OR ถอยทัพ Café Amazon 'เวียดนาม' เซ่นพิษแข่งเดือด-ปรับพอร์ตหนีเจ็บตัว

OR ถอยทัพ Café Amazon 'เวียดนาม' เซ่นพิษแข่งเดือด-ปรับพอร์ตหนีเจ็บตัว

"OR" ถอยทัพธุรกิจกาแฟ "Café Amazon" ในประเทศ "เวียดนาม" เซ่นพิษเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เดือด ลุยปรับพอร์ตหนีเจ็บตัว

สังเวียนกาแฟเวียดนามปราบเซียน "OR ยุติกิจการร่วมทุน "ORCG" ในเวียดนาม หลังโมเดลเดิมต้านแรงเสียดทานตลาด "Red Ocean" และวัฒนธรรมท้องถิ่นไม่ไหว ฉุดสาขา "Café Amazon" ร่วงเหลือไม่ถึง 10 แห่ง ด้าน CENTEL ดึงเงินคืน 56 ล้านบาท โยกซัพพอร์ตพอร์ตลงทุนอื่น ขณะที่กลุ่ม ปตท. ย้ำชัดนโยบาย "Cut Loss" ธุรกิจที่ไม่ทำเงิน เพื่อความอยู่รอดท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน

แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า  บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR บริษัทลูกของปตท. และ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ได้บรรลุข้อตกลงในการแจ้ง "เลิกบริษัทร่วมทุน" ภายใต้ชื่อ ORC Coffee Passion Group Joint Stock Company (ORCG) ซึ่งเป็นหัวหอกสำคัญในการรุกตลาดร้านกาแฟ Café Amazon ในประเทศเวียดนาม โดยกระบวนการดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนกันยายน 2568

แหล่งข่าวกล่าวต่อถึงเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งสำคัญว่า แม้จะไม่ได้เป็นการหยุดประกอบกิจการโดยสิ้นเชิง แต่เป็นการ "รื้อกระดาน" เพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และเป้าหมายทางธุรกิจใหม่ เนื่องจากโมเดลการร่วมทุนเดิมไม่สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage) ได้อีกต่อไป ท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจเครื่องดื่มในเวียดนามที่มีการแข่งขันรุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งในอาเซียน

ทั้งนี้ OR ได้เริ่มทยอยปิดสาขา Café Amazon ในเวียดนามมาระยะหนึ่งแล้ว เพื่อลดภาระขาดทุน โดยจากข้อมูลในปี 2566 เคยมีจำนวนสาขาอยู่ที่ 22 แห่ง แต่ปัจจุบันลดลงเหลือไม่ถึง 10 แห่ง และคาดว่าจะปิดทั้งหมดภายในเดือนนี้  สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากในการเจาะตลาดที่มี "วัฒนธรรมการดื่มกาแฟ" ที่แข็งแกร่งและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาวเวียดนาม

"ธุรกิจไหนที่ไปต่อไม่ได้ ก็ต้องยอมรับความจริงและปรับตัวตามสถานการณ์ เปรียบเสมือนแบรนด์กาแฟระดับโลกที่ไปทำตลาดในจีน ก็ยังต้องปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นให้ท้องถิ่นเข้ามามีบทบาท การปรับตัวให้เข้ากับพื้นที่คือหัวใจสำคัญ" แหล่งข่าวระบุ

ปตท. เขย่าพอร์ต ยึดหลัก "Cut Loss"

การยุติกิจการร่วมทุนครั้งนี้ สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานในภาพใหญ่ของ กลุ่ม ปตท. ที่กำลังเดินหน้าจัดระเบียบพอร์ตการลงทุน (Portfolio Restructuring) อย่างเข้มข้น แหล่งข่าวเสริมว่า กลุ่ม ปตท. มีการยุติกิจการในบริษัทลูกหลายแห่งที่ไม่สามารถทำกำไรได้ หรือไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน

"ช่วงก่อนโควิด ธุรกิจหลายอย่างดูเหมือนจะไปได้ดี แต่เมื่อโลกเปลี่ยน เศรษฐกิจเปลี่ยน การปรับตัวจึงจำเป็น ต้องยอมรับว่าแม้แต่โรงงานประกอบยานยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือการขายสัดส่วนหุ้นบางธุรกิจ กลุ่ม ปตท. ก็ต้องตัดสินใจทำเพื่อรักษาสถานะทางการเงิน"

CENTEL แจ้ง ตลท. ดึงเงิน 56 ล้าน เสริมทัพจุดอื่น

ด้านความเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการ นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และรองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร CENTEL ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2568 มีมติอนุมัติให้บริษัทย่อยทางอ้อมอย่าง CENTRAL RESTAURANTS GROUP (VIETNAM) COMPANY LIMITED (CRG VN) ดำเนินการเลิกกิจการร่วมทุนใน ORCG

สำหรับโครงสร้างของ ORCG นั้น เป็นการร่วมทุนระหว่าง CRG VN (ถือหุ้น 40%) และ PTTOR International Holdings (Singapore) Pte. Ltd. (ถือหุ้น 60%) โดย CENTEL ระบุสาเหตุชัดเจนว่าเกิดจาก "การแข่งขันที่รุนแรง" ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์

ในส่วนของผลกระทบทางการเงิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 CENTEL มีมูลค่าเงินลงทุนคงเหลือใน ORCG อยู่ที่ 56.0 ล้านบาท ซึ่งภายหลังกระบวนการชำระบัญชีเสร็จสิ้น เงินจำนวนดังกล่าวจะถูกนำกลับมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับ "กิจการร่วมทุนอื่น" ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงกว่า สะท้อนความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการความเสี่ยงในต่างประเทศของกลุ่มเซ็นทรัล