‘ปูขาวอินทรีย์’ สินค้าเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างมูลค่าและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

‘ปูขาวอินทรีย์’  สินค้าเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างมูลค่าและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

อีกโมเดลของการปรับตัวของเกษตรกรลุ่มน้ำปากพนัง ใช้บ่อกุ้งร้างเลี้ยงปูขาว ตอบโจทย์ตลาดอินทรีย์ ลดต้นทุนการผลิต ใช้ “ปลาหมอคางดำ” โดยแช่แข็งทำให้ไข่ปลาฝ่อก่อนนำมาเป็นอาหารป อีกโมเดลของการปรับตัวของเกษตรกร

ปัจจุบัน “ปูขาว” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ปูทองหลาง” กำลังเป็นดาวรุ่งในตลาดอาหารทะเล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ กรมประมงส่งเสริมให้มีการเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะปูขาวอินทรีย์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะตัวใหญ่ โตเร็ว เนื้อแน่น รสชาติหวานดีกว่าปูทะเลชนิดอื่น

‘ปูขาวอินทรีย์’  สินค้าเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างมูลค่าและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ‘ปูขาวอินทรีย์’  สินค้าเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างมูลค่าและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

“พี่โชค” นายนัฎฐชัย นาคเกษม ผู้นำเกษตรกรผู้เลี้ยงปูขาว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนในลุ่มน้ำปากพนัง เล่าว่า กรมประมงได้ส่งเสริมเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์เปลี่ยนบ่อกุ้งร้างมาเป็นบ่อเลี้ยง “ปูขาว” เหมาะกับการเลี้ยงในบ่อกุ้งร้างที่เป็นพื้นดิน เพราะปูขาวไม่มีพฤติกรรมขุดรูเหมือนปูดำ รวมทั้งยังช่วยลดการจับปูจากธรรมชาติที่ทยอยลดจำนวนลง มีกระบวนการเลี้ยงแบบธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี กลุ่มของพี่โชคนับเป็นกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงปูขาวอินทรีย์แปลงใหญ่ต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย

เกษตรกรที่นี่ได้รับการสนับสนุนและคำแนะนำสำนักงานประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (เกษตรไสใหญ่) สร้างขีดความสามารถเลี้ยง “ปูขาวอินทรีย์” ผลผลิตดี ในราคาที่แข่งขันได้ จากการนำปลาหมอคางดำผสมกับจุลินทรีย์เป็นอาหาร ตัวจุลินทรีย์ช่วยให้ปูกินอาหารได้มากขึ้น และมีกรดอะมิโนที่ช่วยให้ปูมีรสชาติดีขึ้น หวานอร่อยมากขึ้น และที่สำคัญจุลินทรีย์ช่วยให้ตัวปูมีกลิ่นสะอาด ตัวเกลี้ยงสะอาดกว่าปูทะเล

‘ปูขาวอินทรีย์’  สินค้าเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างมูลค่าและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

“ปูขาวกินปลาทุกชนิด รวมทั้งปลาหมอคางดำ สำหรับกลุ่มผู้เลี้ยงปูขาวอินทรีย์จึงถือเป็นโอกาส เกษตรกรมีอาหารเลี้ยงปูที่ต้นทุนไม่สูงและหาได้ในท้องถิ่น ซึ่งการช่วยกันจับปลาหมอคางดำมาเลี้ยงปูเป็นอีกแนวทางช่วยลดจำนวนปลาต่างถิ่นในแหล่งน้ำธรรมชาติอีกด้วย” นายนัฎฐชัยกล่าว

“ปูขาวกินปลาทุกชนิด รวมทั้งปลาหมอคางดำ สำหรับกลุ่มผู้เลี้ยงปูขาวอินทรีย์จึงถือเป็นโอกาส เกษตรกรมีอาหารเลี้ยงปูที่ต้นทุนไม่สูงและหาได้ในท้องถิ่น ซึ่งการช่วยกันจับปลาหมอคางดำมาเลี้ยงปูเป็นอีกแนวทางช่วยลดจำนวนปลาต่างถิ่นในแหล่งน้ำธรรมชาติอีกด้วย” นายนัฎฐชัยกล่าว

ทั้งนี้ การใช้ปลาหมอคางดำเป็นอาหารมีโอกาสทำให้ปลาชนิดนี้แพร่พันธุ์ในบ่อและแย่งกินลูกปู แต่ไม่ใช่ปัญหาของเกษตรกรที่ศูนย์เรียนรู้เชิงประยุกต์น้ำเค็มเพื่อการผลิตปูขาว บ้านเนินหนองหงส์ ตำบลเกาะเพชร อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีองค์ความรู้จากทีมอาจารย์จาก มทร.ศรีวิชัย ใช้วิธีการ “แช่แข็ง” ในอุณหภูมิติดลบ 20 องคาเซลเซียส เป็นเวลานาน 24 ชั่วโมง จะทำให้ไข่ในปากของปลาหมอคางดำ “ฝ่อ” ไม่สามารถแพร่พันธุ์ต่อได้

‘ปูขาวอินทรีย์’  สินค้าเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างมูลค่าและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

“การแช่แข็งอุณหภูมิติดลบ เป็นสิ่งที่อาจารย์ค้นพบและใช้ได้ผล เพราะบ่อเลี้ยงปูขาวของกลุ่มฯ ที่มีอยู่ 30 รายไม่พบปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำระบาดในบ่อ หากเกษตรกรไม่มีตู้แช่แข็ง ยังสามารถนำปลาแช่ในถังที่ใส่น้ำแข็ง หรือตู้เย็น นาน 3 วันแทนได้” นายนัฎฐชัย

การใช้ปลาหมอคางดำช่วยให้เกษตรกรเลี้ยงปูขาวด้วยต้นทุนต่ำ มีอัตราแลกเนื้ออยู่ที่ 4 กิโลกรัมของปลาหมอคางดำต่อเนื้อปู 1 กิโลกรัม นอกจากนี้ เทียบกับการเลี้ยงกุ้ง ปูขาวไม่ต้องใช้เครื่องตีน้ำ ใช้ไฟฟ้าน้อย และอาศัยอุปกรณ์หลัก 2 ตัว คือ ตู้แช่แข็ง และเครื่องสับปลา นอกจากนี้ จุลินทรีย์ เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการเลี้ยงปูอินทรีย์ นอกจากนำจุลินทรีย์ใช้คลุกเป็นอาหาร นอกจากช่วยบำบัดน้ำหรือตะกอนเลนได้อย่างมีประสิทธิภาพ