‘คลัง‘ เข้มใช้ Data Analytics จับทุจริต ’คนละครึ่งพลัส‘ ใช้จ่ายตัวต่อตัวเท่านั้น

“คลัง” ตรวจเข้มใช้ Data Analytics จับทุจริต “คนละครึ่งพลัส“ ย้ำใช้จ่ายแบบตัวต่อตัวเท่านั้น โลเคชั่นผู้ซื้อ-ผู้ขาย ต้องอยู่ที่เดียวกัน หากพบผิดปกติ ดำเนินการระงับบัญชีทันที
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มีการติดตามการใช้จ่ายภายในโครงการคนละครึ่งพลัส อย่างใกล้ชิด โดยใช้ระบบ Data Analyticsเพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่น่าสงสัยและค้นหารูปแบบที่ผิดปกติ (abnormality)
“คลังและธนาคารกรุงไทยมีการเฝ้าระวัง ตรวจจับพฤติการณ์ที่น่าสงสัย ตัวอย่างเช่น การซื้อขายที่ทำธุรกรรม ณ จุดที่ 1 และภายใน 1 นาทีมีการทำธุรกรรมอีกจุดหนึ่งที่ห่างไปหลายร้อยกิโลเมตร หรือการลงทะเบียนเป็นร้านอาหารแต่มีการจ่ายเงินพร้อมกันหลายที่ในเวลาจำกัด”
ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่าการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งพลัสเป็นแบบตัวต่อตัวเท่านั้น โดยผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เนื่องจากโครงยังไม่มีการอนุญาตให้ใช้จ่ายทางออนไลน์
ดังนั้นหากมีการตรวจพบพฤติกรรมที่ผิดปกติทีมงานจะทำการระงับสิทธิ์บัญชีทั้งร้านค้าและผู้ใช้งานทันที เบื้องต้นได้เริ่มระงับสิทธิ์ร้านค้าที่น่าสงสัยไปแล้ว 7 ราย เพื่อตรวจสอบรายละเอียด หากพบการกระทำความผิดจริง จะมีการดำเนินการคดีข้อหาฉ้อโกงทั้งผู้ฝั่งร้านค้าและผู้ซื้ออย่างถึงที่สุด โดยไม่มีการยอมความ
รายงานล่าสุดเผยว่า ณ เวลา 10:00 น. วันที่ 30 ต.ค.2568 วันที่สองของการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งพลัส ยอดการใช้จ่ายที่สำเร็จแล้วรวม 2,267 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของประชาชน 1,144 ล้านบาท และส่วนของรัฐบาล 1,124 ล้านบาท โดยมีผู้ใช้จ่ายสำเร็จประมาณ 8.7 ล้านคน และมีจำนวนร้านค้าที่ลงทะเบียนและมีการใช้จ่ายสำเร็จแล้วรวม 540,000 ราย จากร้านค้าที่ลงทะเบียนรวมประมาณ 696,000 ราย







