วันนี้ 'รถไฟฟ้าบีทีเอส' ปรับราคาใหม่ กทม. หวังหยุดขาดทุนปีละ 6 พันล้าน

วันนี้ 'รถไฟฟ้าบีทีเอส' ปรับราคาใหม่ กทม. หวังหยุดขาดทุนปีละ 6 พันล้าน

วันนี้ (1 พ.ย.2568) เป็นวันแรกของการปรับราคาค่าโดยสารใหม่ในโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางส่วนต่อขยาย BTS สายสีเขียว ตามประกาศของกรุงเทพมหานคร (กทม.)

KEY

POINTS

  • 'รถไฟฟ้าบีทีเอส' สายสีเขียวส่วนต่อขยายปรับขึ้นค่าโดยสารใหม่ โดยเปลี่ยนจากราคาคงที่ 15 บาท เป็นการคิดตามระยะทาง เริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้
  • อัตราค่าโดยสารใหม่สำหรับส่วนต่อขยายอยู่ที่ 17 - 45 บาท และเมื่อเดินทางเชื่อมต่อกับสายหลักจะมีราคาสูงสุดไม่เกิน 65 บาท
  • กทม. แจงการปรับราคาครั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดทุนจากการดำเนินงานของส่วนต่อขยาย ซึ่งสูงถึงปีละกว่า 6,000 ล้านบาท

วันนี้ (1 พ.ย.2568) เป็นวันแรกของการปรับราคาค่าโดยสารใหม่ในโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางส่วนต่อขยาย BTS สายสีเขียว ตามประกาศของกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยจะส่งผลทำให้ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว 3 เส้นทางจะปรับราคาค่าโดยสารจากเดิมจัดเก็บ 15 บาทตลอดสาย เป็นการจัดเก็บค่าโดยสารตามระยะทาง

โดยจะมีการปรับอัตราค่าโดยสารในเส้นทาง ต่อไปนี้

- สถานีหมอชิต (N8) – สถานีคูคต (N24)

- สถานีอ่อนนุช (E9) – สถานีเคหะฯ (E23)

- สถานีวงเวียนใหญ่ (S8) – สถานีบางหว้า (S12)

วันนี้ 'รถไฟฟ้าบีทีเอส' ปรับราคาใหม่ กทม. หวังหยุดขาดทุนปีละ 6 พันล้าน

อัตราค่าโดยสารใหม่

• บัตรโดยสารเที่ยวเดียว: 17 – 45 บาท

• บัตรแรบบิท สำหรับบุคคลทั่วไป: 17 – 45 บาท

• บัตรแรบบิท สำหรับนักเรียน/นักศึกษา: 12 – 32 บาท (ส่วนลด 30%)

• บัตรแรบบิท สำหรับผู้สูงอายุ: 9 – 23 บาท (ส่วนลด 50%)

• กรณีเดินทางเชื่อมต่อกับสถานีหลัก: คิดค่าโดยสารรวม แต่ไม่เกิน 65 บาท

วันนี้ 'รถไฟฟ้าบีทีเอส' ปรับราคาใหม่ กทม. หวังหยุดขาดทุนปีละ 6 พันล้าน

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การบริหารงานของรถไฟฟ้าสายสีเขียวในช่วงที่ผ่านมา เนื่องด้วยกำหนดจัดเก็บค่าโดยสารช่วงส่วนต่อขยายอยู่ที่ 15 บาทตลอดสาย ส่งผลให้ปัจจุบัน กทม.ต้องจ่ายค่าจ้างเดินรถประมาณปีละ 8,000 ล้านบาท ขณะที่การเก็บค่าโดยสาร สามารถเก็บได้เพียงประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยรวม กทม.ขาดทุนปีละกว่า 6,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี แม้อัตราค่าโดยสารไม่เกี่ยวข้องกับการชำระหนี้ที่ กทม.คงค้างอยู่กับเอกชนคู่สัญญา แต่ต้องนำงบประมาณส่วนอื่นมาชดเชย ซึ่งอาจไม่เป็นธรรมกับประชาชนที่ไม่ได้ใช้บริการ เนื่องจากเงินที่นำมาใช้ล้วนเป็นเงินภาษี ดังนั้น กทม.จึงจำเป็นต้องปรับโครงสร้างค่าโดยสารใหม่ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และอัตราค่าโดยสารบางช่วงอาจถูกลง เช่น เส้นทางสั้นๆ ภายในเมือง ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางระยะไกลอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามระยะทาง