ม.หอการค้าไทยปรับประมาณการจีดีพีไทยปี 68 โต 2 % จากเดิม 1.7%

ม.หอการค้าไทยปรับประมาณการจีดีพีไทยปี 68 โต 2 % จากเดิม 1.7%

ม.หอการค้าไทย ปรับประมาณการจีดีพี ปี 68 เพิ่มเป็น 2.0% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.7% ผลจากการการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก คนละครึ่งพลัสช่วยกระตุ้นการบริโภคปลายปี แต่ยังต้องจับตาความเสี่ยงจากภาษี Transshipment ความไม่แน่นอนจากรัฐบาลเสียงข้างน้อย นักท่องเที่ยวที่ลดลง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  เปิดเผยว่า  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ประกาศปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 จาก 1.7 % เป็น 2.0% เนื่องจากมีปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจมากกว่าผลลบ

โดยปัจจัยบวกสำคัญที่ช่วยผลักให้จีดีพีทั้งปีปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ จีดีพีในช่วงครึ่งปีแรก ขยายตัวได้สูงถึง 3% เร่งขึ้นจากประมาณการเดิม  การส่งออก 7 เดือนแรก ขยายตัว 15% โตเกินคาด จากการเร่งนำเข้าของสหรัฐอเมริกา และคาดว่าทั้งปีนี้จะโตเพิ่มขึ้นจากเป้าเดิม 2.5% เป็น 6% ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนครึ่งปีแรก ขยายตัวเป็นบวก1.4% หลังจากที่ติดลบมานาน

นอกจากนี้รัฐบาลยังมีการดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส และเติมเงินบัตรคนจน คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าไปช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจรวม 59,080 ล้านบาท และ23,000 ล้านบาท ตามลำดับ จะช่วยผลักให้จีดีพีปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นอีก 0.44%

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบ คือภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับลดจาก 36 ล้านคนเหลือ 33 ล้านคน ส่งผลให้รายได้จากนักท่องเที่ยวลดลงจาก 1.69 ล้านล้านบาทเหลือ 1.55 ล้านล้านบาท

ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชายืดเยื้อคาดว่ามีการปิดด่านไปจนถึงปลายปี เบื้องต้นคาดว่าจะสร้างผลกระทบด้านการค้าราว 59,103 ล้านบาท ฉุดจีดีพี ลดลง0.32% และยังมีสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่รวม 5.3 ล้านไร่ ใน36จังหวัด

นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนที่ส่งผลต่อประมาณการ คือความเสี่ยงจากภาษี Transshipment การปรับเพิ่มสัดส่วน Local Content เป็น 50-60% อาจทำให้ GDP ลดลง  ความไม่แน่นอนจากรัฐบาลเสียงข้างน้อย หากข้อตกลงยุบสภาภายใน 4 เดือนสร้างความไม่แน่นอนต่อการลงทุนและความ และความผันผวนของจำนวนนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้หอการค้าไทยได้วิเคราะห์สถานการณ์ไว้ 3 กรณี คือ

1.กรณีแย่ที่สุด ภาษี Transshipment มีการปรับเพิ่มสัดส่วน Local Content เป็น 50-60% เกิดสถานการณ์ยุบสภ่าก่อน 4 เดือน การปิดชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดปี 68 นักท่องเที่ยว 33 ล้านคน จะทำให้จีดีพีไทยโตเพียง 1.2 %

2.กรณีฐาน  การเจรจาภาษี Transshipment ยังไม่เสร็จสิ้นภายในปี 68 มีการยุบสภาภายใน4 เดือนตามข้อตกลง  การปิดชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดปี 68และมีนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 33  ล้านคน จะทำให้จีดีพีไทยโต  2 %

3.กรณีที่ดีที่สุด การเจรจาภาษี Transshipment ยังไม่เสร็จสิ้นภายในปี 68 มีการยุบสภาภายใน4 เดือนตามข้อตกลง  มีการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาเดือนต.ค.68  นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเป็น 34   ล้านคน จะทำให้จีดีพีไทยโค 2.4 %

“เบื้องต้น ประเมินจีดีพีได้โตได้ 2 % แต่โอกาส ที่จีดีพีไทย จะ โตได้ 2-2.5  ก็มีความเป็นไปได้ แต่ขอดูผลงานของรัฐบาล ก่อน แต่เชื่อว่า  คนละครึ่งพลัส จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นขึ้นในไตรมาส 4  ถ้าไม่มีเหตุการณ์เชิงลบมากระทบเพิ่มเติม  ”นายธนวรรธน์ กล่าว

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า  ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 69 ขณะนี้ยังมองภาพได้ไม่ชัดเจนนัก แต่เบื้องต้น คาดว่าจะเติบโตได้ 2.0-2.5% ทั้งนี้ ต้องขอประเมินผลภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4/68 ก่อน ว่าการใช้มาตรการ "คนละครึ่งพลัส" จะช่วยกระตุกเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปีนี้ได้มากน้อยเพียงใด

ส่วนกรณีที่ธนาคารโลก (World Bank) ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้ จะเติบโตได้ 2% ซึ่งเป็นการเติบโตน้อยที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้น นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีภาพจำของการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำมาตั้งแต่ช่วงโควิด นอกจากนี้ ยังมีภาพของเงินเฟ้อติดลบ ซึ่งเป็นการติดกับดักการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้มีการมองภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในระยะยาวที่ไม่โดดเด่น

ดังนั้น รัฐบาลต้องวางรากฐานประเทศด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อทำให้ GDP ขยายตัวได้เกินกว่า 4% เพื่อให้ประเทศไทยเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน และดึงการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) ให้เข้ามา

นอกจากนี้ ควรดูแลให้ อัตราเงินเฟ้อ ในช่วงที่เหลือของปี ให้กลับมาเป็นบวกโดยเร็ว ซึ่งน่าจะดีขึ้นหลังใช้มาตรการคนละครึ่ง สะท้อนถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี เพื่อให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้โตใกล้เคียง 2.5% ให้ได้ เพราะธนาคารโลกยังคงประเมินให้ไทยเป็นประเทศที่เศรษฐกิจโตต่ำสุดในอาเซียนและที่สำคัญ ต้องวางรากฐานเศรษฐกิจในระยะยาวทั้งเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน และวางโครงการเมกะโปรเจคต่างๆ เพื่อให้เป็นประเทศไทยกลับน่าสนใจในเวทีโลก