ส.อ.ท. ดันอุตสาหกรรมใหม่ 'Robot & Automation' รับแรงงานหด

"ส.อ.ท." ชี้ไทยถึงเวลา “Transform” หนีกับดักรายได้ปานกลาง ดันอุตสาหกรรมใหม่ “Robot and Automation” รับมือแรงงานหด
KEY
POINTS
- ส.อ.ท. เผยประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายจากจำนวนประชากรและแรงงานที่ลดลงอย่างน่ากังวล ซึ่งคาดว่าในอีก 40-50 ปีข้างหน้า ประชากรอาจลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว
- เพื่อรับมือปัญหาแรงงานหดตัว โรงงานหลายแห่งที่เป็นสมาชิก ส.อ.ท. ได้เริ่มนำหุ่นยนต์ (Robot) และระบบอัตโนมัติ (Automation) เข้ามาใช้ในการผลิตเพื่อทดแทนแรงงานคน
- ส.อ.ท. เตรียมจัดตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ "Robotics and Automation" อย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยเหลือสมาชิกในการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 และ 5.0
- อุตสาหกรรม Robot & Automation คาดว่าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ 49 และเป็นหนึ่งใน New S-Curve ที่จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และผลักดันให้ไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง
ประเทศไทยไทยถึงเวลาที่จะต้อง Transform สู่ยุคอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อดันให้ภาคการผลิตไทยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ และหลุดพ้นประเทศกับดักรายได้ปานกลางที่ภาคแรงงานเริ่มลดลง
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ประชากรโลกที่ลดลงในประเทศพัฒนาแล้ว กำลังเป็นความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเผชิญหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่แรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนามและอินโดนีเซีย ยังคงมีจำนวนมาก ทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นเป็นเรื่องยากขึ้น และพบว่านักลงทุนที่ต้องการการผลิตสูงที่ต้องการแรงงานได้ย้ายฐานการผลิตด้วย
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเคยมีความได้เปรียบด้านแรงงานที่อุดมสมบูรณ์ในภาคการเกษตร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากภาคเกษตรกรรมมาเป็นภาคอุตสาหกรรม แต่ปัจจุบัน สถานการณ์กลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อัตราการเกิดใหม่ลดลงอย่างน่ากังวล ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตมีมากกว่า หากแนวโน้มยังเป็นเช่นนี้ต่อไป นักประชากรศาสตร์คาดการณ์ว่าในอีก 40-50 ปีข้างหน้า ประชากรไทยจะลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียวหรือประมาณ 30 กว่าล้านคน ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายประเทศ รวมถึงจีนและสิงคโปร์ ก็กำลังเผชิญอยู่
จากแรงงานเข้มข้น สู่ทักษะขั้นสูง
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ถึงเวลาที่ไทยต้องปรับตัวครั้งใหญ่ จากการเป็นประเทศที่ใช้แรงงานเข้มข้น ไปสู่การเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมมูลค่าสูงและใช้ทักษะขั้นสูง โดย ส.อ.ท. ได้กำหนดแนวทาง 4GO ซึ่งประกอบด้วย GO DIGITAL, GO GREEN, GO GLOBAL และ GO SUSTAINABLE เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่อุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต หรือ New S-Curve ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลิตภาพและรายได้ต่อหัวให้สูงขึ้น และหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางที่ติดอยู่มานาน
“ไทยอยู่ในประเทศที่ติดกับดักรายได้ปานกลาง แม้จะเพิ่มจาก 5,000 กว่าดอลลาร์ต่อหัวต่อปีในช่วง 10 ปีมาเป็น 7,100 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่เราจะต้องก้าวสู่ประเทศที่มีรายได้สูงจะต้องประมาณ 13,000 ดอลลาร์ ถือว่ายังอีกไกล ดังนั้น หากปรับตัวสู่ภาคการผลิตที่มีมูลค่าสูงด้วยนวัตกรรมและทักษะสูงคงใช้เวลาประมาณ 5-10 ปี เหมือนมาเลเซียเขาก็หลุดออกมาแล้ว ส่วนเวียดนามก็ประกาศออกมาว่ามีแผนในการปฏิรูปตัวเองทั้งระบบราชการปฏิรูประบบการศึกษา และทำอะไรทุกอย่างใหม่ เพื่อสู่ประเทศที่มีรายได้สูงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ดังนั้น หากใครทำได้ก็จะมีโอกาสเทียบเท่าไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง”
Automation ทางออกทดแทนแรงงาน
อย่างไรก็ตาม เพื่อรับมือกับปัญหาแรงงานที่ลดลง โรงงานหลายแห่งที่เป็นสมาชิกของ ส.อ.ท. ได้เริ่มนำหุ่นยนต์ (Robot) และระบบอัตโนมัติ (Automation) เข้ามาใช้ในการผลิตแล้ว เพื่อทดแทนแรงงานคน ซึ่งเป็นแนวทางที่หลายประเทศที่ประสบปัญหาประชากรลดลงทำมาก่อน เช่น จีน ญี่ปุ่น และหลายประเทศในยุโรป
นอกจากนี้ ในอนาคตอันใกล้ ส.อ.ท. ได้เตรียมจัดตั้งกลุ่มอุตสาหกรรม Robotics & Automation อย่างจริงจัง เพื่อช่วยเหลือสมาชิกในการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 และ 5.0 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันแม้แต่ในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงก็แทบจะไม่มีการใช้แรงงานคนในสายการผลิตแล้ว มีเพียงบุคลากรจำนวนไม่กี่คนที่ทำหน้าที่ควบคุมในห้องปฏิบัติการเท่านั้นต่างจากโรงงานผลิตรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) เดิม
“ส.อ.ท. ยังเดินหน้าจัดตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่เพื่อสร้างเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ (New Growth Engine) ของประเทศ โดยล่าสุดได้จัดตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมที่ 47 คือ อุตสาหกรรมอากาศยานและอวกาศ (Aerospace) และกลุ่มที่ 48 คือ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนเพื่อทดแทนการนำเข้าและส่งออกได้ในอนาคต”
ดังนั้น อุตสาหกรรมใหม่เหล่านี้จะเข้ามา Disruption อุตสาหกรรมดั้งเดิม และเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีรายได้สูงได้ในอนาคตอันใกล้ โดยคาดว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่ 49 จะเป็น Robot and Automation ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งของ New S-Curve ที่จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ทัดเทียมกับนานาชาติได้
“การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคอุตสาหกรรมใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนในเทคโนโลยี แต่เป็นการยกระดับทักษะของแรงงาน การปรับตัวของภาคธุรกิจ และการวางนโยบายที่สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไปพร้อมกัน”







