'ธนกร' ยันถอนอายัดเหล็ก 'ซินเคอหยวน' คนละส่วนกับตึกสตง. ถล่ม ตั้งกก.สอบเพิ่ม

'ธนกร' ยันถอนอายัดเหล็ก 'ซินเคอหยวน' คนละส่วนกับตึกสตง. ถล่ม ตั้งกก.สอบเพิ่ม

“ธนกร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยัน ถอนอายัดเหล็ก “ซินเคอหยวน” กว่า 4.1 หมื่นเส้น เป็น "เหล็กจากเหตุไฟไหม้โรงงาน" ไม่ใช่ "เหล็กตึก สตง. ถล่ม" เร่งตั้งกรรมการสอบเพิ่มเติม ย้ำโปร่งใส ตรวจสอบได้

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวชี้แจงกรณีสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ถอนอายัดเหล็ก ของบริษัท “ซินเคอหยวน” ว่า ประเด็นที่มีฝ่ายการเมืองบางกลุ่มนำไปบิดเบือนว่าเป็นการดำเนินการในช่วงที่ตนเข้ารับตำแหน่งนั้น ไม่เป็นความจริง

ทั้งนี้ การถอนอายัดเกิดขึ้นก่อนผมเข้ารับตำแหน่ง ประการแรกที่ต้องเรียนย้ำและทำความเข้าใจอย่างชัดเจน คือ การถอนอายัดเหล็กบางส่วนเกิดขึ้นในห้วงเวลาของรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ผมยังไม่ได้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมอย่างเป็นทางการ วันที่มีการถอนอายัดส่วนแรก เป็นการคืนเหล็กที่ผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐาน จำนวน 16,950 เส้น มีผลตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 2568

ทั้งนี้ ตนได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในวันที่ 19 ก.ย. 2568 และเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนในวันที่ 24 ก.ย. 2568 ดังนั้น การตัดสินใจหรือการดำเนินการใด ๆ ก่อนวันที่ 19 ก.ย. 2568 จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีชุดเดิม ผมจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งการในเรื่องนี้แต่อย่างใด

นายธนกร กล่าวย้ำว่า ขอให้การเมืองมีจริยธรรม โดยเฉพาะนักการเมืองรุ่นใหม่ ควรสร้างสรรค์ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมยืนยันว่ากรณีเหล็กของบริษัทซินเคอหยวน เป็นคนละส่วนกับเหล็กที่อยู่ในอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ตึกสตง. ถล่ม ซึ่งเป็นเหตุการณ์คนละกรณี

สำหรับกรณีนี้ เหล็กที่ถอนอายัด เป็นเหล็กจากเหตุการณ์ระเบิดและเพลิงไหม้ภายในโรงงาน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2567 ไม่ใช่เหล็กกรณีตึก สตง. ถล่ม ขอเน้นย้ำว่า สาเหตุการอายัดเหล็กทั้งหมดของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เป็นการเข้าเก็บตัวอย่างในวันที่ 19 ธ.ค. 2567

ดังนั้น กรณีนี้จึงไม่ใช่เหล็กจากเหตุการณ์ตึกถล่ม ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวในสื่อโซเชียลแต่อย่างใด และเป็นการถอนอายัดเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผ่านหรือเป็นไปตามเกณฑ์การตรวจสอบแล้วเท่านั้น เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่บริษัทที่ประกอบธุรกิจสุจริต ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่ว่า "ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้ประกอบการ หากผลิตภัณฑ์นั้นถูกต้องตามมาตรฐาน"

นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า เหล็กที่ตรวจสอบแล้วไม่ผ่านมาตรฐานยังคงถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และยืนยันว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมสั่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในทุกภาคส่วน

นายธนกร ยืนยันว่า เหล็กของบริษัทซินเคอหยวนไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีอาคาร สตง. ถล่ม โดยกรณีที่เกิดขึ้นมาจาก เหตุไฟไหม้โรงงานในเดือนธ.ค. 2567 ขณะที่บริษัทฯ ปัจจุบันยังไม่เปิดดำเนินกิจการ และอยู่ระหว่างการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง รวมถึงมีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

“รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรมจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา หากโรงงานใดทำผิดกฎหมายจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด แต่หากทำถูกต้องตามกฎระเบียบ ก็จะได้รับการดูแลตามสิทธิ์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายและปกป้องประโยชน์ของประชาชน” นายธนกร กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะเดินหน้าปราบปรามเหล็กเถื่อนและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างเด็ดขาด และในขณะเดียวกัน ก็จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการทุกคนที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรมและคุ้มครองความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนสูงสุด

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความกระจ่างและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างสมบูรณ์ และเพื่อความมั่นใจสูงสุดของประชาชน ผมจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

นายเอกนิติ รมยานนท์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. ได้ประกาศถอนอายัดเหล็กเส้นของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2568 และวันที่ 30 ก.ย. 2568  ที่ผ่านมา รวม 41,635 เส้น หลังจากผลการตรวจสอบคุณภาพเหล็กจากสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย (สลท.) พบว่า เหล็กของบริษัทมีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 24-2559 เหล็กข้ออ้อย ขนาด DB25 ชั้นคุณภาพ SD40T และขนาด DB32 ชั้นคุณภาพ SD50T โดยผลการตรวจสอบในครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2568 พบว่า เหล็กตัวอย่างเป็นไปตามมาตรฐาน และในครั้งที่สองเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2568 ผลการตรวจสอบก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ สมอ. ถอนอายัดเหล็กทั้งหมดและคืนให้กับบริษัทฯ 

การอายัดเหล็กทั้ง 41,635 เส้น ข้างต้น เป็นการขยายผลจากการตรวจพบว่ามีเหล็กข้ออ้อยบางส่วน “ตก” มาตรฐานในรายการองค์ประกอบทางเคมี (ธาตุโบรอน) ประกอบกับการตรวจพบข้อบกพร่องในระบบควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ รวมถึงกระบวนการหลอมเหล็กของบริษัทไม่มีเตาปรุงน้ำเหล็ก (Ladle Furnace) จึงเป็นเหตุอันควรเชื่อว่าบริษัทอาจควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างไม่สม่ำเสมอซึ่งอาจส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน