เปิดทาง‘เขตเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภูมิภาค’ ดึงมหาวิทยาลัยดังระดับโลกจัดตั้งในพื้นที่

เปิดทาง‘เขตเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภูมิภาค’ ดึงมหาวิทยาลัยดังระดับโลกจัดตั้งในพื้นที่

พื้นที่เขตพัฒาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ได้ประมาณการความต้องการบุคลากรในพื้นที่ ช่วงปี 2562 - 2566 ไว้จำนวน 475,688 อัตรา

ตามความต้องการในแต่ละสาขาอุตสาหกรรมที่อยู่ในแผนส่งเสริมซึ่งมีทั้งจำนวนบุคลากรและระดับการศึกษาแตกต่างกันไป เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ มีความต้องการทั้งหมด 37,526 ตำแหน่ง แบ่งเป็นอาชีวศึกษา 21,885 ตำแหน่งปริญญาตรี

14,277ตำแหน่งปริญญาโท - เอก1,364ตำแหน่ง หากประเมินตามทิศทางขับเคลื่อนของโลกแล้วจะพบว่า  ไทยต้องเติมเต็มทั้งจำนวนและขีดความสามารถบุคลากรในพื้นที่เขตเศรษฐกิจต่างๆอีกมาก ซึ่งบทบาทสำคัญจะต้องไปอยู่ที่ “สถาบันการศึกษา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบการกำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษอื่นให้เป็นพื้นที่จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศอีก 4 พื้นที่ ได้แก่ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลาง-ตะวันตก และระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้

เพื่อเป็นเขตพื้นที่จัดการศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งสอดคล้องกับมติ ครม. (20 ก.ย. 2565) ที่เห็นชอบการกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 พื้นที่ข้างต้น (เดิมมี 1 พื้นที่ คือ อีอีซี)

2. เห็นชอบทบทวนมติ ครม. (17 ต.ค. 2560) เรื่อง ขอความเห็นชอบหลักเกณฑ์ รูปแบบ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการจัดการศึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และข้อกฎหมายปัจจุบัน เช่น สถาบันอุดมศึกษาฯ ต้องได้รับการรับรองในสาขาวิชาจากการจัดอันดับของ QS(Quacquarelli Symonds : เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัย)หรือ THE (การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของ Times Higher Education)หรือหน่วยงานอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการพัฒนาการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ (คพอต.) ประกาศกำหนดในอันดับที่สูงหรืออย่างน้อยต้องดีกว่าอันดับของสาขาวิชานั้น ๆ ของสถาบันอุดมศึกษาในไทย

นอกจากนี้ ให้มีการจัดทำแผนการรับนักศึกษาโดยกำหนดสัดส่วนของนักศึกษาไทยและต่างชาติให้เหมาะสม สถาบันอุดมศึกษาฯ ต้องยื่นคำขออนุญาตจัดการศึกษา พร้อมหลักฐานต่อคณะอนุกรรมการดำเนินการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาฯ ตามแบบที่กำหนด

3. รับทราบแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาฯ ตามข้อเสนอโครงการขับเคลื่อนอุดมศึกษาสู่การเป็นศูนย์กลางการศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับภูมิภาค เพื่อ 1.ส่งเสริมนโยบาย “การจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาฯ” ภายใต้รูปแบบการจับคู่ความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาของไทยและ/หรือภาคเอกชนของไทยในฐานะหุ้นส่วนทางการศึกษา 2.ยกระดับระบบอุดมศึกษาของประเทศให้เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ และเป็นศูนย์กลางการศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับภูมิภาคและจุดหมายปลายทางด้านการศึกษา

รายงานข่าวแจ้งว่า ตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. 2564 โดยเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ตามระเบียบฯ แบ่งเป็น 2 ส่วนสําคัญ ได้แก่

1. ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4ภาค (เริ่มดําเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 ) ประกอบด้วย ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern Economic Corridor : NEC) - Creative LANNA ,ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeastern Economic Corridor : NeEC) – Bio economy ,ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลาง – ตะวันตก(Central - Western Economic Corridor : CWEC) และระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้(Southern Economic Corridor : SEC)

2. เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน 10 แห่ง ได้แก่ ตาก เชียงราย กาญจนบุรี หนองคาย นครพนม มุกดาหาร สระแก้ว ตราด สงขลาและนราธิวาส ฃ

นอกจากนี้ ยังมี เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 โดยอีอีซี ที่ได้มีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาจากต่างประเทศเพื่อพัฒนาคุณภาพระบบการศึกษาและสมรรถนะของบุุคลากรในอาชีพให้ได้มาตรฐานในระดับสากล โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ ได้แก่มหาวิทยาลัยอมตะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน(National Taiwan University) เปิดหลักสูตรสาขาวิศวกรรมIntelligent Manufacturing System โดยมุ่งเน้นการพัฒนาหุ่นยนต์ที่จะเข้ามาช่วยระบบการผลิตแบบอัตโนมัติ และอุตสาหกรรมยานยนต์

โปรแกรม CMU-Thailand เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน (Carnegie Mellon)และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL)เพื่อเปิดสอนหลักสูตรสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์

สถาบันการจัดการธุรกิจบริการและการโรงแรมด้วยความร่วมมือด้านวิชาการกับเลส์ โรชส์ Asian Institute of Hospitality Management, In Academic Association with Les Roches (AIHM)ก่อตั้งโดย ไมเนอร์ โฮเทลส์ โดยความร่วมมือด้านวิชาการสถาบัน เลส์ โรชส์ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการศึกษาสาขาการบริการระดับโลกAIHM เปิดสอนหลักสูตร Bachelor of Business Administration in Global Hospitality Management

สำหรับ การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกประจำปี 2025 ของTimes Higher Education (THE) ระบุ ให้มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก 3 อันดับแรก ได้แก่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด(อันดับ 1),สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT)(อันดับ 2) และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด(อันดับ 3)โดยเกณฑ์การจัดอันดับจะพิจารณาจาก 5 ด้านหลัก ได้แก่ การสอน, สภาพแวดล้อมการวิจัย, คุณภาพงานวิจัย, รายได้จากอุตสาหกรรม และความเป็นนานาชาติ

ด้านมหาวิทยาลัยไทยในอันดับโลก (THE) ปี 2025 ได้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย:อันดับ 601–800 ,มหาวิทยาลัยมหิดล:อันดับ 601–800.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี:อันดับ 801–1000.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่:อันดับ 1001–1200.มหาวิทยาลัยขอนแก่น:อันดับ 1001–1200 . มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ:อันดับ 1201–1500.มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง:อันดับ 1201–1500

การยกระดับและปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศเพื่อให้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ มีรากฐานมาจากการศึกษาและคุณภาพของบุคลากร แม้ปัจจุบันไทยกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจโตไม่เต็มศักยภาพและจำนวนประชากรลดลงอย่างมาก ดังนั้นการเติมคุณภาพให้คนคือทางออกเพื่อทำให้เศรษฐกิจและประเทศไทยยังพัฒนาเท่าทันโลกได้ต่อไป

เปิดทาง‘เขตเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภูมิภาค’ ดึงมหาวิทยาลัยดังระดับโลกจัดตั้งในพื้นที่