‘เอกนิติ’ เล็งกำหนดเพดานลดหย่อนภาษี เพิ่มช่องจัดเก็บรายได้รัฐ

“เอกนิติ” เล็งกำหนดเพดานลดหย่อนภาษี เพิ่มช่องจัดเก็บรายได้รัฐ ปรับรายจ่ายลงทุนเพิ่ม ระบุทบทวนแผนการคลังระยะปานกลาง พ.ย.นี้ เร่งสร้างเชื่อมั่นแนวโน้มประเทศ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand Economic Outlook 2026 : Out of the Trap” จัดโดย กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 9 ต.ค.2568 ว่า กระทรวงการคลัง จะมีการยกระดับวินัยการคลังให้มีความโปร่งใส และชัดเจน โดยจะมีการทบทวนแผนการคลังระยะปานกลาง (MTFF) ในเดือนพ.ย.นี้ ให้มีการลงรายละเอียดการดำเนินนโยบายการคลังอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลจะไม่ก่อหนี้เพิ่ม เพื่อแสดงให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating Agency) ลดความกังวลต่อการก่อหนี้สาธารณะของไทย
รวมทั้ง ยังมีแผนการเพิ่มการจัดเก็บรายได้ผ่านการปรับปรุงระบบภาษี โดยเบื้องต้นจะมีการเสนอแก้กฎทรวง ปรับปรุงเกณฑ์ค่าลดหย่อนต่างๆ ซึ่งสามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องแก้พระราชบัญญัติ เนื่องจากปัจจุบันการลดหย่อนภาษีมีความสะเปะสะปะมาก
โดยแนวทางคือ การกำหนดเพดาน (Ceiling) ที่ชัดเจนว่าในหนึ่งปีจะลดหย่อนได้เท่าไร โดยข้อเสนอหนึ่งที่น่าสนใจคือ Individual Saving Account (ISA) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะให้ประชาชนมีเพดาน และอิสระในการเลือกที่จะไปลงทุนในหุ้น พันธบัตร หรือการลงทุนต่างประเทศได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องออกเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะเจาะจงเหมือนในอดีต
นายเอกนิติ กล่าวว่า การกำหนด Framework เรื่องลดหย่อนนี้จะเสร็จทันภายในเดือนพ.ย. นี้ รวมทั้งจะมีการนำระบบดิจิทัลมาใช้ในระบบภาษี และการยกเว้นให้เฉพาะผู้ที่เข้าไม่ถึงระบบ จะช่วยให้ภาษีของรัฐบาลโตขึ้นเยอะ นอกจากนี้ ในส่วนของรายจ่ายรัฐบาลจะต้องมีการปรับส่วนที่จ่ายเกินตัว และเพิ่มรายจ่ายลงทุนมากขึ้น
ทั้งนี้ กับดักเรื่องหนี้ และวินัยการคลังเป็นหนึ่งในกับดักที่ไทยยังคงติดอยู่ในหล่ม โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือน ซึ่งอยู่ในระดับสูงมาก ประชาชนรายย่อยต้องแบกรับภาระผ่อนต้นผ่อนดอก และมีกำลังซื้อลดลง หากไม่แก้ไข กำลังซื้อที่หดหายจะเริ่มกระทบธุรกิจขนาดเล็ก SME และอาจลามไปถึงธุรกิจรายใหญ่ได้ในที่สุด รวมถึงหนี้ของรัฐ หรือหนี้สาธารณะซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 64% GDP
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







