ซีพีเอฟ จับมือ นิปปอนแฮม รุกอุตสาหกรรมหมู เป้าส่งออกทั่วเอเชีย

ซีพีเอฟ จับมือ นิปปอนแฮม รุกอุตสาหกรรมหมู เป้าส่งออกทั่วเอเชีย

ซีพีเอฟ ผนึก นิปปอนแฮม ตั้ง “ซีพีเอฟ เอ็นเอช ฟู้ดส์” ยกระดับเนื้อสุกรแปรรูปคุณภาพสูง เพื่อผู้บริโภคในเอเชีย เป้า รายได้ 3,000 ล้านบาทใน 5 ปี

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ และ บริษัท เอ็นเอช ฟู้ดส์ (NH Foods) หรือ นิปปอนแฮม สองผู้นำอุตสาหกรรมอาหารแห่งเอเชีย ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่  บริษัท ซีพีเอฟ เอ็นเอช ฟู้ดส์ จำกัด (CPF NH Foods Co., Ltd.)  ความร่วมมือนี้เป็นการผสานศักยภาพชั้นนำด้านนวัตกรรม ความปลอดภัยทางอาหาร การผลิตโปรตีนคุณภาพสูง และกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์เนื้อสุกรแปรรูประดับพรีเมียมในภูมิภาคเอเชีย

ซีพีเอฟ จับมือ นิปปอนแฮม รุกอุตสาหกรรมหมู เป้าส่งออกทั่วเอเชีย

การจัดตั้งบริษัท ซีพีเอฟ เอ็นเอช ฟู้ดส์ จำกัด (CPF NH Foods Co., Ltd.) เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ซีพีเอฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจ จำกัด (CPF Food and Beverage Co., Ltd.) บริษัทในเครือของซีพีเอฟ และบริษัท เอ็นเอช ฟู้ดส์ จำกัด (NH Foods Ltd.) โดยบริษัทใหม่จะมุ่งเน้นการพัฒนา ผลิต และทำการตลาดผลิตภัณฑ์เนื้อสุกรแปรรูปสำหรับผู้บริโภคในประเทศไทย และตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยโรงงานแปรรูปอาหารของซีพีเอฟ จังหวัดฉะเชิงเทรา จะเป็นฐานการผลิตของธุรกิจใหม่นี้

ภายใต้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ นิปปอนแฮม จะนำความเชี่ยวชาญระดับโลกด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงมาสนับสนุน ขณะที่ซีพีเอฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจ จะจัดหาวัตถุดิบเนื้อสุกรคุณภาพพรีเมียมที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยอาหารระดับสากล พร้อมใช้เครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทยและตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจร่วมกันอย่างยั่งยืน

ด้าน นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า  ปัจจุบัน ไก่ และสุกร คือธุรกิจหลักของซีพีเอฟ  โดยธุรกิจไก่นั้นพัฒนาไปไกลมากสามารถแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ส่งออกไปทั่วโลก เป็นกลุ่มที่เข้มแข็งมาก ในส่วนของสุกรแม้จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่การสร้างมูลค่าเพิ่มยังไม่หลากหลาย ในขณะที่ความต้องการบริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศมีมากเกินที่คาดเดาได้  การร่วมทุนกับ นิปอนแฮม ที่มีเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ผสานกับวัฒนธรรมการทำอาหารของทั้ง 2 ประเทศ จะส่งผลให้การสร้างเมนูอหารพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด

"อุตสาหกรรมหมูของไทย ถือเป็น Local Content เพราะใช้วัตถุดิบ แรงงาน ในประเทศ  และได้เนื้อหมูที่มีคุณภาพ การได้ผู้ร่วมทุนดี มีเทคโนโลยีดี จะทำให้อุตสาหกรรมหมู Speed Up ดั้งนั้น จึงต้องตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมารองรับ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างวัฒนธรรมการแปรรูปหมูของทั้ง2 ประเทศที่ตลาดเอเชียคุ้นเคยและเชื่อมั่น จึงคาดว่าจะผลักดันให้บริษัทเติบโตตามเป้าหมาย " 

ทั้งนี้บริษัท ซีพีเอฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจ  ถือหุ้นโดยบริษัท ซีพีเอฟ เอ็นเอช ฟู้ดส์ 51 % และ  นิปปอน 49 % วงเงินลงทุนร่วมกันที่ 1,700-1,800  ล้านบาท  แผนบริหารงาน  5 ปีของบริษัท กำหนดการสร้างรายได้เติบโต 12-15 % ต่อปี การผลิตสินค้าช่วงแรกจะเน้นตลาดในประเทศ แต่จะผลักดันให้ส่งออกมาก ขึ้นเนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมสุกรของไทยส่งออกน้อยมาก ใน 3 ประเทศ คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่่น 

โดยการส่งออกจะเพิ่มมากขึ้นช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ซึ่งจะใช้วัตถุดิบจากสุกรของซีพีเอฟที่เลี้ยงเองในฟาร์มจ.ฉะเชิงเทรา ที่สามารถขยายกำลังการผลิตได้มากขึ้น จากปัจจุบันที่ซีพีเอฟมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 6 ล้านตัวต่อปี จากกำลังการผลิตของประเทศที่ประมาณ 20 ล้านตัวต่อปี  ซึ่งการส่งออกที่มากขึ้นนี้คาดว่าจะทำรายได้ให้บริษัทมใร 5 ปีข้างหน้าที่ 3,000 ล้านบาท และ ใน 2ปีข้างหน้าที่ 2,300 ล้านบาท  

“การขยายตลาดหมูจะให้แพลตฟอร์มเดียวกันกับนมซีพีเมจิ ที่ปัจจุบันสามารถส่งออกได้ถึง 7 ประเทศ  โดยเชื่อว่าการร่วมมือครั้งนี้จะสามารถสร้างสินค้าท๊อปฮิตขึ้นมาได้ ซึ่งโอกาสของสินค้าแปรรูปหมูนั้นมีอีกมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมไก่ ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายของซีพีเอฟที่ต้องการพัฒนาอาหารแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มให้ได้ ”

นายโนบูฮิสะ อิกาว่า ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็นเอช ฟู้ดส์ กล่าวว่า “เอ็นเอช ฟู้ดส์ มุ่งสร้างคุณค่าใหม่ให้กับโปรตีนผ่านการร่วมสร้างสรรค์และการแสวงหาความท้าทาย พร้อมเดินหน้าขยายความร่วมมือทางธุรกิจกับซีพีเอฟ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันใช้จุดแข็งของแต่ละฝ่ายในการผลักดันธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้สู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย”

ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง ซีพีเอฟ และ นิปปอนแฮม เริ่มต้นจากการลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์แบบครบวงจร (Comprehensive Strategic Partnership Agreement) เมื่อปีที่ผ่านมา โดย ซีพีเอฟ ได้นำเข้าเนื้อวัวเกรดพรีเมียมจาก นิปปอนแฮม เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ความสำเร็จของความร่วมมือดังกล่าวปูทางสู่การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของทั้งสองบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วทั่วภูมิภาคเอเชีย

“การดำเนินธุรกิจของนิปปอนแฮม ยึดหลักความปลอดภัยมาโดยตลอด พร้อมไปกับการสร้างโครงสร้างอาหาร ซึ่งในประเทศไทยนั้นนิปปอนแฮมได้เข้ามาตั้งแต่ปี 1989  จากนี้ไปจะนำความเชี่ยวชาญมาผนึกกับจุดแข็งของซีพีเอฟ เพื่อส่งมอบอาหารที่ดีให้กับผู้บริโภคทั่วโลก”