'คลัง' เผย ‘คนละครึ่งพลัส’ วันแรกประชาชนใช้จ่ายทะลุ 7.8 ล้านคน

“คนละครึ่งพลัส” ใช้จ่ายวันแรกคึกคัก ประชาชนใช้จ่ายทะลุ 7.8 ล้านคน “เอกนิติ” มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส 4 โตกว่าคาดการณ์ จ่อคลอดคนละครึ่งพลัส เฟส 2
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันนี้ (29 ต.ค.68) เมื่อเวลา 11.30 น. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางไปสำรวจ และรับฟังข้อคิดเห็นการใช้จ่ายโครงการ คนละครึ่งพลัสวันแรก ที่ตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง
นายเอกนิติ กล่าวภายหลังลงพื้นที่สำรวจตลาดว่า ภาพรวมการใช้จ่ายในวันแรกของโครงการ “คนละครึ่งพลัส” บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก และเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเพียงแค่ช่วงหนึ่งชั่วโมงแรกมียอดเงินสะพัดกว่า 35 ล้านบาท และในช่วงครึ่งวันแรก ณ เวลา 11:00 น. พบว่ามียอดการใช้จ่ายรวมพุ่งสูงถึง 350 ล้านบาท
“รู้สึกดีใจที่เห็นร้านค้าขายของได้อย่างคึกคัก และประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย โดยส่วนตัวได้ทดลองใช้สิทธิซื้อผลไม้ราคา 40 บาท เหลือ 20 บาท ทำให้รู้สึกว่าช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนไปได้เยอะ”
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดที่รวบรวมได้เมื่อเวลา 11:00 น. ซึ่งเป็นช่วง 4-5 ชั่วโมงแรกของการเริ่มโครงการ มียอดขายรวม 350 ล้านบาท ซึ่งมีประชาชนที่ใช้สิทธิประมาณ 1.6 ล้านคน และมีร้านค้าที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 200,000 ร้านค้า
นายเอกนิติ กล่าวต่อว่า การใช้ระบบดิจิทัลทำให้สามารถเห็นข้อมูลการใช้จ่ายได้ทันที และวิเคราะห์ได้ว่าการใช้จ่ายกระจายไปที่จังหวัดใดบ้าง และมั่นใจว่าผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจของโครงการนี้จะมีผลมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และหวังว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยไม่ติดหล่มในไตรมาส 4 โดยเฉพาะในไตรมาส 4 นี้ ค่อนข้างมั่นใจว่าอัตราการเติบโตจะมากกว่า 0.3%
สำหรับยอดรวมร้านค้าที่ลงทะเบียนแล้วในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 600,000 กว่าร้านค้า โดยเป็นร้านค้าเก่าที่ยัง Active อยู่ประมาณ 100,000 ร้านค้า ที่เหลือเป็นร้านค้าใหม่ หากเทียบกับยอดร้านค้าที่มีสิทธิเกือบ 1 ล้านร้านค้าในครั้งก่อน ถือว่ายอด 600,000 ร้านค้าในครั้งนี้เป็นประมาณ 60% แล้ว อย่างไรก็ตาม ร้านค้ายังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้จนถึงวันที่ 19 ธ.ค.2568
นายเอกนิติ กล่าวถึงปัญหาที่ร้านค้าได้รับเงินโอนเข้าล่าช้าโดยชี้แจงว่า ระบบการโอนเงินจะใช้เวลา 1 วัน ตามที่ตกลงกันไว้ โดยร้านค้าจะได้รับเงินในวันถัดไปแน่นอน ส่วนเรื่องขั้นตอนการลงทะเบียนที่สำนักงานเขตล่าช้า ได้รับทราบแล้ว และจะรีบประสานงานแจ้งไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน
สำหรับการพิจารณา โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 นายเอกนิติ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้ทีมงานพิจารณา โดยเบื้องต้นจะให้สิทธิแก่ประชาชนที่ตกหล่นหรือพลาดกดสิทธิไม่ทันในเฟสแรกก่อน รวมทั้งออกแบบแรงจูงใจให้ร้านค้าที่ต้องการเพิ่มทักษะ เช่น การเรียนรู้ผ่านคลิป การขายของให้ปัง และการใช้ AI เข้ามาช่วย โดยสำหรับงบประมาณในเฟส 2 นี้จะขอรับไปพิจารณาซึ่งขึ้นอยู่กับการกำหนดจำนวนผู้ได้รับสิทธิในเฟสนี้ด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ได้ตระหนักถึงปัญหาการทุจริต และขายสิทธิแลกเงินสด ซึ่งโครงการนี้ใช้ระบบดิจิทัล ซึ่งทำให้รัฐบาลมีข้อมูลทันที และทราบว่าใครรับแลกเงินหรือให้ส่วนลด โดยหากตรวจพบจะมีการดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด โดยในวันนี้ เวลา 12:30 น. ทางกระทรวงการคลังร่วมกับตำรวจจะดำเนินการปราบปราม และจับกุมผู้ที่กระทำผิด
“ท่านนายกฯ ได้กำชับให้จัดการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นการเอาเปรียบประชาชน และโกงเงินรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่รับไม่ได้”
รายงานเพิ่มเติมจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ณ เวลา 12.30 น. มีผู้ใช้จ่ายผ่านโครงการฯ สำเร็จแล้วกว่า 2.49 ล้านราย ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 501.11 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 252.40 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 248.71 ล้านบาท
และข้อมูล ณ เวลา 15.00 น. มีผู้ใช้จ่ายผ่านโครงการสำเร็จแล้ว 3.60 ล้านราย ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 752.25 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 379.44 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 372.80 ล้านบาท
และข้อมูล ณ เวลา 23.00 น. ยอดการใช้จ่าย 1,900 ล้านบาท ผู้ใช้สิทธิ์ 7,858,965 คน จำนวนร้านค้าใข้สิทธิ์ 520,397 ร้านค้า
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้เน้นกำชับเตือนประชาชนและร้านค้าห้ามซื้อขายสิทธิหรือใช้สิทธิ โดยไม่มีการซื้อขายจริง และโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนให้แลกวงเงินเป็นเงินสด เนื่องจากเป็นการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และกรณีมีการแลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสดสำเร็จ จะถือเป็นความผิดทางอาญาฐานร่วมกันฉ้อโกง ทั้งผู้แลกและผู้รับแลก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตลอดจนต้องคืนเงินให้แก่รัฐบาลทั้งจำนวนที่เคยได้รับไป รวมถึงอาจถูกระงับสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการอื่นของรัฐบาลอีกด้วย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







