"ชาติไทยพัฒนา" ชู" เศรษฐกิจ"เดินหน้า 'ทุกคนต้องไปต่อ' ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

"ชาติไทยพัฒนา" ชู" เศรษฐกิจ"เดินหน้า 'ทุกคนต้องไปต่อ' ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

"วราวุธ"  ชี้ ไทยต้องเปลี่ยนวิธีคิด ต้องไม่รอ “แจก” ชู แนวทางพัฒนาเศรษฐกิจทุกคนต้องเดินไปด้วยกันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พร้อแนวทางรับมือสังคมสูงวัย หนุนขยับอายุเกษียณเป็น  65 ปี 

นายวราวุธ ศิลปอาชา  หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวในเวที  Bitkub Summit 2025 ในหัวข้อ Thailand Game Changer 2026 เศรษฐกิจ สังคม ประชาชน ประเทศไทย ว่า เราต้องเริ่มจากการเปลี่ยนที่ความคิดก่อน ถ้าคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่แค่เฉพาะในห้องนี้ หรือเฉพาะที่อยู่ออนไลน์ เริ่มตั้งแต่พี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นระดับรากหญ้า ถ้ายังคิดแบบเดิม ทำแบบเดิมอยู่ จะมีการเลือกตั้งอีกกี่ครั้ง จะเปลี่ยนอีกกี่รัฐบาลก็จะได้แบบเดิมดังนั้นนารที่จะเปลี่ยนวันนี้ มันเริ่มต้นที่วิธีคิดก่อน

ถ้าเปรียบประเทศไทยเป็นรถยนต์จะใส่เครื่องยนต์ ใส่น้ำมันอ็อกเทน 100 ใส่เทอร์โบ จะใส่อะไรเข้าไปก็แล้วแต่ แต่รถคันนี้จะลากคาราวานอยู่ข้างหลัง ซึ่งคาราวาน เปรียบเสมือนสัมภาระ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสังคม เรื่องปัญหาเรื่องสูงอายุ สูงอายุ คนพิการต่างๆ  มันเป็นคาราวานลากฉุด รถคันนี้อยู่ ถ้าหากว่าไม่เอากลไก หรือว่าเครื่องยนต์ไปใส่ในคาราวานข้างหลังจะใส่อะไรลงเท่าไหร่ มันก็จะยังไม่ไป

ดังนั้นการที่จะให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าจากนี้ ต้องเดินไปทุกคน ไม่ว่าจะเป็นระดับธุรกิจระดับใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพ่อใหญ่แม่ใหญ่ที่อยู่หัวไร่ปลายนา  ไม่ว่าจะเป็นคนพิการ ไม่ว่าจะเป็นคนสูงอายุ ทุกคนจะต้องไปด้วยกัน เพราะถ้าเกิดไม่มีใครไปด้วยกันแล้ว เขาจะกลายเป็นเหมือนตัวที่คอยกินแรงคนอื่นๆอยู่ ดังนั้น แนวทางของรัฐบาลหลังจากการเลือกตั้งหน้า ต้องมองทุกด้าน ไม่ใช่มานั่งรอกันแต่ว่าจะแจกอะไร

 วันนี้มันเป็นวันที่ทุกคนจะต้องเอาเบ็ดตกปลาไปหาปลากันเอง เงินของประเทศไทยเราไม่ใช่ผลิตได้ทุกวัน ไม่ใช่ปั๊มเงินออกมาได้ แต่ว่าทุกคนจะต้องเรียนรู้ในการที่จะหาอาชีพ หาเงิน แล้วก็ยืนอยู่ในสังคมได้ด้วยศักยภาพของตัวเอง โดยที่ไม่ใช่วันๆเอาแต่รอของแจกจากภาครัฐ นี่คือการที่จะทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า

นายวราวุธ กล่าวว่า หากพรรคชาติไทยพัฒนา ได้กลับมาเป็นรัฐบาล พรรคชาติไทยพัฒนาจะเสนอเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้าด้วยกันทุกคนโดยไม่เอาเปรียบธรรมชาติหรือคนกลุ่มต่างๆ ในอดีตทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะป่าไม้ได้ลดลงอย่างมาก จึงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาสมดุลระหว่างธรรมชาติกับคน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าอย่างมั่นคงเน้นการพัฒนาคน ทั้งเรื่องการศึกษา และการทำให้คนตัวเล็กๆ เกษตรกร สามารถอยู่ได้ ชี้ให้เห็นว่าราชการมักเป็นผู้นำประชาชน แต่ถึงเวลาต้องเปลี่ยนให้ประชาชนนำ โดยราชการทำหน้าที่สนับสนุน ยกตัวอย่างเช่น กระทรวงเกษตร ควรดึงปราชญ์ชาวบ้านที่มีองค์ความรู้ด้านการเกษตรที่ประสบความสำเร็จ เช่น การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ มาเป็นแนวทางในการเพิ่มรายได้ให้ประชาชน

การให้ความสำคัญกับการทำให้สถาบันที่เล็กที่สุดของประเทศคือสถาบันครอบครัวมีความเข้มแข็ง และส่งเสริมสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของทุกคน พรรคชาติไทยพัฒนาเคยเสนอแนวคิดว่าหากประชาชนสุขภาพดี ไม่ต้องใช้ 30 บาทรักษาทุกโรค รัฐบาลจะประหยัดงบประมาณ และคนมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น เนื่องจากวันนี้คนให้ความสนใจกับการรักษาสุขภาพมากขึ้น

นายวราวุธ กล่าวว่า   ปัญหาสังคมสูงวัยกำลังกระทบคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะ Gen Y และ Z ที่ต้องแบกรับภาระสวัสดิการผู้สูงอายุ ซึ่งประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงวัยสมบูรณ์แบบแล้ว และคาดว่าในไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า จะกลายเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด โดยจะมีผู้สูงอายุถึง 1 ใน 3 ของประชากรสำหรับแนวทางการแก้ไข ปัญหาอัตราการเกิดต่ำไม่ใช่ภาระของผู้หญิงเพียงอย่างเดียว และการให้เงินอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยพรรคเคยเสนอแนวคิดครอบคลุมถึง การดูแลคนทำงานให้มีศักยภาพในการดูแลครอบครัวและมีที่อยู่อาศัย การดูแลเด็กเล็กให้มีคุณภาพ

การดูแลผู้สูงอายุผ่านโครงการนักดูแลผู้สูงอายุการเสริมพลังคนพิการให้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเศรษฐกิจ การสร้างระบบนิเวศที่เอื้อให้คนทุกวัยอยู่ร่วมกันได้อย่างมีคุณภาพ และควร ขยับเพดานอายุเกษียณราชการจาก 60 เป็น 65 ปี ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องทำในทันที แต่ให้ดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป และบางอาชีพ เช่น สายกระบวนการยุติธรรม ก็มีการเพิ่มอายุเกษียณไปแล้ว

“แม้ในอนาคต AI อาจเข้ามาทำงานแทนคนได้ แต่ปัจจุบันควรเลือกพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งทำงานบนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่ได้เพ้อฝัน และไม่เน้นการแจกจ่ายสิ่งของ พรรคฯ ต้องการสร้างความเข้มแข็งและศักยภาพให้กับคนไทย เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ในสังคม โดยเปรียบเทียบว่าเป็นการสอนวิธีตกปลาแทนที่จะให้ปลา”นายวราวุธ กล่าว