วัดใจ 'อรรถพล' ชง 'นรินทร์ เผ่าวณิช' นั่งผู้ว่าฯ กฟผ. คนที่ 17

การตัดสินใจสำคัญของ “อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เตรียมเสนอชื่อ “นรินทร์ เผ่าวณิช” รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อแต่งตั้งเป็น ผู้ว่าการ กฟผ. คนที่ 17 ต่อจาก “เทพรัตน์ เทพพิทักษ์” ที่ครบวาระไปเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568

รายงานข่าวจาก กระทรวงพลังงาน ระบุว่า ปัจจุบัน “นรินทร์” ทำหน้าที่ รักษาการผู้ว่าการ กฟผ. ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากบอร์ด กฟผ. มีมติแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่แทน เพื่อให้การบริหารงานไม่สะดุด ขณะรอการแต่งตั้งผู้ว่าการตัวจริง ซึ่งมีแนวโน้มสูงว่าจะได้รับการเสนอชื่อเข้า ครม. โดยเร็ว

การแต่งตั้งครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบทางการเมืองของ “อรรถพล” ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ ที่ต้องชั่งน้ำหนักทั้งมิติทางนโยบาย 4 เดือน รวมถึงความเชื่อมั่นของพนักงานภายใน กฟผ. และแรงกดดันจากปัจจัยทางการเมืองที่มักเข้ามาเกี่ยวข้องกับตำแหน่งสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของประเทศ

ย้อนกลับไปในกระบวนการสรรหา ผู้ว่าการ กฟผ. คนใหม่ เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 เมื่อคณะกรรมการสรรหาฯ ซึ่งมี "วรากร พรหโมบล" อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรรมการ กฟผ. เป็นประธานการสรรหาฯ เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 10 เมษายน – 13 พฤษภาคม มีผู้สมัครทั้งหมด 6 ราย ซึ่งล้วนเป็น “คนใน” กฟผ. ทั้งสิ้น ได้แก่

1. นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ (ปฏิบัติงานที่ ราช กรุ๊ป)

2. นายวิภู พิวัฒน์ รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า

3. นายธวัชชัย สำราญวานิช รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์

4. นายธีรวุฒิ เวทะธรรม รองผู้ว่าการพัฒนาระบบส่ง

5. นายนรินทร์ เผ่าวณิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง

6. นายทิเดช เอี่ยมสาย รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน

จากการพิจารณาคุณสมบัติและประสบการณ์เชิงลึกด้านพลังงาน โดยเฉพาะบทบาทในการบริหารจัดการเชื้อเพลิงและความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ “นรินทร์” จึงถูกมองว่าเป็นตัวเต็งคนสำคัญของตำแหน่งนี้

ทั้งนี้ "นรินทร์" ปัจจุบันอายุ 51 ปี จบการศึกษาปริญญาเอกด้านวิศวกรรมโยธา จาก Georgia Institute of Technology, สหรัฐอเมริกา และปริญญาตรีวิศวกรรมโยธา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีทั้งความรู้เชิงเทคนิคและมุมมองบริหารยุคใหม่ ซึ่งสอดรับกับทิศทางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลก

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร คาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้ "อรรถพล" จะเสนอชื่อ “นรินทร์” ให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบอย่างเป็นทางการ เพื่อให้การดำเนินนโยบายและโครงการขนาดใหญ่ของ กฟผ. ดำเนินต่อเนื่องได้เต็มศักยภาพ

อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งผู้ว่าการ กฟผ. ครั้งนี้ยังถูกจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะก่อนหน้านี้ ผู้ว่าการคนก่อนหน้าอย่าง “เทพรัตน์ เทพพิทักษ์” ต้องใช้เวลานานเกือบ 1 ปีเต็ม กว่าจะผ่านการเสนอชื่อเข้า ครม. เนื่องจากกระบวนการสรรหาในยุคนั้นมีทั้งแรงกดดันทางการเมือง การเปลี่ยนแปลง บอร์ด กฟผ. และข้อท้วงติงเรื่องคุณสมบัติด้านอายุราชการ ทำให้การแต่งตั้งล่าช้า ส่งผลให้ กฟผ. ไม่สามารถแต่งตั้งโยกย้ายภายในกว่า 50 ตำแหน่ง และอนุมัติโครงการมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทได้

ทั้งนี้ กระบวนการสรรหา "บอร์ดกฟผ." ต้องยืดเยื้ออีกครั้ง เพราะต้องรอการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร กฟผ. (บอร์ดกฟผ.) ชุดใหม่ หลังจากบอร์ดชุดเก่าได้ลาออกไปทั้งชุดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2566 เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยรรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คนใหม่มาเป็น "พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค" รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ต้องเริ่มขั้นตอนการลงนามถึงประกาศการสมัครคณะกรรมการบริหาร กฟผ. 

ต่อมาบอร์ดกฟผ. วันที่ 21 ก.พ .2567 มีมติเห็นชอบยืนยันเสนอชื่อให้ "เทพรัตน์" เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ. ตามที่คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการเสนอ แทน บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 และที่ประชุม ครม. วันที่ 3 มีนาคม 2567 มีมติเห็นชอบตามที่ นายพีระพันธุ์ เสนอ แต่งตั้ง "เทพรัตน์" นั่งผู้ว่าการกฟผ.คนที่ 16 จากการเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. - 3 ก.พ. 2566 

ดังนั้น การแต่งตั้ง “นรินทร์” ครั้งนี้ จึงถูกมองว่าเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของ “อรรถพล” ในการเดินเกมพลังงานเชิงรุกอย่างมั่นใจและลดแรงต้านทางการเมือง เพื่อให้ กฟผ. มีผู้นำตัวจริงอย่างเป็นทางการโดยเร็วที่สุด และเพื่อความต่อเนื่องทางนโยบายและความมั่นคงพลังงานไทยในยุคใหม่ของการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างแท้จริง