‘ไทยสมายล์บัส’ เล็งจับพันธมิตร ทำ ‘คาร์บอนเครดิต’ แลกส่วนลด - บริการ

“ไทยสมายล์บัส” ปลุกความร่วมมือภาคเอกชนเดินหน้าทำขนส่งสาธารณะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เล็งหาพันธมิตรจัดทำ “คาร์บอนเครดิต” สะสมเพื่อใช้เป็นส่วนลดร้านค้า และบริการ คาดเปิดตัวต้นปีหน้า
นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์ บัส จำกัด (TSB) ร่วมเสวนาภายในงาน Sustainability Forum 2026: Shift Forward: Overcoming Challenges ในหัวข้อ Sustainable Mobility ขับเคลื่อนเมืองสีเขียวอย่างยั่งยืน จัดโดย “กรุงเทพธุรกิจ” โดยระบุว่า ปัจจุบันไทยสมายล์บัสมีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (อีวี) รวม 2,350 คัน และเรือโดยสารอีวีในเจ้าพระยา 45 ลำ ให้บริการฟีดเดอร์รถเมล์รวม 124 เส้นทาง ครอบคลุมทั้ง กทม.และปริมณฑล
นอกจากนี้ไทยสมายล์บัสยังเป็นผู้ให้บริการรถเมล์รายแรกของโลก ที่ทำการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ภายใต้ความตกลงปารีส Article 6.2 การร่วมมือกันระหว่างไทย - สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งแผนงานปัจจุบันไทยสมายล์บัสยังไม่หยุดการพัฒนาขนส่งสาธารณะเพื่อสิ่งแวดล้อม ยังมีแผนจะขยายรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าไปยังต่างจังหวัด ขยายไปต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆ อาทิ โคราช ขอนแก่น รวมไปถึงหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต และเชียงใหม่
“ไทยสมายล์บัสเราไม่ได้ทำแค่การเปลี่ยนรถเก่าเป็นใหม่ แต่เราพัฒนา Ai เทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ พนักงาน 7,000 คน เราปรับความคิดของพนักงานทั้งหมดให้มีความเข้าใจ และขับเคลื่อนเรื่องขนส่งสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน เพื่อให้การทำธุรกิจยั่งยืน” นางสาวกุลพรภัสร์ กล่าว
อีกทั้งเรื่องการทำขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไทยสมายล์ยืนหยัดทำมา 3 ปี และมีแผนที่จะขยายฟีดเดอร์ออกไปอีก 1,000 คัน แต่เป็นการลงทุนเพื่อขยายบริการส่วนของรถขนส่งในต่างจังหวัด เพื่อสร้างโอกาสในการใช้ขนส่งสาธารณะในทุกพื้นที่ของประเทศ และทำให้ขนส่งสาธารณะเป็นระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“Sustain ไม่ใช่เรื่องแค่ในอุตสาหกรรม แต่เป็นเรื่องครอบคลุมไปถึงการท่องเที่ยว และอีกหลายธุรกิจ ไทยสมายล์บัสจึงมองว่า สิ่งเหล่านี้เอกชนสามารถช่วยกันทำได้ ไม่ใช่รอรัฐอุ้ม 100% ดังนั้นผู้ประกอบการต้องช่วยกันสร้าง ทำให้เป้าหมายเรื่องคาร์บอนเป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้” นางสาวกุลพรภัสร์ กล่าว
ขณะเดียวกัน หากภาครัฐต้องการสนับสนุนภาคขนส่งสาธารณะ สิ่งที่จำเป็นในขณะนี้คือ การสนับสนุนสถานีจอดรถ การบริการผู้โดยสาร เพาะปัจจุบันภาคเอกชนดูแลตัวเอง ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง รวมทั้งต้องการให้ภาครัฐสร้างการรับรู้เกี่ยวกับเส้นทางเดินรถ และกฎหมายต่างๆ ให้ชัดเจน โดยเฉพาะกฎหมายเรื่องการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ต้องมีข้อกำหนดที่ชัดเจน
นางสาวกุลพรภัสร์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันไทยสมายล์บัสมีการเปิดให้บริการแอปพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถทราบเส้นทางเดินรถ ระยะเวลาการรอรถ และราคาค่าโดยสารที่ชัดเจน เพื่อทำให้ผู้โดยสารวางแผนการเดินทางได้ อีกทั้งในอนาคตช่วงต้นปีหน้านี้ เพื่อสนับสนุนให้ผู้โดยสารร่วมกันลดคาร์บอน ไทยสมายล์บัสจะพัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถสะสมคาร์บอนเครดิตของผู้โดยสาร และสามารถนำเครดิตเหล่านั้นไปแลกรับส่วนลดจากพันธมิตรร้านค้า และบริการต่างๆ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







