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน ศิลปิน เพื่อให้เกิดนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สนุก เข้าใจง่าย จับต้องได้ และเข้าถึงได้ทุกคน เพราะเราอยากเห็นผู้คนมองเห็น รู้สึกได้ และเป็นส่วนหนึ่งกับการร่วมเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดได้อย่างแท้จริง ทุกคนที่มาเยือน NEXTOPIA จะมีส่วนร่วมในประสบการณ์นี้ทันที เพราะทุกย่างก้าวล้วนช่วยร่วมกันสร้างพลังงานที่ขับเคลื่อนพื้นที่แห่งนี้ เราเชื่อมั่นว่าโปรเจกต์ของเรา และ NEXTOPIA จะช่วยสร้างความตระหนักถึงความรับผิดชอบ ช่วยเป็นตัวเชื่อมระหว่างคนทั่วไปกับโครงสร้างพื้นฐาน และเปิดประตูแห่งความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี” นางสาวเปมิกา กล่าว
บริษัทเชื่อว่าการจัดแสดงในพื้นที่ NEXTOPIA ครั้งนี้ จะทำให้เทคโนโลยีพลังงานสะอาดเป็นเรื่องใกล้ตัวและพร้อมต่อยอดสู่การใช้งานจริงในอนาคต สร้างประสบการณ์ไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตให้แก่ผู้บริโภค เพื่อให้เข้าใจในเรื่องพลังงานที่มอบความสะดวกสบายและทำให้ทุกคนอยู่อาศัยอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ ในฐานะบริษัทที่เป็นผู้ริเริ่มเทคโนโลยีแผ่นพื้นพลังงานจลน์ในประเทศไทย บริษัทเชื่อว่าการจัดแสดงแผ่นพื้นพลังงานจลน์ที่ NEXTOPIA ครั้งนี้ จะทำให้แนวคิดดังกล่าวเข้าถึงง่ายขึ้น พร้อมต่อยอดสู่การใช้งานวงกว้างในอนาคต อีกทั้งยังมอบประสบการณ์ไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตให้แก่ผู้บริโภค ช่วยให้เข้าใจโซลูชันด้านพลังงานที่เพิ่มความสะดวกสบาย และรองรับการอยู่อาศัยอย่างปลอดภัยและมั่นใจมากยิ่งขึ้น
สำหรับ บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด หรือ Bangkok Cable (BCC) เป็นผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาสายไฟฟ้าและสายเคเบิลชั้นนำของประเทศไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ.2507 ให้บริการครอบคลุม 7 กลุ่มการใช้งาน ได้แก่ 1.ระบบผลิตและส่งพลังงานไฟฟ้า (Transmission) 2.ระบบจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า (Distribution) 3.ระบบไฟฟ้าภายในบ้านพักและอาคาร (Construction and Building) 4.ระบบขนส่งและคมนาคม (Transportation and Mobility) 5.ระบบไฟฟ้าในโรงงาน และภาคอุตสาหกรรม (Industrial) 6.พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และ 7.ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ (Automotive) เพื่อสร้างความปลอดภัยและขับเคลื่อนเมืองสู่อนาคต ปัจจุบัน มีลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ของทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวนมากที่ใช้สายไฟฟ้าของบางกอกเคเบิ้ล อาทิ โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 โครงการสายไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าสายสีชมพู โครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออก และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ เขื่อนอุบลรัตน์ นอกจากนี้ บริษัท มีส่วนสนับสนุนโครงการ ASEAN Power Grid โดยเฉพาะโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง (Luang Prabang Hydropower Project) ในประเทศลาว







