กรมประมง ปล่อย 'ปลานักล่า' ต่อเนื่อง บูรณาการคุมเข้ม 'ปลาหมอคางดำ'

กรมประมง ปล่อย 'ปลานักล่า' ต่อเนื่อง บูรณาการคุมเข้ม 'ปลาหมอคางดำ'

กรมประมงเดินหน้ามาตรการควบคุมและจัดการ “ปลาหมอคางดำ” ต่อเนื่อง เพื่อลดความหนาแน่น และควบคุมการแพร่กระจาย ร่วมกับทุกภาคส่วน ฟื้นฟูความสมดุลของแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างยั่งยืน

หนึ่งในมาตรการสำคัญของกรมประมง คือ “การปล่อยพันธุ์ปลานักล่า” เช่น ปลาอีกง ปลากะพงขาว ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติในการลดจำนวนปลาหมอคางดำ จะช่วยกำจัดลูกปลาหมอคางดำขนาดเล็ก เป็นการ “ตัดวงจรการแพร่พันธุ์” และลดความหนาแน่นของประชากรของปลาต่างถิ่นในแหล่งน้ำ พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและสร้างสมดุลให้ระบบนิเวศกลับคืน

กรมประมง ปล่อย 'ปลานักล่า' ต่อเนื่อง บูรณาการคุมเข้ม 'ปลาหมอคางดำ'

ล่าสุด กรมประมง ร่วมกับชุมชน และหน่วยงานภาครัฐ และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ (CPF) จัดกิจกรรม ปล่อยพันธุ์ปลากะพงขาว ขนาด 4-5 นิ้ว 10,000 ตัว ลงในแหล่งน้ำธรรมชาติในกรุงเทพมหานคร การปล่อยปลานักล่าจะดำเนินต่อจากกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” ที่มีการจับปลาหมอคางดำขนาดใหญ่ออกจากแหล่งน้ำ

นายยุคล เหมบัณฑิต ประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การปล่อยปลานักล่าเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญของกรมประมงในการควบคุมและลดจำนวนปลาหมอคางดำ โดยเฉพาะ ปลากะพงขาว ซึ่งถือเป็นปลาดั้งเดิมในแหล่งน้ำของชุมชน และสามารถกำจัดลูกปลาหมอคางดำได้เป็นอย่างดี กิจกรรมการปล่อยปลานักล่าครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนในพื้นที่

โดยลูกพันธุ์ปลากะพงขาวที่ปล่อยในวันนี้ 10,000 ตัวได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟ ขณะที่ชุมชนและพี่น้องเกษตรกรได้ร่วมกันคัดเลือกแหล่งน้ำที่เหมาะสมในการปล่อยปลาสองจุด ได้แก่ บริเวณคลองหน้าวัดลูกวัว และศูนย์เรียนรู้แสมดำ

กรมประมง ปล่อย 'ปลานักล่า' ต่อเนื่อง บูรณาการคุมเข้ม 'ปลาหมอคางดำ'

นายยุคลกล่าวเพิ่มเติมว่า “เกษตรกรในพื้นที่ต้องการปลากะพงขาวเพิ่มเติมเพื่อนำไปใช้ในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งกรุงเทพมหานครมีแผนจัดตั้ง ‘กองทุนปลากะพงขาว’ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรในอนาคต ขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครยังให้ความสำคัญกับการบูรณาการทุกภาคส่วนในการช่วยกันกำจัดปลาหมอคางดำ เช่น การรับซื้อปลาหมอคางดำกว่า 500,000 กิโลกรัม เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ”

การปล่อยปลานักล่าเป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น ที่ใช้กลไกธรรมชาติในการควบคุมประชากรปลาหมอคางดำ ยังเป็นการเพิ่มชนิดของพันธุ์ปลาในแหล่งน้ำ ช่วยให้ชุมชนได้รับประโยชน์โดยตรงจาก “ปลากะพงขาว” ซึ่งเป็นปลาเศรษฐกิจ สามารถจับขึ้นมาเป็นอาหารของครัวเรือน หรือนำไปจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้เสริมแก่ครัวเรือน

กรมประมง ปล่อย 'ปลานักล่า' ต่อเนื่อง บูรณาการคุมเข้ม 'ปลาหมอคางดำ'

นอกจากนี้ ปลานักล่ายังมีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่เป็น “แนวกันชนธรรมชาติ” จำกัดขอบเขตการแพร่กระจายของปลาหมอคางดำไม่ให้ขยายไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ โดยเฉพาะในจังหวัดที่ยังไม่พบการระบาด เช่น จังหวัดตราด ซึ่งมีการปล่อยปลากะพงขาวในแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อสร้างแนวป้องกันตามธรรมชาติ ลดความเสี่ยงต่อการรุกรานของปลาหมอคางดำในอนาคตทั้งนี้ กรมประมงยังคงติดตามและประเมินผลของมาตรการกำจัดและควบคุมปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง ทั้งกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” และการปล่อยปลานักล่าในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเน้นส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์ปลาหมอคางดำและสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งการแปรรูปเป็นอาหารเพื่อบริโภคและจำหน่าย ใช้เป็นอาหารของปลากะพงและปู รวมถึงทำเป็นน้ำหมักชีวภาพ เพื่อให้การจัดการปลาหมอคางดำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บนพื้นฐานของความร่วมมือและการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล