ส.อ.ท. วอนรัฐเร่งแก้ 'บาทแข็ง' หวั่นกระทบเศรษฐกิจปีหน้า

ส.อ.ท. วอนรัฐเร่งแก้ 'บาทแข็ง' หวั่นกระทบเศรษฐกิจปีหน้า

ส.อ.ท. วอนรัฐเร่งแก้ “บาทแข็ง” เหตุกระทบการค้าและการท่องเที่ยว พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมผ่าน 4 Go สู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ดันประเทศหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง พร้อมปรับตัวสอดคล้องกับกติกาโลกใหม่

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมเสวนาหัวข้อ “พลิกเกมสู้เศรษฐกิจโลกป่วน” ในงานสัมมนาใหญ่เศรษฐกิจไทย ประจำปี 2568 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

โดยคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญความท้าทาย จากการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจ พบว่าอัตราการเติบโตของไทยในครึ่งปีหลังปีนี้จะชะลอตัว หลังไตรมาส 1 เติบโตได้ 3.2% ไตรมาส 2 เติบโต 2.8% ทำให้ครึ่งปีแรกโตเฉลี่ย 3% ในครึ่งปีหลังไตรมาส 3 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.7% และไตรมาส 4 คาดว่าจะลดลงเหลือเพียง 0.3% โดยรวมแล้วคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จึงคาดการณ์ GDP ทั้งปีนี้จะอยู่ในช่วง 1.8% ถึง 2.2% เท่านั้น

ส.อ.ท. วอนรัฐเร่งแก้ 'บาทแข็ง' หวั่นกระทบเศรษฐกิจปีหน้า

สำหรับ 2569 แม้สถาบันการเงินระหว่างประเทศ IMF หรือ World Bank จะปรับตัวเลขการเติบโตของเอเชียและไทยดีขึ้นเล็กน้อย แต่คาดการณ์การเติบโตของ GDP ไทยยังคงอยู่เพียงที่ประมาณ 2% ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวอย่างช้าๆ ดังนั้นปีหน้าเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นนิดนึง เพราะสงครามการค้ามีข้อสรุปแล้ว แต่สิ่งที่ประเทศไทยต้องระวัง คือรายได้ของประเทศไทยส่วนใหญ่พึ่งพาการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงประมาณ 60% ของ GDP

อีกทั้งภาคการท่องเที่ยวก็เป็นตัวหลักในการสร้างรายได้ แต่ข้อมูล 9 เดือนที่ผ่านมา รายได้จากการท่องเที่ยวต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 7% โดยรายได้อยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งห่างไกลจากเป้าหมายเดิมที่ ททท. เคยตั้งไว้ว่าจะต้องมีนักท่องเที่ยว 40 ล้านคน และสร้างรายได้ 2 ล้านล้านบาท

“ตอนนี้ตัวเลขออกมา 9 เดือน เหลืออีก 3 เดือนสุดท้ายก็ต้องลุ้นกัน ซึ่งปัญหาค่าเงินบาทแข็งเกินไป เป็นเรื่องที่ กกร.ส่งสัญญาณเรื่องนี้ตลอด เพราะประเทศเราต้องค้าขายต่างชาติ ถ้าบาทแข็งสินค้าเราแพงขึ้น และยังกระทบการท่องเที่ยวด้วย”

นายเกรียงไกร กล่าวด้วยว่า เรื่องบาทแข็ง กกร. ออกมาสะท้อนให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหามาตลอด เพราะประเทศพึ่งพาการส่งออก 60% ของ GDP และจากภาคท่องเที่ยว 10% ของ GDP แต่ทั้งสองอุตสาหกรรมนี้โดนผลกระทบจากเงินบาท ดังนั้นเรื่องค่าเงิน กกร.ส่งเสียงเรื่องนี้มาตลอด โดยจากวันที่พูดเงินบาทแข็งค่า 7% ตอนนี้เหลือประมาณ 5% กว่า ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ กกร.ออกมาพูด ดังนั้นเรื่องค่าเงินจึงจะมีผลสำคัญต่อเศรษฐกิจในปีหน้า

ขณะที่การปรับตัวของภาคเอกชน ปัจจุบัน Transform ไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-Curve) มุ่งสร้างบุคลากรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเหล่านี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ประกาศให้ความสำคัญกับเรื่องการพัฒนาบุลากรเช่นกัน ดังนั้นเชื่อว่าใน 4 เดือนนี้ เรื่องอัพสกิลเป็นเรื่องเร่งด่วน

อย่างไรก็ดี ภาคอุตสาหกรรมจะเดินหน้าเปลี่ยนผ่านธุรกิจด้วยนโยบาย 4 Go ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของรัฐบาลและหน่วยงานเศรษฐกิจ ประกอบด้วย

- Go Digital and AI เร่งนำเทคโนโลยี ดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในทุกภาคส่วนอย่างเร่งด่วน

- Go Innovation เปลี่ยนบทบาทจากการเป็นเพียง OEM (รับจ้างผลิต) ไปสู่การเป็น ODM (ออกแบบและผลิต) หรือ OBM (มีแบรนด์ของตัวเอง) เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ และหลีกหนีการแข่งขันด้านค่าแรง

- Go Global มุ่งมั่น แสวงหาตลาดใหม่ และโอกาสทางการค้าใหม่ๆ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดเดิม

- Go Green ปรับตัวเข้ากับ กติกาโลกใหม่ ด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และการตั้งเป้าหมาย Net Zero Emission ภายในปี 2050