ครม.เคาะกรอบลงทุน 51 รัฐวิสาหกิจปี 69 วงเงิน 1.56 ล้านล้าน กระตุ้น GDP 0.3%

ครม.เคาะกรอบลงทุน 51 รัฐวิสาหกิจปี 69  วงเงิน 1.56 ล้านล้าน กระตุ้น GDP 0.3%

ครม.เคาะกรอบลงทุนรัฐวิสาหกิจปี 2569 วงเงินรวมกว่า 1.56 ล้านล้านบาท พร้อมตั้งเป้าเบิกจ่าย 4.4 แสนล้านในปี 2569  หนุนจีดีพีโต 0.3%

KEY

POINTS

  • ครม.เคาะกรอบลงทุนรัฐวิสาหกิจปี 2569 วงเงินรวมกว่า 1.56 ล้านล้านบาท
  • พร้อมตั้งเป้าเบิกจ่าย 4.4 แสนล้านในปี 2569 หนุนจีดีพีโต 0.3%
  • คลังเน้นเพิ่มประสิทธิภาพเบิกจ่ายโดยเร็ว
  • ตั้งเป้า 95% เตรียมพร้อมเบิกจ่าย และจัดซื้อจัดจ้างโดยเร็ว

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (14 ต.ค.) เห็นชอบ กรอบและงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2569 ตามที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เสนอ โดยมีวงเงินรวมกว่า 1.56 ล้านล้านบาท โดยคาดว่าจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2569 ขยายตัวได้ประมาณ 0.3%

สำหรับรายละเอียดของงบลงทุนรัฐวิสาหกิจที่ ครม.เห็นชอบการลงทุนของรัฐวิสาหกิจทั้ง 51 แห่ง (รวมบริษัทมหาชนจำกัดและบริษัทในเครือ)ประกอบด้วย วงเงินดำเนินการการลงทุนจำนวน 1,560,095 ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายจำนวน 441,616 ล้านบาท

ทั้งนี้เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการและให้รัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการได้ทันทีภายในปีงบประมาณ 2569 ครม.เห็นชอบให้สภาพัฒน์ปรับวงเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2569 ให้สอดคล้องกับผลการจัดสรรงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. 2569

รวมถึงงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม งบกลาง หรืองบประมาณที่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามหลักเกณฑ์และวิธีการงบประมาณหรือได้รับความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณแล้ว และปรับเพิ่มกรอบวงเงินดำเนินการและกรอบวงเงินเบิกจ่ายลงทุนให้สอดคล้องกับผลการอนุมัติตามขั้นตอนของกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนั้น ครม.มอบหมายให้ประธานสภาพัฒนาเป็นผู้พิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงงบลงทุนระหว่างปีภายใต้กรอบและงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2569 ที่ได้รับความเห็นชอบไว้แล้ว ในการดำเนินการ สำหรับโครงการลงทุนที่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบตามขั้นตอนและการลงทุนที่ใช้เงินงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569เห็นควรให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการได้เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว ทั้งนี้ กำหนดเป้าหมายให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่า 95% ของวงเงินอนุมัติเบิกจ่ายลงทุน

กำไรรัฐวิสาหกิจจ่อแตะ 9 หมื่นล้าน

นอกจากนี้ ครม.ได้เห็นชอบ กรอบประมาณการการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจในปีงบประมาณ 2569 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 86,492 ล้านบาท และประมาณการแนวโน้มการดำเนินงานช่วงปี 2570 - 2572 ของรัฐวิสาหกิจในเบื้องต้นที่คาดว่าจะมีการลงทุนเฉลี่ยประมาณปีละ 353,702 ล้านบาท และผลประกอบการจะมีกำไรสุทธิเฉลี่ยประมาณปีละ 90,287 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามได้รับทราบข้อสังเกตว่าผลประกอบการของรัฐวิสาหกิจในปี 2569  อาจเปลี่ยนแปลงไปตามสมมติฐานและปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ เช่น

1.ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจและราคาพลังงาน

2.สถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก

3.ความสามารถในการดำเนินการตามแผนธุรกิจ

4.ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

5.ความผันผวนของราคาสินค้าด้านการเกษตร

และ 6.การจัดสรรรเงินงบประมาณเพื่ออุดหนุนการดำเนินงานเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ

เปิดโครงการสำคัญรัฐวิสาหกิจลงทุน

สำหรับโครงการลงทุนที่สำคัญของรัฐวิสาหกิจในปี 2569 ประกอบไปด้วย  1.โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานครเพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) วงเงิน เบิกจ่ายลงทุน 4,489 ล้านบาท

2.โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) วงเงินเบิกจ่ายลงทุน 11,896 ล้านบาท

3.โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
(รฟม.) วงเงินเบิกจ่ายลงทุน 11,326 ล้านบาท

และ 4.โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) วงเงินเบิกจ่ายลงทุน 3,894 ล้านบาท เป็นต้น

'คลัง' ตั้งเป้าเบิกจ่าย 95% 

ทั้งนี้กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าในการดำเนินการโครงการต่างๆของรัฐวิสาหกิจ นั้นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจควรเตรียมความพร้อมในการลงนามในสัญญาในส่วนของงบลงทุนที่เสนอขอใหม่ในปี 2569 รวมถึงรัฐวิสาหกิจที่ใช้เงินงบประมาณในการลงทุนควรเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถลงนามสัญญาได้ทันทีเมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณ

นอกจากนี้รัฐวิสาหกิจควรพิจารณาเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เร็วขึ้น โดยปรับเพิ่มแผนการเบิกจ่ายในช่วงไตรมาสที่ 1 - 2 ของปีบัญชี 2569 เพื่อหลีกเลียงการกระจุกตัวของการเบิกจ่ายลงทุนในช่วงไตรมาสสุดท้าย รวมถึงเร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายลงทุนโดยเฉพาะงบลงทุนผูกพันที่ได้ผูกพันสัญญาไว้แล้ว และเร่งการเบิกจ่ายในส่วนของรายการนำเข้า (Import Content) เพื่อสนับสนุนความสมดุลของกลไกการนำเข้า - ส่งออกที่มีผลต่อค่าเงินบาท ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจมีความประสงค์จะปรับปรุงงบลงทุนในระหว่างปี ขอให้พิจารณาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2569

นอกจากนี้เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดและคณะกรรมการรู้วิสาหกิจกำกับติดตามการดำเนินงานและการเบิกจ่ายลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างเคร่งครัดและให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินโครงการและการเบิกจ่ายงบลงทุนด้วย

โดยนำประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไปประกอบการพิจารณา เพื่อให้การเบิกจ่ายลงทุนชองรัฐวิสาหกิจเป็นไปตามเป้าหมาย รวมถึงขอให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจพิจารณากำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจในระดับไม่น้อยกว่าร้อยละ 95% เป็นตัวชี้วัดของผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ