‘หอการค้า’ ชี้เสี่ยงเงินฝืดทางเทคนิค ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

หอการค้าไทย ชี้ เงินเฟ้อลดต่อเนื่อง 6 เดือน เสี่ยงเงินฝืดทางเทคนิค เหตุประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย เชื่อ "คนละครึ่งพลัส" ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย หรือเงินเฟ้อเดือนก.ย.2568 เท่ากับ 100.11 เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.2567 ซึ่งเท่ากับ 100.84 ลดลง 0.72% ทั้งนี้เป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ดังนี้
เม.ย.2568 ลดลง 0.22%
พ.ค.2568 ลดลง 0.57%
มิ.ย.2568 ลดลง 0.25%
ก.ค.2568 ลดลง 0.70%
ส.ค.2568 ลดลง 0.79%
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า เงินเฟ้อของไทยที่ลดต่ำลง 6 เดือน แม้จะส่งสัญญาณเข้าสู่ภาวะเงินฝืด แต่ทางเชิงเทคนิคยังไม่ถือเป็นภาวะเงินฝืด โดยข้อเท็จริงคือ ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ประหยัดได้ก็ประหยัด จึงทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับการออกโครงการคนละครึ่งพลัสมาใช้ ซึ่งจะเป็นวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี และเร็วในสถานการณ์แบบนี้ก็แบบนี้หากปล่อยไหลแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็ไม่ดีแน่นอนยิ่งผู้บริโภคไม่กล้าจับจ่าย ทางผู้ผลิตก็ไม่กล้าผลิตซัพพลายเชนก็มีปัญหาห่วงโซ่ต่อเนื่องก็จะเข้าสู่ภาวะต่างฝ่ายต่างถอยไม่ใช่ถอยคนละก้าวแต่ถอยไปเรื่อยๆ
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ภาคเอกชนหวังมาตรการระยะสั้นที่ออกมาจะช่วยบรรเทาได้แต่ในระยะกลางจะต้องมีวิธีที่ทำให้ภาคธุรกิจเดินต่อได้ไม่ว่าจะเป็นภาคส่งออกที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
รวมทั้งผู้ประกอบการคงจะต้องปรับตัวให้ได้ตามสถานการณ์เพื่อให้ผ่านวิกฤติตรงนี้ไปได้ก่อนโดยเฉพาะการส่งออกในตลาดสหรัฐที่เป็นตลาดใหญ่ของไทยซึ่งผู้ประกอบการที่ส่งอีกไปตลาดเดียวจะต้องรีบกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดอื่นๆ โดยต้องหากิจกรรมเข้ากลุ่มลูกค้าอื่น
ทั้งนี้ ขณะนี้ความชัดเจนว่าสินค้าที่เข้าสหรัฐจะลดน้อยลง อย่างน้อย 3 เดือนหรืออาจถึง 6 เดือน แม้ว่าครึ่งปีแรกจะส่งออกไปสหรัฐมากขึ้น ดังนั้นช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ต่อจะถึงไตรมาสแรกปีหน้าจะต้องหาตลาดทดแทนควบคู่ไปกับการระมัดระวังทำสต๊อกสินค้าจะต้องระมัดระวังเพราะตลาดถืออยู่ในช่วงขาลงในหลายๆ ตลาด
รวมทั้งล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า เงินเฟ้อในช่วงต่อไปน่าจะปรับลดลงและมีการปรับคาดการณ์เงินซื้อเงินเฟ้อทั้งปี 0% บ่งชี้ว่ากำลังซื้อกำลังหายไป ภาคการผลิตก็ผลิตสินค้าเท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดทุน
ขณะที่ผู้บริโภคก็ไม่กล้าจะจ่ายใช้สอยมัน ภาวะแบบนี้ถือเป็นสัญญาณที่น่ากลัวถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่หากรัฐจะมีมาตรการอะไรต่างๆ มาเสริมเป็นระยะๆ ก็น่าจะเป็นตัวช่วยได้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







