น้ำท่วมภาคใต้กระทบเศรษฐกิจ 5 แสนล้าน ‘ครม.เศรษฐกิจ’ เคาะ 4 ชุดมาตรการเร่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ครม.เศรษฐกิจ เคาะมาตรการ "เยียวยา-ฟื้นฟู" ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ชงเข้า ครม.พรุ่งนี้ “เอกนิติ” ชูพักหนี้ 1 ปี ดอกเบี้ย 0% ทั้งประชาชน และภาคธุรกิจ ซอฟต์โลนสูงสุด 15 ล้านให้กับเอสเอ็มอี
KEY
POINTS
- ครม.เศรษฐกิจรับทราบผลกระทบน้ำท่วมใต้กระทบเศรษฐกิจ 5 แสนล้าน
- เคาะมาตรการ "เยียวยา-ฟื้นฟู" ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ชงเข้า ครม.พรุ่งนี้ “เอกนิติ” ชูพักหนี้ 1 ปี ดอกเบี้ย 0% ทั้งประชาชน และภาคธุรกิจ เคาะซอฟต์โลนสูงสุด 15 ล้านให้กับเอสเอ็มอี
- พร้อมขอมหาดไทยลดภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ลดภาระธุรกิจ
- ด้าน “ศุภจี” อัดธงฟ้าพิเศษ ลดราคาสินค้าซ่อมแซมสูงสุด 80% พร้อมให้นำเอาแฟรนไชส์สร้างอาชีพลงไปในพื้นที่
วันนี้ (1 ธ.ค.68) ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธาน นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรม.คลัง และนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันแถลงข่าว
นายเอกนิติ กล่าวว่า การประชุม ครม.เศรษฐกิจวันนี้เป็นวาระพิเศษในการขับเคลื่อน มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ที่จังหวัดสงขลา อำเภอหาดใหญ่ ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้พา ครม.เศรษฐกิจ และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปในพื้นที่เมื่อวันที่ 30 พ.ย.68 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ทุกฝ่ายได้เห็นความเดือดร้อนของประชาชนจากมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศมาตรการเยียวยา ฟื้นฟูแบบบูรณาการ
โดยมุ่งเน้นการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รวบรวมชุดมาตรการ และรายละเอียดเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.68) การใช้งบประมาณของโครงการต่างๆ โดยบางส่วนจะให้งบประมาณ และบางส่วนใช้งบประมาณมาตรา 28 ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ โดยให้ธนาคารของรัฐออกไปก่อนแล้วรัฐบาลชดเชยให้ภายหลัง ขณะที่บางส่วนธนาคารเฉพาะกิจของรัฐได้ใช้งบประมาณของตนเองเพื่อช่วยเหลือประชาชน ส่วนงบกลางฯ ที่ต้องเข้าไปช่วยส่วนของสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง และสมาคมธนาคารไทยอยู่ระหว่างหารือกันในส่วนนี้
สำหรับ มาตรการ Soft Loan สำหรับ SME จัดให้มี เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ โดยมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมาประกอบธุรกิจได้
สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้จาก มาตรการพักหนี้ และสินเชื่อข้างต้นจะใช้เงินของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ โดยจะมีการตั้งเป็น บัญชี PSA (Public Service Account) เพื่อให้ความเป็นธรรม หากเกิดความเสียหายขึ้น ภาครัฐจะเข้ามาดูแล
- การเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชนได้แก่ เงินเยียวยาครัวเรือน : คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติงบกลางในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินสดจำนวน 9,000 บาทต่อครัวเรือน ให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด โดยก่อนหน้านี้ได้มีการเพิ่มเงินทดลองผู้ว่าราชการจังหวัด โดยกระทรวงการคลังได้ขยายเงินทดลองให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน จังหวัดละ 100 ล้านบาท พร้อมทั้งผ่อนคลายเกณฑ์ และระเบียบการเบิกจ่ายต่างๆ เพื่อความรวดเร็วในการช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ยังมีการขยายเวลากำหนดเวลาการนำส่งเงินสมทบของนายจ้าง และผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติ เป็นต้น
- มาตรการลดภาระภาษี ให้ประชาชน และผู้ประกอบการ ประกอบไปด้วยมาตรการขยายเวลาชำระภาษี : ขยายเวลาชำระภาษี และค่าธรรมเนียมทั้งหมด และลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการซ่อมแซม ได้แก่ ซ่อมแซมทรัพย์สิน ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท และลดหย่อยภาษีซ่อมแซมรถ ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท
สำหรับผู้ประกอบการ สามารถนำค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมทรัพย์สินของผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัย สามารถนำมา หักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า
สำหรับผู้บริจาค ผู้ที่บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยผ่านองค์กรสาธารณกุศลต่างๆ สามารถลดหย่อนภาษีได้ ส่วนข้อเสนอของเอกชนที่ขอให้ลด ภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง กระทรวงการคลังจะมีการประสานกับกระทรวงมหาดไทยเพื่อพิจารณา ตามข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการในพื้นที่
- การลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการ เช่น การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับเครื่องจักรและชิ้นส่วนเพื่อทดแทนหรือซ่อมแซมความเสียหายจากอุทกภัย การยกเว้นการเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เช่า ที่ราชพัสดุที่ประสบอุทกภัย การงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญาที่ทำจัดซื้อจัดจ้าง การลดค่าน้ำประปาในพื้นที่อุทกภัย การเตรียมจัดงานธงฟ้าเยียวยาค่าครองชีพ โดยเน้นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำความสะอาดหลังน้ำลด และอุปโภคบริโภคจำเป็น การบรรเทาภาระด้านเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการสินค้า GI (Geographical Indication) การเว้นค่าเช่า และค่าเช่าซื้อ เป็นต้น
ส่วนมาตรการอื่นๆ เช่น รัฐวิสาหกิจตรวจสอบความปลอดภัยตามที่อยู่อาศัย สิ่งปลูกสร้างระบบท่อน้ำ ระบบไฟฟ้า รางรถไฟ เป็นต้น การอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน และบริษัทจำกัด การจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานพันธมิตร โดยลงพื้นที่ ให้คำปรึกษา และบริการต่างๆ ด้านการค้าระหว่างประเทศแก่ผู้ประกอบการถึงในพื้นที่ การอำนวยความสะดวกในการยื่นงบการเงิน และบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น เป็นต้น พร้อมทั้งได้มีการมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย พิจารณาแนวทางที่เหมาะสม และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ และผู้ให้บริการทางการเงินอื่นๆ ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) ที่ประสบอุทกภัยได้รับความช่วยเหลือ
ที่สอดคล้องกับแนวทางการให้ความช่วยเหลือของสถาบันการเงินเฉพาะกิจต่อไป
ด้านนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หน้าที่หลักของกระทรวงพาณิชย์คือ การทำให้มั่นใจว่าประชาชนมีเครื่องอุปโภคบริโภคเพียงพอ ไม่ขาดแคลน และมีราคาที่ต่ำ กระทรวงพาณิชย์ได้แบ่งมาตรการช่วยเหลือออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
1. ระยะเร่งด่วน โดยเน้นการดูแลปากท้อง และควบคุมราคา โดยได้เน้นการจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภค : มีการส่งวัตถุดิบอาหาร เช่น ไข่ไก่ ข้าวสาร และอาหารต่างๆ ลงไปเป็นวัตถุดิบที่โรงครัว เพื่อให้ประชาชนได้รับอาหารอย่างทันที และต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับภาคเอกชน และห้างต่างๆ การควบคุมราคา และป้องกันการกักตุน : ควบคุมราคาสินค้าไม่ให้แพงเกินไป และป้องกันไม่ให้มีการกักตุนสินค้า เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอในพื้นที่
2. ระยะเยียวยา โดยเน้นที่การลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมลดราคาอุปกรณ์ซ่อมแซม โดยได้ประสานกับห้างสรรพสินค้า และห้างเฉพาะกิจ เช่น Big C, Lotus, Home Pro, Global House เพื่อร่วมกันลดราคาสินค้าสำหรับซ่อมแซมบ้าน ยานพาหนะ และอุปกรณ์ไฟฟ้าจำเป็น โดยมีการ ลดราคาสูงสุดถึง 80% โดยมี สินค้าจำเป็นที่เร่งนำเข้าพื้นที่ ได้แก่ เบรกเกอร์ สายไฟ และหัวเทียน เพื่อช่วยให้รถมอเตอร์ไซค์สามารถสัญจรได้ ความร่วมมือ : ร่วมมือกับ SCG ในการนำอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน และช่างต่างๆ เข้าไปในพื้นที่
3. ระยะฟื้นฟู โดยเน้นที่การสร้างรายได้ และการอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ ได้แก่
1 ) มหกรรมธงฟ้าพิเศษ โดยเตรียมจัด มหกรรมธงฟ้า ที่มีลักษณะพิเศษ นอกเหนือจากการเน้นสินค้าอุปโภคบริโภค
2)หน่วยเคลื่อนที่ (Mobile Unit) : จัดหน่วยเคลื่อนที่เข้าไปยังจุดที่ประชาชนไม่สะดวกเดินทางมายังจุดแสดงสินค้าธงฟ้า
3)สนับสนุนแฟรนไชส์ โดยนำผู้ประกอบการแฟรนไชส์ลงไปในพื้นที่เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ และอาชีพ กระทรวงพาณิชย์จะประสานกับกระทรวงการคลัง และ สสว. เพื่อช่วยสนับสนุนเงินในส่วนของค่าแฟรนไชส์บางส่วน
4) การเข้าถึงแหล่งทุน และอำนวยความสะดวก : กรมพัฒนาธุรกิจการค้าทำงานร่วมกับ SMED Bank เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กเข้าถึงแหล่งทุน พร้อมทั้งให้ความสะดวก และรวดเร็วในการขอใบรับรอง การจดทะเบียนบริษัท และใบอนุญาตต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการกลับมาทำการค้าได้รวดเร็ว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







