‘เทค สตาร์ทอัพ’ ไทยบุก ‘ดูไบ’ ปูทางธุรกิจ ชิง ตลาดโลกเทค

‘เทค สตาร์ทอัพ’ ไทยบุก ‘ดูไบ’ ปูทางธุรกิจ ชิง ตลาดโลกเทค

“DITP” นำทัพ 6 สตาร์ทอัพไทยบุก ‘ดูไบ’ ครั้งแรกในงานยักษ์ ‘Expand North Star x GITEX 2025’ งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี และนวัตกรรม Start-up ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง เปิดทาง “Tech Startup” ไทยสู่ตลาดโลกเทค 

KEY

POINTS

  • กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) นำผู้ประกอบการเทคสตาร์ทอัพไทย 6 ราย เข้าร่วมงาน "Expand North Star x GITEX" ที่ดูไบเป็นครั้งแรก
  • มีเป้าหมายเพื่อแสดงศักยภาพ สร้างโอกาสทางการค้า และปูทางให้ธุรกิจสตาร์ทอัพไทยขยายสู่ตลาดตะวันออกกลางและตลาดโลก
  • การเข้าร่วมครั้งนี้ทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ได้บุกเบิกตลาดเทคโนโลยีในงานนี้ ถือเป็นการสร้างความได้เปรียบก่อนคู่แข่ง
  • ผู้ประกอบการไทยได้รับการตอบรับที่ดีและเกิดการเจรจาธุรกิจ โดยมองว่าดูไบเป็นประตูการค้าสำคัญในการขยายตลาดสู่ภูมิภาคอื่น

ที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการส่งเสริมกิจการสตาร์ทอัพของไทย โดยได้มีการยกร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพ เพื่อส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพเป็นการเฉพาะ รวมทั้งหลายหน่วยงานกำหนดสิทธิประโยชน์เพื่อสนับสนุนการลงทุน เพื่อให้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ นำผู้ประกอบการสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมไทย 6 บริษัท เข้าร่วมงาน “Expand North Star x GITEX 2025” ครั้งแรก 

สำหรับงานแสดงสินค้านวัตกรรมและสตาร์ทอัพใหญ่สุดในตะวันออกกลางและเป็นหนึ่งในงานใหญ่ที่สุดของโลกเมื่อวันที่ 13-17 ต.ค.2568 ณ Dubai Harbour และ Dubai World Trade Centre สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีสตาร์ทอัพเข้าร่วม 2,000 ราย จาก 100 ประเทศ และมีนักลงทุนเข้าร่วม 1,134 คน

การเข้าร่วมครั้งนี้ผู้ประกอบการไทยได้รับเชิญเข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก โดยประเทศใหม่ที่เข้าร่วมในปีนี้ ได้แก่ ไทย สหรัฐ แอลเบเนีย ชิลี เอกวาดอร์ มอลโดวา เซอร์เบียและซีเรีย ซึ่ง GITEX ฉลองครบรอบ 45 ปี และ Expand North Star ครบรอบ 10 ปี โดยธุรกิจสตาร์ทอัพไทย 6 ราย ที่เข้าร่วม ได้แก่ 

1.ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอมเพิล เวิร์ค ทำธุรกิจเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้  2.บริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จำกัด  ทำธุรกิจระบบให้บริการรับชำระเงินออนไลน์  3.บริษัท มีจีเนียส จำกัด ทำธุรกิจเทคโนโลยี Beacon และ AI ปรับโฉมคอนเทนต์ การตลาดเชิงรุก กลยุทธ์ เพื่อกระตุ้นยอดขายสินค้า 

4.บริษัท สติวเดนท์ แคร์ จำกัด ทำแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสนับสนุนและเสริมสร้างศักยภาพของนักเรียนในทุกด้าน 5. บริษัท ดิจิตอล อีร่า กรุ๊ป (Digital ERA Group) จำกัด ทำแพลตฟอร์มเพื่อติดตามกิจกรรมการปลูก ควบคุมการปลูกให้ได้มาตรฐาน 6.บริษัท เซเบิล จำกัด ทำแพลตฟอร์มเก็บข้อมูลลูกค้า (CDP) ที่มีระบบการตลาดอัตโนมัติ

‘เทค สตาร์ทอัพ’ ไทยบุก ‘ดูไบ’ ปูทางธุรกิจ ชิง ตลาดโลกเทค

นางสุภาพร สุขมาก รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า DITP นำผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ทอัพไทย 6 ราย เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก โดยจัดพื้นที่ Thailand Pavilion ขนาด 60 ตารางเมตร เพื่อแสดงศักยภาพเทคโนโลยีและนวัตกรรมสตาร์ทอัพไทยให้เป็นที่รู้จักในตะวันออกกลาง ซึ่งได้สร้างโอกาสทางการค้ากับผู้ประกอบการไทยด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมไทย

นอกจากนี้ได้มีการหารือกับ H.E. Mohammed Ali Rashed Lootah ประธานและซีอีโอของหอการค้าดูไบ เพื่อสนับสนุนการประชาสัมพันธ์สตาร์ทอัพไทยและส่งเสริมความร่วมมือในอนาคต

“การเข้าร่วมงานครั้งนี้สร้างภาพลักษณ์ถึงความพร้อมของสตาร์ทอัพไทย รวมถึงเป็นโอกาสสำคัญในการเจรจาการค้า และที่สำคัญไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่บุกเบิกตลาดด้านเทคโนโลยีในงานนี้ในปีนี้ ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดก่อนคู่แข่ง" นางสุภาพร กล่าว

สำหรับสตาร์ทอัพไทยที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าได้สะท้อนความเห็นในทิศทางเดียวกันถึงโอกาสของผู้ประกอบการไทยด้านเทคโนโลยีที่จะเข้าสู่ตลาดใหญ่ด้านบริการของโลก

นางสาวพีรญา โคจรานนท์ กรรมการบริษัท Digital ERA Group กล่าวว่า ตลาดตะวันออกกลางค่อนข้างซัพพอร์ตมาก และเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพจากประเทศอื่นเข้ามาทำธุรกิจ ซึ่งการที่กรมฯ มาสนับสนุนให้เข้ามาเปิดตลาดผ่านงานแฟร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทำให้มีโอกาสได้เปิดตลาดใหม่ และอาจต่อยอดไปเจรจาด้านธุรกิจเพิ่มเติมได้ 

“อย่างน้อยๆการมาครั้งแรกก็ได้ลูกค้าใหม่เพิ่มจากงานแฟร์นี้ เพราะเพียงเปิดตัววันแรกก็ได้รับการตอบรับดี มีลูกค้าถึง 5 รายให้ความสนใจเข้ามาเจรจาธุรกิจ”

‘เทค สตาร์ทอัพ’ ไทยบุก ‘ดูไบ’ ปูทางธุรกิจ ชิง ตลาดโลกเทค

ขณะที่บริษัท เซเบิล จำกัด ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยี Beacon และ AI เพื่อสร้างโซลูชันการตลาดเชิงรุก หรือ MarTech ที่ได้พัฒนาแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า AIYA เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า (CDP) โดย นายอัจฉริยะ ดาโรจน์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง กล่าวว่า ยุคที่การตลาดและเทคโนโลยีก้าวหน้าได้พัฒนาเครื่องมือการตลาดที่ใช้ AI ผสมผสานใน Loyalty Program 

ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความฉลาดในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าโดยได้ใช้ AI ในการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้ติดตามพฤติกรรมลูกค้าได้ละเอียดกว่าการเก็บข้อมูลผ่านจุดขายปกติ ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวไม่ได้จำกัดเพียงการใช้งานในไทยแต่นำไปใช้ได้ทั่วโลก

“ถือเป็นครั้งแรกที่การมางาน Expand North Star x GITEX เป็นโอกาสที่จะขยายตลาดต่างประเทศ โดยตั้งเป้ายอดขายที่ 30-50 ล้านบาทจากตลาดต่างประเทศ โดยเน้นร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ซึ่งอนาคตหวังให้รัฐบาลสนับสนุนสตาร์ทอัพเทคโนโลยีในการขยายตลาดโลก เนื่องจากต้นทุนการขยายตลาดในระดับนี้ต่ำ และตลาดเทคโนโลยีมีโอกาสการเติบโตสูงในระดับประเทศและภูมิภาค” นายอัจฉริยะ กล่าว

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เทคโนโลยีสตาร์ทอัพไทยไม่ด้อยกว่าประเทศใด และได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ ซึ่งเทคโนโลยีไทยไม่แพ้ชาติอื่น ประกอบกับความคิดสร้างสรรค์ของสตาร์อัพไทยยิ่งทำให้เรามีจุดเด่นเพิ่มขึ้น 

แต่สิ่งที่ขาดคือ “ความมั่นใจ” ในการเดินออกมาจากตลาดไทยไปสู่เวทีโลก ซึ่งต้องได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐให้ออกโชว์ในงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นในแต่ละภูมิภาค โดยกรมฯ เป็นหน่วยงานรัฐที่เป็นตัวอย่างที่ดีในการส่งเสริมสตาร์ทอัพไทย เพราะช่วยให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพรายเล็กได้เข้าร่วมงาน ซึ่งดูไบจะเป็นประตูการค้าด้านบริการของไทยไปสู่ภูมิภาคอื่น

การผลักดัน Tech Startup ครั้งนี้ผ่านงานแสดงสินค้า Expand North Star x GITEX 2025 สร้างโอกาสและผลักดันผู้ประกอบการ Tech Startup ของไทยเปิดตัวสู่ตลาดโลก โดยกระทรวงพาณิชย์มีแผนผลักดันอุตสาหกรรมบริการไทยให้ก้าวสู่ตลาดโลก