กระทรวงเกษตร เปิดนำเข้า ‘ยางผ่านแดน’ เมียนมา ไป มาเลเซีย ย้ำห้ามใช้ในไทย

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดนำเข้ายางผ่านแดน จากเมียนมา ผ่านไปยังมาเลเซีย ตามพรบ.ควบคุมยาง 2542 ย้ำห้ามนำมาใช้ในประเทศ อีกมาตรการป้องกันยางเถื่อน มั่นใจเจ้าหน้าที่คุมได้ หวังดันราคาในประเทศสูงขึ้น
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯได้ประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อน ซึ่งในส่วนของยางพารา พบว่ามีกว่าปีละ 3-5 แสนตัน ผ่านช่องทางธรรมชาติและช่องทางด่านศุลกากรต่างๆที่ไม่เข้มงวดในการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพ
เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว กระทรวงเกษตรฯได้ออกประกาศเขตควบคุมยาง ตามพระราชบัญญัติควบคุม พ.ศ. 2542 นำร่องใน 5 ได้แก่ เชียงราย ตาก กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และ ระนอง อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดมาตรการที่เข้มงวดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2568 เป็นต้นไป กระทรวงเกษตรได้ยกระดับให้มีการขนย้ายยางพาราผ่านแดนได้โดยเริ่มจากการนำเข้าจากเมียนมา เพื่อส่งออกไปยังมาเลเซีย
โดยการขนย้ายยางพาราทุกครั้ง จะต้องยื่นขอใบอนุญาตจากกรมวิชาการการ คิดอัตราค่าธรรมเนียม 25 บาทต่อครั้ง ห้ามนำมาใช้ในประเทศโดยเด็ดขาด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบ แหล่งที่มา คุณภาพ และปริมาณ ทั้งต้นทางและปลายทาง เพื่อรอบรองว่าเป็นยางนำเข้าเพื่อผ่านแดน ซึ่งต้องควบคุมระยะเวลาขนส่งย้ายเพียง 72 ชั่วโมงเท่านั้น หากเลยระยะเวลาที่กำหนดถือว่ากระทำผิดกฎหมาย ทั้งหมดนี้เป็นอีกมาตรการป้องการและปราบปรามสินค้าเถื่อนผิดกกฎหมายอย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะติดตามสถานการณ์ หลังจากใช้มาตรการนี้ ประกอบกับการลงนามบันทึกความเข้าใจ( MOU) ร่วม 4 กระทรวงฯ เพื่อใช้ยางในประเทศ และมาตรการขยายตลาดการรับซื้อยางพาราในต่างประเทศ่มั่นใจว่าจะทำให้ราคายางในประเทศสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนกรณีที่มีผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมยาง กดราคารับซื้อยางในประเทศ กระทรวงเกษตรฯจะใช้มาตรการเข้มงวดตรวจสอบ เบิ้องต้นพบว่ามีประมาณ 3 บริษัทรายใหญ่ จึงขอความร่วมมือให้ดำเนินอย่างถูกต้องตามระเบียบ และเป็นไปตามกลไกของตลาด โดยขณะนี่ราคายางปรับตัวสูงขึ้นจาก กิโลกรัมละ 50 บาทเป็น 60 บาทแล้วจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น เศรษฐกิจในประเทศก็จะดีขึ้น และยืนยันว่าจะเห็นราคาแตะกิโลกรัมละ 100 บาท โดยจะบริหารจัดการให้ดีที่สุด







