ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อในวันพุธ หลังจากรายงานของภาคอุตสาหกรรมระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ อินเดียอาจลดการซื้อน้ำมันรัสเซีย
บลูมเบิร์ก รายงานราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อวันนี้ ( 22 ต.ค.68) หลังจากรายงานของภาคอุตสาหกรรม ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำว่าอินเดียจะลดการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) เพิ่มขึ้นแตะระดับ 58 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังจากปิดตลาดสูงขึ้น 0.4% ในวันอังคาร
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดเหนือระดับ 61 ดอลลาร์สหรัฐฯ สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันเชื้อเพลิงรวมถึงน้ำมันเบนซินลดลง ตามข้อมูลของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ข้อมูลของรัฐบาลจะเผยแพร่ในวันพุธ
ขณะเดียวกัน ทรัมป์กล่าวอ้างเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันว่า เขาได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เกี่ยวกับการลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย สถานทูตอินเดียไม่ได้ตอบกลับคำขอความคิดเห็นในทันที
ราคาน้ำมันดิบยังคงมีแนวโน้มลดลงเป็นเดือนที่สาม เนื่องจากสัญญาณอุปทานน้ำมันเกินความต้องการทั่วโลก กดดันราคาให้ลดลง ถือเป็นโอกาสให้รัฐบาลทรัมป์เข้าซื้อน้ำมันดิบเพื่อสำรองเชิงยุทธศาสตร์ สหรัฐฯ วางแผนที่จะซื้อน้ำมันดิบ 1 ล้านบาร์เรลสำหรับการส่งมอบในเดือนธันวาคมและมกราคม
อัปเดตราคาเช้านี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 0.6% อยู่ที่ 57.56 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 7:38 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 61.32 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในวันอังคาร







