'พิพัฒน์' พบสหภาพแรงงานการทางพิเศษฯ ถกแนวทางโครงการ Double Deck

“พิพัฒน์” พบสหภาพแรงงานการทางพิเศษฯ รับฟังข้อเสนอและแนวทางดำเนินโครงการ Double Deck ยันผู้ใช้งานจริงต้องได้ประโยชน์ รัฐไม่เสียประโยชน์ องค์กรอยู่ได้ และเอกชนไม่เอาเปรียบเกินไป
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมหารือกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) นำโดย นายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และนายสาวิทย์ แก้วหวาน ที่ปรึกษาสหภาพฯ โดยระบุว่า การหารือครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ทุกฝ่ายได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดในการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษ
โดยเฉพาะโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่สอง (Double Deck Expressway) ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในกว่า 21 โครงการของการทางพิเศษที่อยู่ในแผนการแก้ไขปัญหาการจราจรบนโครงข่ายทางพิเศษทั้งระบบที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติรับทราบผลการศึกษาตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) วันที่ 5 เม.ย. 2565
อย่างไรก็ดี ขอย้ำว่าแนวทางการพิจารณาโครงการใดๆ หลักสำคัญคือ ผู้ใช้งานจริงต้องได้ประโยชน์ รัฐต้องไม่เสียประโยชน์ องค์กรต้องอยู่ได้ และเอกชนต้องไม่เอาเปรียบเกินไป โดยรัฐบาลมีแนวทางลดภาระค่าครองชีพ โดยหาแนวทางเพื่อจัดทำมาตรการสนับสนุน เช่น รถไฟฟ้า 40 บาท ทางด่วน 50 บาท แต่ทุกอย่างต้องทำด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และไม่เพิ่มภาระหนี้สาธารณะของประเทศ
นายพิพัฒน์ ยังระบุว่า การลดค่าทางด่วนให้มองในภาพรวมและผลที่จะได้รับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของรายได้ลดลงเพียงด้านเดียว เพราะหากบริหารจัดการอย่างเหมาะสม จะเพิ่มปริมาณผู้ใช้บริการและสร้างสมดุลระหว่างรัฐ เอกชน และผู้บริโภค ทั้งนี้ขอบคุณสหภาพแรงงานฯ ที่นำข้อมูลมาชี้แจงและแสดงจุดยืนเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้ทาง
อีกทั้งตนได้มอบหมายให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำข้อเสนอและเอกสารจากสหภาพแรงงานฯ ไปศึกษาต่อในรายละเอียด โดยจะหารือร่วมกับปลัดกระทรวงคมนาคม การทางพิเศษฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรายงานต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอย่างรอบด้านก่อนดำเนินการ
ด้านนายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า การเข้าพบในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ข้อมูลเชิงเทคนิคและข้อเสนอแนะต่อกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินโครงการ Double Deck โดยเฉพาะในประเด็นผลกระทบต่อผู้ใช้งานทางพิเศษ การต่ออายุสัมปทาน และการดูแลประชาชนที่อยู่ในแนวก่อสร้าง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความสมดุลระหว่างทุกฝ่าย
พร้อมกันนี้ สหภาพฯ ได้แสดงความขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่เปิดใจรับฟังความคิดเห็น และยินดีดำเนินการร่วมกับกระทรวงคมนาคมในการศึกษาทางเลือกต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับผู้ใช้งานทางพิเศษและประชาชนในภาพรวม







