‘ไทย-มาเลเซีย-เวียดนาม-กัมพูชา’เซ็นต์รับดีล‘เมด อิน ยูเอสเอ’

‘ไทย-มาเลเซีย-เวียดนาม-กัมพูชา’เซ็นต์รับดีล‘เมด อิน ยูเอสเอ’

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ความร้อนแรงของการเมืองและการค้าแห่งภูมิภาคอาเซียนกับสหรัฐได้สะท้อนผ่านข้อตกลงการค้าที่สหรัฐลงนามกับไทย มาเลเซีย กัมพูชา และเวียดนาม

KEY

POINTS

 

 

โครงสร้างข้อตกลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเพื่อทำให้การค้ามีความเป็นธรรมมากขึ้นในมุมของสหรัฐ ผ่านการเปิดตลาดในประเทศให้สินค้าสหรัฐมากขึ้น และการซื้อสินค้าของสหรัฐตาที่ตกลงกันไว้ 

ข้อมูลจากเวบไซด์ผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) เปิดเผยถึง แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยกรอบข้อตกลงว่าด้วยการค้าต่างตอบแทนระหว่างสหรัฐและไทย  (JOINT STATEMENT) สาระสำคัญระบุว่าประเทศไทยจะยกเลิกอุปสรรคทางภาษีสำหรับสินค้าประมาณ 99% ครอบคลุมสินค้าอุตสาหกรรม อาหาร และเกษตรกรรมทุกประเภทของสหรัฐ

ขณะที่สหรัฐจะคงอัตราภาษีศุลกากรส่วนต่างไว้ที่19%  ตามที่กำหนดไว้ในคำสั่งฝ่ายบริหารที่ 14257 ลงวันที่ 2 เม.ยง 2568 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เกี่ยวกับสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศไทย และจะระบุสินค้าจากรายการที่กำหนดไว้ในภาคผนวก III ของคำสั่งฝ่ายบริหารที่ 14346 ลงวันที่ 5 ก.ย. 2568 เรื่อง การปรับอัตราภาษีศุลกากรที่อาจเกิดขึ้นสำหรับพันธมิตรร่วม จะได้รับอัตราภาษีศุลกากรส่วนต่างเป็น0%

ทั้งนี้สหรัฐและไทยจะทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรของไทยที่ส่งผลกระทบต่อการค้าทวิภาคี โดยประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะแก้ไขอุปสรรคต่อการส่งออกของสหรัฐซึ่งรวมถึง: การยอมรับรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐ ที่ผลิตขึ้นให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและการปล่อยมลพิษของยานยนต์ของรัฐบาลกลางสหรัฐ

 การยอมรับใบรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) และใบอนุญาตการตลาดก่อนหน้าสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาว่าเพียงพอต่อความต้องการของไทย การออกใบอนุญาตนำเข้าเอทานอลจากสหรัฐ สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง การแก้ไขกฎหมายศุลกากรเพื่อยกเลิกระบบการให้รางวัลศุลกากร(customs reward system)ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดและบทลงโทษทางศุลกากร และการนำแนวปฏิบัติที่ดีด้านกฎระเบียบมาใช้และปฏิบัติตาม

นอกจากนี้ ประเทศไทยจะจัดการและป้องกันอุปสรรคต่อสินค้าอาหารและสินค้าเกษตรของสหรัฐ ในตลาดไทย รวมถึงการเร่งรัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และสัตว์ปีกที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานบริการความปลอดภัยและการตรวจสอบอาหารแห่งสหรัฐ (FSIS) โดยประเทศไทยจะจัดการกับสารก่อภูมิแพ้และรับรองว่าข้อกำหนดที่กำหนดให้กับผลิตภัณฑ์พืชสวนของสหรัฐ รวมถึงธัญพืชอบแห้งกลั่นพร้อมสารละลาย เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์และความเสี่ยง ประเทศไทยให้คำมั่นที่จะยอมรับใบรับรองที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐตกลงกันไว้ในปัจจุบัน

สหรัฐและประเทศไทยจะสรุปพันธกรณีที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิแรงงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่าสิทธิของแรงงานในการรวมกลุ่มและการเจรจาต่อรองร่วมได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ และเสริมสร้างการบังคับใช้กฎหมายแรงงาน รวมถึงการแก้ไขการละเมิดในภาคส่วนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการใช้แรงงานบังคับและแรงงานเด็ก

 “ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะนำมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมระดับสูงมาใช้และรักษาไว้ ซึ่งรวมถึงการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ”

 รวมถึงการดำเนินมาตรการเพื่อต่อสู้กับการค้าผลิตภัณฑ์จากป่าที่ตัดมาอย่างผิดกฎหมาย; การส่งเสริมเศรษฐกิจที่ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น; การยอมรับและปฏิบัติตามข้อตกลงขององค์การการค้าโลก (WTO) ว่าด้วยการอุดหนุนการประมงอย่างเต็มที่; และการต่อสู้กับการประมงและการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม

สหรัฐและประเทศไทยจะสรุปข้อผูกพันเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาทรัพย์สินทางปัญญาที่มีมายาวนาน รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าและการละเมิดลิขสิทธิ์ องค์กรจัดการร่วมที่ฉ้อโกง การหลีกเลี่ยงมาตรการคุ้มครองทางเทคโนโลยี และปัญหาสิทธิบัตรค้างส่ง

สหรัฐและประเทศไทยจะสรุปข้อผูกพันของประเทศไทยเพื่อแก้ไขอุปสรรคที่ส่งผลกระทบต่อการค้า บริการ และการลงทุนดิจิทัล ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะงดเว้นการจัดเก็บภาษีบริการดิจิทัลหรือมาตรการที่เลือกปฏิบัติต่อบริการดิจิทัลหรือผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของสหรัฐ; เพื่อให้มั่นใจว่ามีการถ่ายโอนข้อมูลข้ามพรมแดนที่เชื่อถือได้อย่างเสรีเพื่อการดำเนินธุรกิจ; เพื่อสนับสนุนการระงับภาษีศุลกากรสำหรับการส่งผ่านข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อย่างถาวรที่WTO

 การงดเว้นการกำหนดโควตาภาพยนตร์สำหรับภาพยนตร์ การผ่อนคลายข้อจำกัดการถือครองกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติสำหรับการลงทุนของสหรัฐ ในภาคโทรคมนาคมของไทย และการยกเลิกข้อกำหนดการดำเนินการภายในประเทศสำหรับธุรกรรมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคภายในประเทศทั้งหมดสำหรับบัตรเดบิตที่ออกในประเทศไทย และจะสรุปพันธกรณีเพื่อแก้ไขพฤติกรรมบิดเบือนของรัฐวิสาหกิจ

สหรัฐและไทยจะเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นและนวัตกรรมในห่วงโซ่อุปทาน ผ่านการดำเนินการที่เสริมซึ่งกันและกันเพื่อแก้ไขการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของบุคคลที่สาม และร่วมมือกันในการควบคุมการส่งออก ความมั่นคงด้านการลงทุน และการต่อสู้กับการหลีกเลี่ยงภาษี

ในแถลงการณ์ร่วมยังระบุอีกว่า สหรัฐและไทยรับทราบถึงข้อตกลงทางการค้าที่จะเกิดขึ้นระหว่างบริษัทสหรัฐและไทยในภาคเกษตรกรรม พลังงาน และการบิน ซึ่งรวมถึง การจัดซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง และธัญพืชแห้งกลั่นพร้อมสารละลาย(dried distiller grains with solubles) มูลค่าประมาณ 2,600 ล้านดอลลาร์ต่อปี ,การจัดซื้อผลิตภัณฑ์พลังงาน ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติเหลว น้ำมันดิบ และอีเทน มูลค่าประมาณ 5,400 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และการจัดซื้อเครื่องบินสหรัฐ จำนวน 80 ลำ มูลค่ารวม 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์

“ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า สหรัฐและไทยจะเจรจาและสรุปความตกลงว่าด้วยการค้าต่างตอบแทน เตรียมการลงนามในความตกลง และดำเนินการตามพิธีการภายในประเทศก่อนที่ความตกลงจะมีผลบังคับใช้”

สำหรับแถลงการร่วมกับเวียดนาม สาระสำคัญคล้ายกับประเทศไทย โดยในส่วนข้อตกลงการซื้อสินค้ากับสหรัฐ ประกอบด้วย ความตกลงร่วมกันในด้านการเกษตร การบินและอวกาศ และพลังงาน ซึ่งสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ตกลงที่จะซื้อเครื่องบิน 50 ลำจากโบอิ้ง ซึ่งมีมูลค่ากว่า 8 พันล้านดอลลาร์

บริษัทเวียดนามได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับบริษัทสหรัฐ จำนวน 20 ฉบับ เพื่อซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ มูลค่ารวมกว่า 2.9 พันล้านดอลลาร์

ด้านแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างสหรัฐและมาเลเซีย นั้นนอกจากเนื้อหาที่คล้ายคลึงกันแล้วยังระบุถึง ภาคส่วนแร่ธาตุและแร่ธาตุหายากโดยร่วมมือกับบริษัทสหรัฐ รวมถึงการอนุญาตให้ขยายระยะเวลาใบอนุญาตประกอบกิจการเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาคธุรกิจในการเพิ่มกำลังการผลิต มาเลเซียมุ่งมั่นที่จะรับประกันว่าจะไม่มีข้อจำกัดใดๆ ในการขายแม่เหล็กแร่ธาตุหายากให้กับบริษัทสหรัฐ

"ส่วนผลการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้นได้แก่ มาเลเซียจะการจัดซื้อเครื่องบิน 30 ลำ พร้อมสิทธิ์ในการซื้อเครื่องบินเพิ่มอีก 30 ลำ

การจัดซื้อเซมิคอนดักเตอร์ ชิ้นส่วนอากาศยาน และอุปกรณ์ศูนย์ข้อมูล มูลค่าประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์ การจัดซื้อสูงสุด 5 ล้านตัน

สำหรับมูลค่าการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวต่อปี ( 5 million tonnes per annum (MTPA) สูงถึง 3.4 พันล้านดอลลาร์ การซื้อผลิตภัณฑ์และบริการถ่านหินและโทรคมนาคมมีมูลค่า 204.10 ล้านดอลลาร์ การลงทุนกองทุนทุนในสหรัฐ 70 พันล้านดอลลาร์"

      ในส่วน แถลงการณ์ร่วมกับกัมพูชานั้น  สาระสำคัญระบุว่า กัมพูชาให้คำมั่นที่จะยกเลิกภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าอุตสาหกรรมของสหรัฐ100% และสินค้าอาหารและเกษตรของสหรัฐที่ส่งออกไปยังกัมพูชาจะดำเนินการตามพันธสัญญานี้แล้ว

กัมพูชาให้คำมั่นที่จะปกป้องสิทธิแรงงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล กัมพูชาจะประกาศใช้และบังคับใช้ข้อห้ามการนำเข้าสินค้าที่ผลิตโดยแรงงานบังคับหรือแรงงานบังคับ และเสริมสร้างการบังคับใช้กฎหมายแรงงาน

กัมพูชาให้คำมั่นที่จะประกาศใช้และรักษามาตรฐานการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในระดับสูง และบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการดำเนินมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาการตัดไม้ผิดกฎหมาย การอุดหนุนประมง การประมงผิดกฎหมาย และการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย

ข้อตกลงนี้ครอบคลุมถึงพันธกรณีเกี่ยวกับการค้าดิจิทัล บริการ การลงทุน ทรัพย์สินทางปัญญา ศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า แนวปฏิบัติด้านกฎระเบียบที่ดี และพฤติกรรมบิดเบือนของรัฐวิสาหกิจ

      “แอร์กัมพูชาให้คำมั่นที่จะร่วมมือกับโบอิ้งเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศการบินของกัมพูชาและการเติบโตของแอร์กัมพูชา” 

หลังบรรยากาศชื่นมื่นระหว่างผู้นำอาเซียนและผู้นำสหรัฐ ที่ได้ลงนามความตกลงทางการค้า การลงทุน และการยกระดับการพัฒนาร่วมกันแล้ว อันมี“แถลงการร่วม” (JOINT STATEMENT) เป็นหลักฐานนั้น ก็หวังว่าการเปิดตลาดให้สหรัฐครั้งนี้จะนำมาสู่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับไทยและอาเซียนด้วยแม้ว่าในระยะสั้นนั้นเราคงเห็นได้แค่เพียงประโยชน์แห่ง อเมริกา เฟิร์ส ก็ตาม