GDP เกษตรไตรมาส 3 ปีนี้ โต 1.4% ปัจจัยการจัดการดี‘น้ำ-โรคระบาด’

GDP เกษตรไตรมาส 3 ปีนี้ โต 1.4% ปัจจัยการจัดการดี‘น้ำ-โรคระบาด’

สศก.เผย GDP เกษตร ไตรมาส 3 ปี 68 ขยายตัว 1.4% ทุกสาขาพุ่งยกเว้นประมง คาดแนวโน้มทั้งปีโตต่อเนื่องในกรอบ 2.3 – 3.3% ปัจจัยการจัดการน้ำที่ดี-ไร้โรคระบาด จับตาความขัดแย้งการค้ากดดันราคาในประเทศ

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงภาพรวมภาวะเศรษฐกิจการเกษตร (จีดีพีเกษตร) ในไตรมาสที่3 ปี 2568(ก.ค.-ก.ย. 2568)ขยายตัว 1.4%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการบริหารจัดการน้ำที่ดี ประกอบกับปริมาณฝนที่ตกอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกของปี ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำตามธรรมชาติมีเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกและการเจริญเติบโตของพืชผลทางการเกษตร

GDP เกษตรไตรมาส 3 ปีนี้ โต 1.4% ปัจจัยการจัดการดี‘น้ำ-โรคระบาด’

        สถานการณ์ดังกล่าวเอื้อให้เกษตรกรสามารถขยายพื้นที่เพาะปลูกในที่ดินซึ่งเคยปล่อยว่าง อีกทั้งยังมีการบำรุงดูแลรักษาและเฝ้าระวังโรคระบาดในพืชและสัตว์อย่างเข้มงวดมากขึ้น แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าว บางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเผชิญกับอิทธิพลของพายุ “วิภา” และ “คาจิกิ” ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันแต่ด้วยการเตรียมความพร้อมและมาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ในวงจำกัด

เติบโตทุกสาขายกเว้นประมงดิ่ง0.2% 

จากปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าว ส่งผลให้สาขาพืช ขยายตัว 2.9% ตามมาด้วย สาขาป่าไม้ ขยายตัว1.7% และสาขาบริการทางการเกษตร ขยายตัว 1.2% ขณะที่สาขาปศุสัตว์ กลับมาขยายตัวเล็กน้อย 0.2%ส่วนสาขาประมง ยังคงหดตัว5.3%

“สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรตลอดทั้งปี2568 สศก. คาดการณ์ว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วง2.3 – 3.3% โดยมีปัจจัยหนุนจากปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อการเพาะปลูกตลอดทั้งปี”

 นอกจากนี้ยังรวมถึง การขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างต่อเนื่อง อาทิ การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ การเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ การควบคุมโรคระบาดในพืชและสัตว์ และการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับการผลิตและคุณภาพสินค้าเกษตร

GDP เกษตรไตรมาส 3 ปีนี้ โต 1.4% ปัจจัยการจัดการดี‘น้ำ-โรคระบาด’

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อาทิ ความแปรปรวนของสภาพอากาศที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น ราคาปัจจัยการผลิตหลายชนิดที่ยังคงอยู่ในระดับสูง สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ มาตรการกีดกันทางการค้าที่เข้มงวดขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจส่งผลต่อภาคการส่งออกและราคาสินค้าเกษตรในประเทศ 

ทั้งนี้ สศก. มีกำหนดจะจัดสัมมนาเพื่อนำเสนอภาพรวมภาวะเศรษฐกิจการเกษตรปี 2568 และแนวโน้มในปี 2569 ในช่วงกลางเดือน ธ.ค.2568ที่จะถึงนี้

น้ำ อากาศ ดีหนุนสาขาพืชโตเด่น2.9% 

ด้าน นายวินิต อธิสุข รองเลขาธิการ สศก. กล่าวว่า รายละเอียดในสาขาพืช ขยายตัว2.9%เนื่องจากสภาพอากาศและปริมาณน้ำที่เอื้ออำนวย ทำให้ผลผลิตต่อไร่และภาพรวมผลผลิตของพืชหลายชนิดเพิ่มขึ้น โดยพืชสำคัญที่มีผลผลิตเพิ่มขึ้นได้แก่ข้าวนาปีและข้าวนาปรังโดยปริมาณน้ำมีเพียงพอในช่วงการเพาะปลูกและการเจริญเติบโตของต้นข้าว

 

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เกษตรกรบางส่วนปรับเปลี่ยนมาปลูกทดแทน มันสำปะหลังที่ราคาลดลงและประสบปัญหาโรคใบด่าง สับปะรดปัตตาเวียต้นสับปะรดมีความสมบูรณ์ สามารถบังคับให้ออกผลได้ดีกว่าปีก่อน ยางพาราต้นยางส่วนใหญ่อยู่ในช่วงที่ให้ผลผลิตสูง ทุเรียนและลำไยราคาอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง จูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษาและขยายพื้นที่ปลูก โดยเฉพาะทางภาคใต้ และเงาะสภาพอากาศทางภาคตะวันออกเอื้ออำนวยต่อการออกดอกติดผล ส่วนพืชที่มีผลผลิตลดลงได้แก่มันสำปะหลังซึ่งแหล่งผลิตสำคัญยังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคใบด่างปาล์มน้ำมันได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวนทางภาคใต้ทำให้ทะลายปาล์มไม่สมบูรณ์ และมังคุดเกษตรกรโค่นต้นมังคุดเก่าเพื่อปรับเปลี่ยนไปปลูกทุเรียนและไม้ผลอื่นที่มีผลตอบแทนสูงกว่า

มาตรฐานผลิตตอบดีมานด์ผู้บริโภค 

สาขาปศุสัตว์ ขยายตัว0.2%จากการควบคุมมาตรฐานฟาร์มที่ดี และการขยายการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด โดยสุกรผลผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการปรับเพิ่มการเลี้ยงตั้งแต่ไตรมาส 1/2568ไก่เนื้อเพิ่มขึ้นจากการที่ผู้บริโภคหันมาบริโภคเนื้อไก่มากขึ้นเพื่อทดแทนเนื้อสุกรที่มีราคาค่อนข้างสูง และน้ำนมดิบปริมาณและคุณภาพเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงพันธุ์โคนมและพัฒนาสูตรอาหารสัตว์อย่างต่อเนื่อง ส่วนไข่ไก่ลดลงเนื่องจากมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาที่ขอความร่วมมือเกษตรกรให้ปลดไก่ตามอายุที่เหมาะสม ประกอบกับสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของแม่ไก่ ทำให้ผลผลิตไข่ไก่ลดลง

สาขาประมง หดตัว5.3%โดยผลผลิตปลานิลและปลาดุกลดลง เนื่องจากต้นทุนราคาอาหารสัตว์ ยังทรงตัวในระดับสูง ขณะที่ราคาขายปรับตัวลดลง ไม่จูงใจให้เกษตรกรลงลูกพันธุ์ปลาเพิ่ม เช่นเดียวกับผลผลิตกุ้งขาวแวนนาไมที่ลดลงจากสภาพอากาศแปรปรวน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยง ทำให้กุ้งเจริญเติบโตช้าและเกิดปัญหาการตายเฉียบพลัน ขณะที่สัตว์น้ำที่นำขึ้นท่าเทียบเรือมีปริมาณลดลง เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนหลักยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์ลดจำนวนเที่ยวการออกเรือจับสัตว์น้ำ

พื้นที่เพาะปลูกโตหนุนบริการการเกษตร 

สาขาบริการทางการเกษตร ขยายตัว1.2%เนื่องจากการขยายเนื้อที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้กิจกรรมการจ้างบริการเครื่องจักรกลเพื่อเตรียมดินและเก็บเกี่ยวผลผลิตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

สาขาป่าไม้ ขยายตัว1.7%โดยไม้ยูคาลิปตัสเพิ่มขึ้นตามความต้องการของอุตสาหกรรมการผลิตเยื่อกระดาษในประเทศ และการส่งออกไปยังจีนและญี่ปุ่นถ่านไม้เพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาดจีน ศรีลังกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้รังนกเพิ่มขึ้นเพื่อป้อนให้กับอุตสาหกรรมแปรรูปและส่งออกไปจีน ขณะที่ไม้ยางพาราลดลงตามเป้าหมายการตัดโค่นสวนยางเก่าเพื่อปลูกทดแทนของภาครัฐ และครั่งลดลงจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโต