เปิดประวัติ 'พิชิต หุ่นศิริ' อธิบดี ทช. เข็นลงทุน 2 โปรเจกต์ภาคใต้

เปิดประวัติ 'พิชิต หุ่นศิริ' อธิบดี ทช. เข็นลงทุน 2 โปรเจกต์ภาคใต้

เปิดประวัติ “พิชิต หุ่นศิริ” นั่งอธิบดีกรมทางหลวงชนบท คนที่ 12 ประกาศเข็น 2 โปรเจกต์ลงทุนภาคใต้กว่า 6.5 พันล้านบาท

วันที่ 9 ตุลาคม 2568 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง

โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย ดังนี้

นายพิชิต หุ่นศิริ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมทางหลวงชนบท

นายจิรโรจน์ ศุกลรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568

สำหรับ นายพิชิต หุ่นศิริ รับตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมทางหลวงชนบท คนที่ 12 โดยมีประวัติการรับราชการ ดังนี้

23 กันยายน 2554 - 8 มีนาคม 2558

ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงขบบบทจังหวัดปราจีนบุรี (ชื่อเดิม)

9 มีนาคม 2558 - 27 พฤศจิกายน 2559  

ผู้อำนวยการแขวงทางหลงชนบทปราจีนบุรี (ชื่อใหม่)

28 พฤศจิกายน 2559 - 5 ธันวาคม 2561 

ผู้อ่านวยการแขวงทางหลวงชนบทชลบุรี

6 ธันวาคม 2561 - 12 มกราคม 2565

ผู้เชี่ยวชาณวิชาชีพเฉพาะด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านบำรุงรักษาทาทาง)(วิศวกรโยรา) สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 3 (ชลบุรี)

12 มกราคม 2565 - 28 ธันวาคม 2565  

ผู้อำนวยการสำนักบำรุงทาง

29 ธันวาคม 2565 - 30 กันยายน 2568

รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ด้านบำรุงทาง)

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

อธิบดีกรมทางหลวงชนบท

เปิดประวัติ 'พิชิต หุ่นศิริ' อธิบดี ทช. เข็นลงทุน 2 โปรเจกต์ภาคใต้

สำหรับโครงการสำคัญที่ กรมทางหลวงชนบท จะผลักดันให้เกิดการลงทุนในปีนี้ มี 2 โครงการ วงเงินรวม 6.5 พันล้านบาท ประกอบด้วย

1. โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา - อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง วงเงิน  4,841 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าก่อสร้าง 4,700 ล้านบาท และค่าจ้างควบคุมงานก่อสร้าง 141 ล้านบาท

2. โครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง-ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ วงเงิน 1,854 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าก่อสร้าง 1,800 ล้านบาท และค่าจ้างควบคุมงานก่อสร้าง 54 ล้านบาท

โดยทั้งสองโครงการนี้ จะช่วยลดระยะเวลาเดินทาง เพิ่มความปลอดภัยและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของภาคใต้ ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด