แหล่งข่าวจากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2568 รับทราบผลการศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาสัญญาดิวตี้ฟรีกับกลุ่ม คิง เพาเวอร์ โดยที่ผ่านมา ทอท.มอบหมายให้มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นผู้ทำการศึกษา
รวมทั้งได้มีการเสนอแนวทางการแก้ปัญหามาให้คณะกรรมการ ทอท.พิจารณา 2 แนวทาง ประกอบด้วย
1.การยกเลิกสัญญาสัมปทานร้านค้าปลอดภาษีและเปิดประมูลใหม่
2.การเจรจาเพื่อขอแก้ไขสัญญาสัมปทาน
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ทอท.ได้สอบถามรายละเอียดผลกระทบของแต่ละแนวทาง โดยการบอกเลิกสัญญาสัมปทานเป็นแนวทางที่ ทอท.ดำเนินการได้ เพราะกลุ่มคิงเพาเวอร์ขัดเงื่อนไขการปฏิบัติตามสัญญาสัมปทาน แต่การยกเลิกสัญญาสัมปทานจะมีผลต่อรายได้ของ ทอท. ซึ่งรายได้ดังกล่าวเป็นรายได้หลักในกลุ่มที่ไม่ใช่ธุรกิจการบิน (Non-Aero)
ขณะที่การเปิดประมูลใหม่จะใช้เวลาประมาณ 14 เดือน และจะมีผลต่อรายได้ของ ทอท.เช่นเดียวกัน รวมทั้งการประมูลใหม่คาดว่าจะมีการเสนอผลตอบแทนรัฐต่ำลง
สวนกรณีที่กลุ่มคิงเพาเวอร์ จะเข้าประมูลใหม่สามารถดำเนินการได้เพียงแต่ต้องชำระหนี้ให้กับ ทอท.ให้หมดจากปัจจุบันมีหนี้ประมาณ 9,000 ล้านบาท
“คณะกรรมการ ทอท.มอบหมายให้ผู้ศึกษาเพิ่มรายละเอียดข้อมูลผลกระทบแต่ละแนวทางและเสนอคณะกรรมการ ทอท.ในเดือน พ.ย.นี้”