‘คลัง’ คาดลงทะเบียน ‘คนละครึ่งพลัส’ 20 ล้านสิทธิ เต็มใน 3 วัน

เปิดลงทะเบียนวันแรก “คนละครึ่ง พลัส” คาดผลตอบรับดีประชาชนกดรับครบ 20 ล้านสิทธิ ภายใน 3 วัน ย้ำเริ่มใช้จ่าย 29 ต.ค.68 ใช้สิทธิครั้งแรกก่อน 11 พ.ย.68 เตือนภัยมิจฉาชีพฉวยโอกาสส่งลิงก์ปลอม
วันนี้ (20 ต.ค.68) เป็นวันแรกของการเปิดลงทะเบียนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ "คนละครึ่งพลัส" สำหรับประชาชนจำนวน 20 ล้านสิทธิ โดยกระทรวงการคลัง มีความพร้อมเต็มที่ในการรองรับประชาชนทั่วประเทศ โดยได้อัปเกรดระบบแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
นายลวรณ แสงสนิท เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เตรียมความพร้อมของระบบเป็นอย่างดี โดยขยายขีดความสามารถของแอปเป๋าตังให้รองรับการลงทะเบียนได้ถึง 100,000 รายการต่อวินาที เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจากเดิมที่รองรับได้ 50,000 รายการต่อวินาที ซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยทำมา โดยคาดว่าจะมีการลงทะเบียนครบ 20 ล้านสิทธิภายในเวลาไม่เกิน 3 วัน
"เรามีความพร้อมเต็มที่ในการรับลงทะเบียน และได้ขยายระบบให้มีเสถียรภาพสูงสุดเพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน" นายลวรณ กล่าว
สำหรับ โครงการคนละครึ่งพลัส จะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปเป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 20 - 26 ต.ค.68 เวลา 06.00 - 22.00 น. อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ลงทะเบียนครบ 20 ล้านสิทธิแล้ว ระบบจะปิดรับการลงทะเบียนทันที
สำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิจะสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. - 31 ธ.ค.68 แต่มีเงื่อนไขสำคัญคือ จะต้องเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย.68 (ภายใน 14 วันหลังโครงการเริ่ม) หากไม่มีการใช้จ่ายภายในเวลาที่กำหนด จะถูกตัดสิทธิโดยอัตโนมัติ และสิทธิที่ถูกตัดนั้นจะถูกนำมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนอีกครั้งในภายหลัง
ทั้งนี้ คาดว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 8.8 หมื่นล้านบาท ภายในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี
นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทั้งประชาชน และผู้ประกอบการ โดยความคืบหน้าการลงทะเบียนในส่วนของร้านค้า ซึ่งเปิดรับสมัครล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 15 - 17 ต.ค.68 ที่ผ่านมา พบว่ามีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการสำเร็จแล้วถึง 123,960 ราย และมีร้านค้าที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการสมัครอีก 98,064 ราย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อโครงการของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม นางสาวอัยรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยกระแสความสนใจทั่วประเทศ ทำให้เป็นช่องทางของกลุ่มมิจฉาชีพที่พยายามฉวยโอกาสหลอกลวงประชาชนในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการส่งลิงก์ปลอมผ่าน SMS เพื่อหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัว และดูดเงินในบัญชี
"รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาดังกล่าว โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และขอให้ประชาชนโปรดระมัดระวัง อย่าหลงเชื่อลิงก์หรือข้อความที่ไม่ทราบที่มา" รองโฆษกฯ กล่าว
เตือนภัย 4 ข้อต้องรู้! ป้องกันถูกดูดเงิน
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของตำรวจไซเบอร์อย่างเคร่งครัด ดังนี้
1. อย่ากดลิงก์แปลกปลอม โครงการของรัฐบาลจะไม่ส่งลิงก์ลงทะเบียนผ่านทาง SMS เด็ดขาด การลงทะเบียนทำได้ผ่านแอปเป๋าตังเท่านั้น
2. ตรวจสอบเพจโซเชียล อย่าหลงเชื่อเพจหรือบัญชีโซเชียลที่ไม่เป็นทางการ ให้ตรวจสอบเครื่องหมายยืนยันตัวตน (✔ Verified) และจำนวนผู้ติดตามที่น่าเชื่อถือ
3. ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัว อย่าให้ข้อมูลสำคัญ เช่น เลขบัตรประชาชน, วันเกิด, รหัส OTP, และข้อมูลบัญชีธนาคาร แก่ผู้อื่นโดยเด็ดขาด
4. อย่าเชื่อสายโทรศัพท์ หน่วยงานรัฐ และธนาคาร ไม่มีนโยบายโทรศัพท์ไปขอรหัส OTP หรือขอให้โอนเงิน เพื่อทำการลงทะเบียนหรือรับสิทธิใดๆ ทั้งสิ้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







