คลังชง ครม.เศรษฐกิจ ปลุกเศรษฐกิจปลายปี ดัน GDP โตเกิน 2%

คลัง เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่เข้าที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดพิเศษ 15 ต.ค.68 นี้ หวังอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 1 แสนล้านบาท เข้าระบบช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
รายงานข่าวระบุว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจนัดพิเศษวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.68) กระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ประจำปี 2568 ขยายตัวได้มากกว่า 2% โดยมีเป้าหมายอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 1 แสนล้านบาทให้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้
สำหรับมาตรการสำคัญที่จะเสนอ ประกอบด้วย 1. มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยจะสั่งการให้หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ เร่งรัดการจัดประชุมสัมมนาภายในประเทศในช่วง 4 เดือนข้างหน้า (ต.ค.68 - ม.ค.69) ซึ่งมีงบประมาณอยู่แล้วราว 6,000 - 8,000 ล้านบาท และ 2. มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน ผลักดันให้ส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนที่ยังคงค้างอยู่
นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีงบเหลื่อมปีที่รอการเบิกจ่ายอยู่ถึง 3.2 แสนล้านบาท ซึ่งจะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการเบิกจ่ายโดยเร็วที่สุดในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ของปีงบประมาณ 2569
นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางยังได้รับนโยบาย "Quick Big Win" จากนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อปรับปรุงแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2569 ให้มีความแม่นยำ และใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด พร้อมทั้งจะมีการรายงานเป้าหมายการเบิกจ่ายเป็นรายไตรมาสเพื่อติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด
โดยการเบิกจ่ายงบประมาณให้มากขึ้นในไตรมาสแรก (front-load) เนื่องจากโดยปกติแล้วการเบิกจ่ายในไตรมาสแรกจะอยู่ที่ประมาณ 30% แต่เนื่องจากมีการโหลดงบประมาณเข้ามามากขึ้น และตัวเลขงบลงทุนที่คาดว่าจะสูงขึ้น อาจส่งผลให้การเบิกจ่ายรวมในไตรมาสแรกสามารถทำได้ถึงประมาณ 40%
สำหรับภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 ที่ผ่านมา สามารถเบิกจ่ายได้รวม 92.3% โดยงบประจำเบิกจ่ายได้ถึง 100.02% แต่งบลงทุนเบิกจ่ายได้เพียง 65% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปีงบประมาณ 2567 ที่งบประมาณมีผลบังคับใช้ล่าช้า และต่ำกว่าปี 2566 ที่เบิกจ่ายได้ถึง 77%
โดยสาเหตุสำคัญในปีนี้มาจากการอนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม 1.57 แสนล้านบาทในช่วงท้ายปี ทำให้ส่วนราชการเตรียมการเบิกจ่ายไม่ทัน
“ภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนปีนี้กับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 65% เท่ากัน เพราะปีงบ 67 งบประมาณมีผลบังคับใช้ล่าช้า อย่างไรก็ตามหากดูผลการเบิกจ่ายงบลงทุนปี 66 นั้น สามารถเบิกจ่ายได้สูงถึง 77% และก่อนสถานการณ์โควิดการเบิกจ่ายงบลงทุนทำได้สูงกว่า 70% ขึ้นไป”
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







