เปิดชื่ออนุกรรมการตรวจเส้นทางเงินเทา 'เอกนิติ' นั่งประธาน ลุยสอบปมฟอกเงินผิดกม.

เปิดชื่ออนุกรรมการตรวจเส้นทางเงินเทา 'เอกนิติ' นั่งประธาน ลุยสอบปมฟอกเงินผิดกม.

"อนุทิน" ลงนามตั้งอนุกรรมการตรวจสอบเส้นทางเงินเทา "เอกนิติ" นั่งหัวโต๊ะ สั่งลุยเชื่อมข้อมูล ชงแนวทางยกระดับสกัดฟอกเงิน ขีดเส้น ธ.ค. นี้ ต้องชี้จุดรั่วระบบเศรษฐกิจให้ได้

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ลงนามใน คำสั่งคณะกรรมการฯ ที่ 7/2568 เรื่อง "แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเชื่อมโยงข้อมูลทางการเงินเพื่อยกระดับการติดตามตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินต้องสงสัย"

โดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการติดตามตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินต้องสงสัย จึงอาศัยอำนาจตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 341/2568 ลงวันที่ 15 ต.ค. 2568 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวขึ้น

สำหรับองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการชุดนี้ ถือเป็นการรวบรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนไว้ทั้งหมด โดยมี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานอนุกรรมการ

พร้อมด้วยรองประธานอนุกรรมการ 3 คน ได้แก่

  1. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม (รองประธานฯ คนที่ 1)
  2. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (รองประธานฯ คนที่ 2)
  3. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองประธานฯ คนที่ 3)

ขณะที่รายชื่ออนุกรรมการ ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานสำคัญ อาทิ ปลัดกระทรวงการคลัง, ปลัดกระทรวงดีอีเอส, ปลัดกระทรวงพาณิชย์, ปลัดกระทรวงยุติธรรม, เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.), ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), ประธานสมาคมธนาคารไทย และประธานสมาคมการเงินเพื่อการลงทุนของรัฐ

โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นเลขานุการ พร้อมด้วยรองเลขาธิการ ก.ล.ต. และผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. เป็นเลขานุการร่วม

ลุยเชื่อมข้อมูล-สกัดฟอกเงิน

สำหรับหน้าที่และอำนาจของคณะอนุกรรมการชุดนี้ มีสาระสำคัญคือ

1.ศึกษา วิเคราะห์ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับช่องทาง กลไก หรือร่องรอยการโอน-ยักย้ายเงินทุน ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

2.รวบรวม แลกเปลี่ยน และเชื่อมโยงข้อมูล ระหว่างหน่วยงาน เพื่อป้องกันและปราบปรามธุรกรรมทางการเงินต้องสงสัย

3.เสนอแนวทางยกระดับ การกำกับดูแลและการเชื่อมโยงข้อมูล ต่อคณะกรรมการชุดใหญ่

4.แต่งตั้งคณะทำงาน หรือมอบหมายบุคคล เพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน

5.เชิญหน่วยงานรัฐหรือเอกชน ที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริง

6.ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย

ลั่น ธ.ค. นี้ ต้องรู้จุดรั่ว

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ เปิดเผยว่า ภารกิจสำคัญของคณะอนุกรรมการชุดนี้ คือการบูรณาการข้อมูลและการทำงานร่วมกัน หรือ "Connect the Dots" โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเชื่อมจุดข้อมูลกัน โดยเฉพาะในยุคที่มีการทำธุรกรรมที่ตรวจจับยาก เช่น คริปโทเคอร์เรนซี โดยวางแผนระยะยาวว่าจะต้องทำให้เกิดการยกระดับการตรวจสอบการฟอกเงินตามมาตรฐานให้ทัดเทียมสากล

"ได้ตั้งเป้าหมายว่าอย่างน้อยที่สุด ภายในเดือน ธ.ค. นี้ จะต้องเห็นว่า เส้นทางของจุดต่างๆ ที่เป็นรอยรั่วในระบบเศรษฐกิจไทยนั้นอยู่ตรงไหน และจะต้องมีการยกระดับมาตรฐานนั้นอย่างไร" นายเอกนิติ กล่าว

สำหรับการดำเนินการในช่วงแรกนั้น จะดำเนินการตรวจสอบภายใต้กฎหมายปัจจุบัน โดยใช้กฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้อง และอาจต้องมีการออกมาตรการเพิ่มเติมหากมีความจำเป็น