TDRI ชี้ไทยเสี่ยงถูกอาเซียนแซง แนะเร่งสร้าง Good Jobs-โมเดลการผลิตใหม่

TDRI ชี้เศรษฐกิจไทยโตต่ำต่อเนื่องหลายทศวรรษ เสี่ยงถูกแซงหน้าในอาเซียน "ดร.สมเกียรติ" ระบุ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ตั้งเป้าให้ไทยเป็นประเทศรายได้สูงในปี 2579 "แทบไม่สามารถบรรลุผลได้" แนะต้องเร่งสร้าง “Good Jobs” และโมเดลการผลิตใหม่พ้นกับดักรายได้ปานกลาง
KEY
POINTS
- ดร.สมเกียรติ ประธาน TDRI ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเข้าสู่ภาวะ “โตช้าเรื้อรัง” เติบโตเหลือเพียง 2% รั้งท้ายในเอเชีย และคาดว่าภายในปี 2073 รายได้ต่อหัวของเวียดนามจะสูงกว่าไทย
- ปัญหาการเติบโตต่ำส่งผลกระทบต่อประชาชน ทำให้หนี้ครัวเรือนสูง และคนทำงานจำนวนมากมี "รายได้ไม่พอ" แม้จะไม่ได้ว่างงานก็ตาม
- ทางออกสำคัญคือ การสร้าง "งานดี" (Good Jobs) ที่มีรายได้เพียงพอ มีสวัสดิการ และความก้าวหน้า ซึ่งจะนำไปสู่สังคมที่สงบ และการเมืองที่มีเสถียรภาพ
- ชี้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลเน้นกระตุ้นฝั่ง "การใช้จ่าย" มากเกินไป แต่ละเลยฝั่ง "การผลิต" ทำให้เครื่องยนต์เศรษฐกิจเร่งไม่ขึ้นเมื่อเผชิญกับปัญหาหนี้สูง และการส่งออกที่ยากขึ้น
- เสนอโมเดลการผลิตใหม่ 4 ด้านเพื่อเป็นทางรอด ได้แก่ 1.ปฏิวัติภาคเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูง 2. ยกระดับบริการท่องเที่ยวและร้านอาหาร 3. ผลักดันบริการสมัยใหม่ (Modern Services) และ 4. ดึงอุตสาหกรรมถ่ายทำภาพยนตร์เป็นเครื่องยนต์ใหม่
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) จัดสัมมนาประจำปีหัวข้อ "Reimagining Thailand's Development Model : ก้าวข้ามโลกเก่า ด้วยโมเดลใหม่ในการพัฒนาประเทศ"
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวสัมมนาหัวข้อ เครื่องจักรการเติบโตใหม่ในยุคโลกาภิวัตน์ย้อนกลับ" ว่า เศรษฐกิจไทย กำลังเข้าสู่ภาวะ “โตช้าเรื้อรัง” ต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 ปี โดยแม้ประเทศไทยเคยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึง 7% ต่อปี แต่ปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 2% เท่านั้น ส่งผลให้ไทยรั้งท้ายภูมิภาคเอเชีย เหลือนำหน้าเพียงญี่ปุ่นประเทศเดียว
ดร.สมเกียรติ กล่าวว่า วิกฤติเศรษฐกิจในรอบหลายทศวรรษไม่ได้กระทบชั่วคราว แต่ได้ทำให้ศักยภาพการเติบโตของไทยลดลงอย่างถาวร หากแนวโน้มยังเป็นเช่นนี้ ภายในไม่เกินปี 2073 รายได้ต่อหัวของชาวเวียดนามจะสูงกว่าไทย ขณะที่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ตั้งเป้าให้ไทยเป็นประเทศรายได้สูงในปี 2579 (2036) “แทบไม่สามารถบรรลุผลได้” เพราะรายได้ต่อหัวไทยเพิ่มขึ้นช้ากว่าประเทศรายได้สูงอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก TDRI ระบุว่า ระหว่างปี 2021–2024 การเติบโตต่อหัวของไทยเฉลี่ยเพียง 0.1% ต่ำจน “ไม่มีวันไล่ทันประเทศรายได้สูง” หากไม่ปฏิรูปเชิงโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยปัญหาการโตต่ำยังส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น 1. หนี้ครัวเรือนยังสูงกว่า 80% ของ GDP แม้เริ่มชะลอลง 2. ธนาคารไม่ปล่อยกู้ SME เพราะเสี่ยงหนี้เสีย 3. ภาครัฐต้องอุ้มหลายภาคส่วน ทั้งครัวเรือน เกษตรกร และธุรกิจ ทำให้หนี้สาธารณะพุ่งสูง
นอกจากนี้ ค่าจ้างแรงงานต่อ GDP ลดลงต่อเนื่อง สะท้อนว่าผลตอบแทนไปสู่ทุนนิยมมากกว่าแรงงาน ทั้งนี้ ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศที่ว่างงานสูง แต่เป็นประเทศที่คนทำงานแล้ว "รายได้ไม่พอ” โดยแรงงานจำนวนมากไม่สามารถเลี้ยงชีพครอบครัวได้อย่างมีศักดิ์ศรี
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเศรษฐกิจยังเชื่อมโยงไปถึงสังคม และการเมือง เช่น การทุจริต ความไม่โปร่งใส ความอ่อนแอของระบบนิติธรรม รวมถึงความเสี่ยงที่ไทยจะกลายเป็น “ประเทศสีเทา” หากปล่อยให้เครือข่ายฟอกเงิน-อาชญากรรมข้ามชาติขยายตัวต่อเนื่อง
ดร.สมเกียรติ กล่าวย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องสร้างงานดี (Good Jobs) ที่ให้รายได้เพียงพอ มีสวัสดิการ ความปลอดภัย และความก้าวหน้า เพราะหากคนมีงานดี สังคมจะสงบ การเมืองมีเสถียรภาพ และประเทศจะโตได้อย่างยั่งยืน
"Good Job จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อประชาชนมีทักษะสูงขึ้น ระบบการผลิตเข้มแข็ง และธุรกิจสามารถแข่งขันได้จริง"
ดร.สมเกียรติ ได้กล่าวเปรียบเทียบว่า เศรษฐกิจไทยหากเปรียบเสมือนเครื่องบิน จะมี 4 เครื่องยนต์สำคัญด้านการใช้จ่าย ได้แก่ การบริโภค, การลงทุนเอกชน, การใช้จ่ายภาครัฐ และการส่งออก รวมถึง 4 เครื่องยนต์ด้านการผลิต ได้แก่ ภาคการเกษตร, อุตสาหกรรม, บริการ และบริการภาครัฐ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลเน้นเร่งฝั่ง “การใช้จ่าย” มากเกินไป ขณะที่ “การผลิต” ถูกละเลย ทำให้ประเทศโอเวอร์โหลด และเมื่อครัวเรือนมีหนี้สูง การลงทุนสะดุด และการส่งออกยากขึ้น เครื่องยนต์เศรษฐกิจจึงเร่งไม่ขึ้น
โดยปัญหาใหญ่ 3 ด้านของภาคการผลิตไทย อาทิ แรงงานขาดแคลนรุนแรง, อัตราการเกิดลดลงต่อเนื่อง, อุบัติเหตุคร่าชีวิตปีละเกือบ 20,000 คน และมลพิษคร่าชีวิตหลายหมื่นคนเช่นกัน, การเกณฑ์ทหารถูกดึงแรงงานออกปีละ 70,000 คน, คุณภาพการศึกษาต่ำ ไม่ช่วยเพิ่มผลิตภาพ, งบลงทุนรัฐลดลงเพราะงบประจำสูง การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เข้ามาไม่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ รวมถึงกฎระเบียบล้าหลัง ขัดขวางการลงทุนใหม่
"ปัจจุบันการผลิตสินค้ายังมีผลิตภาพต่ำ โดยเกษตรยังเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ที่แข่งขันด้านราคา รวมถึงเงินลงทุนด้านวิจัย R&D ต่ำมาก ทรัพยากรถูกบิดเบือนจากนโยบายที่ไม่ตรงเป้า"
ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ได้แก่ 1. สหรัฐตั้งกำแพงภาษีสูงที่สุดในรอบหลาย 10 ปี 2. ยุโรปออกมาตรการสิ่งแวดล้อม (CBAM, EUDR) และ 3. จีนสินค้าล้นตลาด ทำให้ราคาสินค้าอุตสาหกรรมตกต่ำทั่วโลก
โดยสถานการณ์นี้ทำไทยถูกบีบทั้งในตลาดโลก และในประเทศ โดยทางรอดนั้น ไทยควรมีโมเดลใหม่ด้านการผลิตไทย แบ่งเป็น
1. ปฏิวัติภาคเกษตร ต้องเลิกคิดว่าไทยต้องมีแรงงานเกษตร 30% เพราะไม่มีประเทศรายได้สูงใดมีแรงงานภาคเกษตรมากขนาดนี้ ดังนั้น ทิศทางใหม่คือ เกษตรพรีเมียม-เกษตรมูลค่าสูง เช่น ประเทศญี่ปุ่น ที่เพาะปลูกเมล่อนพรีเมียม, ปูนิฮอกไกโด หรือเนื้อวากิวที่มีมูลค่าสูง ซึ่งประเทศไทย มีพืชเกษตรกรที่สร้างรายได้ได้ดี อาทิ ไผ่เศรษฐกิจ, กล้วยน้ำว้า, ปูทะเล และถ่านชีวภาพ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดคือโอกาสเศรษฐกิจฐานรากที่สร้างรายได้จริง
2. ยกระดับบริการ ใช้จุดแข็งร้านอาหาร-ท่องเที่ยวไทย โดยประเทศไทยมีร้านอาหารหนาแน่นติดอันดับโลก และติดอันดับสูงใน Michelin Guide หมวด “อร่อยราคาย่อมเยา” แต่ยังสู้สิงคโปร์ไม่ได้ในด้าน Michelin Star สะท้อนว่าระบบสนับสนุนภาครัฐยังไม่เข้มแข็ง
ดังนั้น ไทยควรพัฒนาด้านการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์, ระบบไอที, การสืบทอดกิจการ, การทำแบรนด์ส่งออก, ผลักดันร้านไทยไปต่างประเทศ (เหมือนสิงคโปร์ผลักดัน JUMBO Seafood), บริการควรปรับจาก non-tradable สู่ tradable เพื่อให้ส่งออกได้มากขึ้น
3. ผลักดันบริการสมัยใหม่ (Modern Services) เช่น การออกแบบชิป (เหมือนอินเดียที่เป็นผู้ออกแบบ 1 ใน 5 ของโลก) ยกระดับบริการ IT–Digital, บริการวิชาชีพ Creative Economy ถือเป็นภาคที่มีต้นทุนย้ายข้ามพรมแดนต่ำ ไม่ถูกภาษีศุลกากรเหมือนสินค้าอุตสาหกรรม
4. ดึงอุตสาหกรรมถ่ายภาพยนตร์ ซีรีส์เป็นเครื่องยนต์ใหม่ โดยปีนี้มีต่างชาติมาถ่ายทำในไทยกว่า 451 เรื่อง สร้างรายได้แล้ว 7,000 ล้านบาท ซึ่งหนังใหญ่หลายเรื่อง เช่น Jurassic Park หรือ Alien Earth ถ่ายทำในไทยจำนวนมาก ช่วยให้เม็ดเงินกระจายสู่แรงงานไทยโดยตรง ตั้งแต่ช่างไฟ–ช่างกล้อง–นักแสดงประกอบ ไปจนถึงโรงแรม รถรับส่ง และทีมงานเบื้องหลัง สร้างงานดีจำนวนมาก อุตสาหกรรมนี้สามารถโตได้อีกมาก หากรัฐเพิ่มวงเงินส่งเสริม และจัดการระบบให้โปร่งใส
"ไทยต้องสร้างเครื่องยนต์ใหม่ ถ้าไม่อยากถูกทิ้งหลังอาเซียน โดยประเทศไทยต้องใช้แรงงาน-ทุนที่มีให้คุ้มค่า สร้างเครื่องยนต์ใหม่ในเกษตร-อุตสาหกรรม-บริการ ลดการพึ่งพาเครื่องยนต์ “การใช้จ่าย” เพิ่มผลิตภาพ สร้างงานดี เร่งการปรับตัวต่อโลกาภิวัตน์ย้อนกลับ หากไม่เริ่มวันนี้ ไทยจะเสี่ยงกลายเป็นประเทศรายได้ต่ำกว่าเพื่อนบ้าน และถูกกลไกเศรษฐกิจโลกทิ้งห่างไปเรื่อยๆ"
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







