กางแผนพัฒนา TOD รอบรถไฟฟ้า รฟม.หวังเพิ่ม 'รายได้เชิงพาณิชย์'

กางแผนพัฒนา TOD รอบรถไฟฟ้า รฟม.หวังเพิ่ม 'รายได้เชิงพาณิชย์'

การแก้ไข พ.ร.บ. การรถไฟฟ้าฯ ฉบับใหม่ ช่วยปลดล็อกให้ รฟม. สามารถพัฒนาที่ดินรอบสถานีเพื่อหารายได้เชิงพาณิชย์เพิ่มเติม นอกเหนือจากค่าโดยสาร รฟม.เตรียมนำร่องพัฒนาสถานีสายสีส้ม

KEY

POINTS

  • การแก้ไข พ.ร.บ. การรถไฟฟ้าฯ ฉบับใหม่ ช่วยปลดล็อกให้ รฟม. สามารถพัฒนาที่ดินรอบสถานีเพื่อหารายได้เชิงพาณิชย์เพิ่มเติม นอกเหนือจากค่าโดยสาร
  • รฟม. มีแผนพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้า (TOD) โดยใช้โมเดลความสำเร็จจากประเทศญี่ปุ่นเป็นต้นแบบ เพื่อสร้างเมืองไปพร้อมกับระบบราง
  • เตรียมนำร่องโครงการพัฒนา TOD ในรูปแบบมิกซ์ยูสบริเวณห้วยขวาง ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีส้ม โดยจะเริ่มจากโครงการด้านสาธารณสุข (Metro-Medical) เป็นอันดับแรก

พระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ออกประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2568 ปัจจุบันมีผลบังคับใช้แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้มีการยื่นขอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

ด้วยเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ ที่ผ่านมา พรบ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ.2543 ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน บทบัญญัติบางประการจึงไม่เหมาะสมกับการจัดทำ และการให้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในปัจจุบัน สมควรปรับปรุงวัตถุประสงค์และอำนาจกระทำการตามวัตถุประสงค์ และการออกข้อบังคับของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดทำ และให้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน

รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย สามารถใช้จ่ายเงินเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมได้ อันจะเป็นประโยชน์แก่การพัฒนา ระบบขนส่งมวลชนของประเทศให้มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการใช้ระบบขนส่งมวลชน และส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในภาพรวมในระยะยาว

อีกทั้ง สาระสำคัญของ พรบ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ยังมีการระบุในมาตรา 3 ให้ยกเลิกความใน (3) ของมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ.2543 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “(3) ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับกิจการรถไฟฟ้าและธุรกิจอื่นเพื่อประโยชน์แก่ รฟม. หรือประชาชน”

ทั้งนี้ จากการแก้ไขสาระสำคัญของ พรบ.ดังกล่าว ถือเป็นการปลดล็อกการหารายได้ของ รฟม. จากเดิมที่มีรายได้จากการโดยสารเพียงอย่างเดียว หลังจากนี้จะสามารถหารายได้อื่นเพิ่มเติม ซึ่งต้องเป็นธุรกิจที่เกิดประโยชน์แก่ รฟม. หรือประชาชน โดยหนึ่งในแนวทางการหารายได้ เบื้องต้น รฟม.ประเมินจะพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟฟ้าที่มีการเวนคืนที่ดินมา หลังจากพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าแล้ว สามารถพัฒนาที่ดินดังกล่าวให้เกิดประโยชน์ เอื้อต่อการใช้บริการของประชาชน และยังเป็นการพัฒนาเมืองให้สมบูรณ์มากขึ้น

นายพัฒนพงษ์ พงษ์ศุภสมิทธิ์ รองผู้ว่าการ (บริหาร) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงการเดินทางมาเยี่ยมชม Urban Renaissance Agency (UR) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัย โดยการเดินทางมาเยี่ยมชมครั้งนี้ ได้ศึกษาดูงานเกี่ยวกับโครงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟฟ้า ณ Takanawa Gateway City ประเทศญี่ปุ่น

กางแผนพัฒนา TOD รอบรถไฟฟ้า รฟม.หวังเพิ่ม 'รายได้เชิงพาณิชย์'

โดยสถานีรถไฟฟ้าแห่งนี้ เป็นสถานีใหม่สร้างเมือง 5 ปีที่แล้ว เป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ของรถไฟฟ้า มีศูนย์ซ่อม รวมทั้งในพื้นที่ใกล้สถานีนี้มีทั้งรถไฟ และอนาคตมีแผนสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน และรถไฟความเร็วสูงชินคันเซน รวมไปถึงจะทำเส้นทางรถยนต์ รถบัส และพื้นที่การเดินทางรองรับถนนคนเดิน จึงถือเป็นโครงการที่พัฒนาเมืองรอบสถานีรถไฟฟ้าที่ครบครัน อีกทั้งพื้นที่โดยรอบนี้ยังจะมีการพัฒนาที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ ก่อให้เกิดการลงทุนจำนวนมาก

นายพัฒนพงษ์ กล่าวว่า พรบ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 มีการปรับขยายข้อความในการใช้ประโยชน์พื้นที่ได้มากขึ้น เปิดโอกาสให้ รฟม. นำที่ดินที่มาจากการเวนคืนมาพัฒนาได้มากยิ่งขึ้น หลังจากนำไปใช้ประโยชน์สำหรับระบบรถไฟฟ้าครบถ้วนแล้ว เพื่อเพิ่มรายได้นอกเหนือ จากค่าโดยสาร และยังจะเสริมสร้างระบบรางให้แข็งแรงและยั่งยืนมากขึ้น รวมไปถึงลดภาระประชาชน ลดภาระรัฐบาล

“ญี่ปุ่นถือว่าเป็นแม่แบบหลายๆ ประเทศ ในการพัฒนาเมืองและรถไฟฟ้า รวมถึงไทยเราก็พยายามจะพัฒนาในคอนเซปต์แบบนี้ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายต่างๆ ก็มีการปรับเปลี่ยน เปิดโอกาสให้ รฟม. มีทิศทางการพัฒนามากยิ่งขึ้น รฟม.มาดูงานครั้งนี้เพื่อเป็นโมเดลพัฒนาโครงการต่อ ที่ดินที่เวนคืนมาเมื่อนำมาใช้ประโยชน์เรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้าและมีศูนย์ซ่อมบำรุงแล้ว ยังมีพื้นที่เหลือสามารถใช้ประโยชน์อื่นร่วมกัน”

สำหรับ แผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟฟ้า (TOD) ของ รฟม. เบื้องต้นได้เสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) เห็นชอบในส่วนของการให้เช่าหรือให้สิทธิ์ใดๆ ในอสังหาริมทรัพย์ และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคาร และลานอเนกประสงค์โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยมีนบุรี (สุวินทวงศ์) พื้นที่ตามแนวสายทางรถไฟฟ้าและทางเข้า - ออก ศูนย์ซ่อมบำรุง โครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)

กางแผนพัฒนา TOD รอบรถไฟฟ้า รฟม.หวังเพิ่ม 'รายได้เชิงพาณิชย์'

ทั้งนี้ รฟม.เตรียมพัฒนาโครงการนำร่องพื้นที่บริเวณห้วยขวาง ริมถนนพระราม 9 เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ และยังเป็นที่ดินของ รฟม.เอง จึงสามารถพัฒนาโครงการได้ทันที อีกทั้งที่ดินแปลงนี้อนาคตจะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน กับสายสีส้ม ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ดังนั้นนับว่าเป็นที่ดินแปลงศักยภาพสูง เชื่อว่าเมื่อมีการพัฒนา TOD จะทำให้พื้นที่โดยรอบนี้คึกคัก ก่อให้เกิดการลงทุนและการท่องเที่ยว

สำหรับ แผนพัฒนา TOD นำร่องในที่ดินบริเวณห้วยขวาง จะจัดแบ่งลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่แบบผสมผสาน (มิกซ์ยูส) โดยเริ่มจากการพัฒนาโครงการพัฒนาการให้บริการรถไฟฟ้าด้านสาธารณสุข เป็นการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนเข้ากับบริการทางการแพทย์ (Metro - Medical) บนพื้นที่สถานี รฟม. ของรถไฟฟ้าสายสีส้ม ริมถนนพระราม 9 เป็นพื้นที่แรก

ซึ่งปัจจุบัน รฟม. ได้ลงนามความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อดำเนินการแล้ว โดยจะเสนอโครงการดังกล่าวให้ที่ประชุมบอร์ด รฟม. พิจารณาในเดือน ธ.ค.2568 ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคม และ ครม.พิจารณาต่อไป หากได้รับความเห็นชอบคาดว่าจะสามารถเริ่มพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นรูปธรรมได้ภายในปี 2569 และเชื่อว่าเมื่อมีการพัฒนาโครงการ TOD ต้นแบบสำเร็จ จะต่อยอดไปยังพื้นที่อื่นๆ เปิดให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) เป็นการสร้างเมืองเติบโตไปพร้อมกับรถไฟฟ้าคล้ายกับโมเดลในญี่ปุ่น

กางแผนพัฒนา TOD รอบรถไฟฟ้า รฟม.หวังเพิ่ม 'รายได้เชิงพาณิชย์'