'ธนกร' เดินหน้าหนุนโดรนไทย เสริมความมั่นคง-สร้างเม็ดเงินลงทุน

'ธนกร' เดินหน้าหนุนโดรนไทย เสริมความมั่นคง-สร้างเม็ดเงินลงทุน

"ธนกร" รมว.อุตสาหกรรม เดินหน้าดันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หนุนโดรนไทยเสริมความมั่นคงชาติ สร้างเม็ดเงินลงทุนใหม่

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
เปิดเผยว่า ตามนโยบาย ฝ่า ฟัน ดึง ดัน ทำทันทีภายใน 120 วัน กระทรวงอุตสาหกรรมเห็นความสำคัญและโอกาสในการ
ส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

กระทรวงอุตสาหกรรมเห็นความสำคัญและโอกาสในการส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือ New S Curve ที่ 12 ที่จะผลักดัน เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ และลดการนำเข้า โดยได้กำหนดผลิตภัตภัณฑ์เป้าหมายนำร่อง แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มอากาศยานไร้คนขับ 2. กลุ่มยานพาหนะรบ 3. กลุ่มอุตสาหกรรมต่อเรือ และ 4. กลุ่มอาวุธและกระสุนปืน 'ธนกร' เดินหน้าหนุนโดรนไทย เสริมความมั่นคง-สร้างเม็ดเงินลงทุน

 

กระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งผลักดันให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศผ่านกลไกการลดต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบ โดยผลักดันการจัดตั้งเขตปลอดอากรสำหรับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศขึ้นเป็นการเฉพาะ นอกจากนี้ยังได้จัดทำฐานข้อมูลอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ (Intelligence Unit) เผยแพร่ผ่านเว็บโชต์ศูนย์สารสนเทศอัจฉริยะอุตาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อให้ภาคเอกชนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินธรกิจและใช้ประกอบการจัดทำนโยบายบายของภาครัฐ นอกจากนั้น ยังได้เร่งผลักดันการปรับปรุงกรอบระยะเวลาการส่งออก จากเติมจะต้องใช้ระยะเวลารวม 81 วันให้เหลือเพียง 30 วันเท่านั้น เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้อุตสาหกรรมป้องกับประเทศของไทยสามารถแข่งขันได้อย่างมั่นคงในเวทีโลก

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เข้าเยี่ยมชมและให้ข้อเสนอในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ณ ศูนย์วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง (Deep Tech Innovation Center) อากาศยานไร้คนขับของบริษัท อาร์วี คอนเน็กข์ จำกัด ประกอบด้วย 1. ศูนย์ปฏิปฏิบัติการเฝ้าระวังความปลอดภัยไขเบอร์ (CSOC) สำหรับปกป้องระบบดิจิทัลและข้อมูลที่สำคัญ 2. สถานที่ผลิตวัสดุคอมโพสิตและชิ้ะชิ้นส่วนโลหะ 3. สายการผลิต SMT สำหรับประกอบแผบแผงวงจรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ความแม่นยำสูง และ 4. ห้องประกอบและทดสอบชิ้นส่วนดาวเทียม System Integration Lab (SIL) เพื่อบูรณาการระบบขั้นสูง 

'ธนกร' เดินหน้าหนุนโดรนไทย เสริมความมั่นคง-สร้างเม็ดเงินลงทุน

รวมถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการพร้อมทั้งรับฟังการนำเสนอความร่วมมือกับหน่วยงานศูนย์ทหารปืนใหญ่ เช่น การพัฒนาระบบ Autopilot, ระบบ Fuel Cell สำหรับโดรนพลังงานสะอาดและการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีสำหรับเครื่องบินโจมตี

"อุตสาหกรรมป้องกันประเทศเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญทั้งด้านความมันคงและเศรษฐกิจ ซึ่งมีโอกาสเติบโตสูงในตลาดโลก โดยเป็นอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีนวัตกรรมที่สามารถนำไปต่อยอดหรือประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมอื่นได้ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศได้อีกมาก อันจะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าอาวุธยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศ ซึ่งทางบริษัทฯ มีจุดแข็งรอบด้าน แต่ยังคงเผชิญความท้าทาย ทั้งต้นทุนการทดสอบ

'ธนกร' เดินหน้าหนุนโดรนไทย เสริมความมั่นคง-สร้างเม็ดเงินลงทุน

ที่สูง ความเสียงในห่วงโซ่อุปทาน การแข่งขันในตลาดโลก และการขาดแคลนบุคลากรเฉพาะทางอย่าง Software Engineering และ Cyber Security โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้ คือ การแสดงจุดยืนว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้ก้าวข้ามอุปสรรค สามกรถแข่งขันในเวทีโลก และสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีให้ประเทศ" นายธนกร กล่าวทิ้งท้าย

'ธนกร' เดินหน้าหนุนโดรนไทย เสริมความมั่นคง-สร้างเม็ดเงินลงทุน

สำหรับบริษัท RV Connex ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.ศ. 2559 มีบุคลากรกว่า 420 คน โดยได้รับการรับรองมาตรฐานสากล อาทิ 150 9001:2015, AS 9100D สำหรับอุตสาหกรรมการบิน, ISO/IEC 27001:2022 ด้านระบบริหารความมั่นคงข้อมูล และเป็นองค์กรแรกของไทยที่ได้รับรอง NIST Cybersecurity Framework 2.0 และมีเผลงานการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับที่หลากหลาย ได้แก่ 1.โดรนภารกิจตรวจการณ์สอดแนม (15R) ที่ใช้งานกับกองทัพอากาศไทย พร้อมฐานควบคุมภาคพื้นที่พัฒนาเอง 2.โดรนติดอาวุธพร้อมบินอัตโนมัติ 3.โดรนเป้าหมายสำหรับทดสอบยิง ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้เล่นระดับโลกด้วยการร่วมพัฒนาโดรนพลังงานไฮโดรเจน และแพลตฟอร์ม H2D55 พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยี Cyber Security, loT และระบบโลจิสติกส์ และ EDGE Group ในการผลิต UAV ของไทยกับเทคโนโลยียุทโธปกรณ์และอาวุธนำวิถีขั้นสูง