พาณิชย์ หั่นคาดการณ์เงินเฟ้อปี 68 เหลือศูนย์ สนค. ยัน ไม่ใช่เงินฝืด 

พาณิชย์ หั่นคาดการณ์เงินเฟ้อปี 68 เหลือศูนย์ สนค. ยัน ไม่ใช่เงินฝืด 

พาณิชย์ เผย เงินเฟ้อเดือก.ย.ติดลบ 0.72% จากราคาพลังงานอาหารสดลง ติดลบติดต่อกัน 6 เดือน ยันไม่ใช่เงินฝืด หั่นเงินเฟ้อทั้งปี 2568 จากเดิมคาดช่วง  0.0 – 1.0%  ค่ากลาง 0.5% มาอยู่ 0.0 %

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า  เงินเฟ้อเดือนก.ย.ลดลง 0.72 % ปัจจัยหลักทำให้เงินเฟ้อลดลงจากราคาสินค้ากลุ่มพลังงานลดลง ทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงตามนโยบายของภาครัฐ และราคาพลังงานในตลาดโลกลดลง ราคาสินค้าสำคัญในกลุ่มอาหารสดยังคงลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะไข่ไก่ ผักสด และผลไม้สด สำหรับราคาสินค้า และบริการอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก เฉพาะ ไตรมาส 3 ปี 2568 ลดลง 0.74 %  เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ลดลง 0.19 %  ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เฉลี่ย 9 เดือนแรกปี 2568   ลดลง 0.01 %  

สำหรับเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนกันยายน (หักกลุ่มอาหารสด และพลังงานออก) สูงขึ้น 0.65 % และลดลง 0.05 % จากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ 9 เดือนแรกเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้น 0.90 %  

ทั้งนี้ ในเดือนก.ย.สินค้า 464 รายการที่นำมาคิดคำนวณเงินเฟ้อ พบว่า ราคาลดลง 188 รายการ เท่าเดิม 52 รายการ และเพิ่มขึ้น 224 รายการ  เมื่อแยกเป็นหมวดสินค้าในเดือนก.ย.  พบว่า หมวดที่ไม่ใช่อาหาร และเครื่องดื่ม ลดลง 0.99 %  สินค้าสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มพลังงาน (แก๊สโซฮอล์ ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน) ของใช้ส่วนบุคคล (แชมพู สบู่ถูตัว ผลิตภัณฑ์ป้องกัน และบำรุงผิว กระดาษชำระ น้ำยาระงับกลิ่นกาย โฟมล้างหน้า) ค่าโดยสารเครื่องบิน เสื้อผ้า (เสื้อยืดบุรุษ และสตรี เสื้อเชิ้ตบุรุษ และสตรี กางเกงขายาวบุรุษ) และสิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (น้ำยารีดผ้า น้ำยาถูพื้น ผลิตภัณฑ์ฟอกผ้าขาว/น้ำยาซักผ้าขาว ผลิตภัณฑ์ซักผ้า) ขณะที่มีสินค้าสำคัญหลายรายการราคาสูงขึ้น อาทิ ค่าเช่าบ้าน ค่าแต่งผมบุรุษ และสตรี และอาหารสัตว์เลี้ยง

พาณิชย์ หั่นคาดการณ์เงินเฟ้อปี 68 เหลือศูนย์ สนค. ยัน ไม่ใช่เงินฝืด 

ส่วนหมวดอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.24 % จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผักสด (ต้นหอม มะนาว ผักกาดขาว ผักชี พริกสด ผักคะน้า ขิง กะหล่ำปลี) กลุ่มผลไม้สด (ทุเรียน ฝรั่ง องุ่น กล้วยน้ำว้า มะม่วง) ไข่ไก่ ข้าวสารข้าวเหนียว และไก่สด อย่างไรก็ตาม มีสินค้าหลายรายการราคาสูงขึ้น อาทิ กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว) กลุ่มปลา และสัตว์น้ำ (ปลาทู ปลาช่อน) กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป  กาแฟ (ร้อน/เย็น) เครื่องดื่มรสช็อกโกแลต) กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (กะทิสำเร็จรูป น้ำมันพืช มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) น้ำพริกแกง) และกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล (ขนมหวาน ไอศกรีม) 

 " แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปตลอดไตรมาส 4 ของปี 2568 คาดว่าจะอยู่ใกล้ระดับศูนย์ หรืออัตราเงินเฟ้อต่อเดือนมีโอกาสติดลบได้ต่อเนื่อง  ทำให้กระทรวงพาณิชย์ ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทั้งปี 2568 จากเดิมคาดช่วง  0.0 – 1.0 %  ค่ากลาง 0.5 % มาอยู่ 0.0 %  เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อใน 3 ไตรมาสแรกปี 2568 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในระดับต่ำ ราคาผักสด และผลไม้สด ยังต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก รวมทั้งภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลง อิงสมมติฐานจีดีพีไทยขยายตัว 1.8 - 23 % ราคาน้ำมันดิบโลก 63 - 73 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ค่าเงิน 32.5 - 33.5 บาทต่อดอลลาร์ "  นายนันทพงษ์ กล่าว 

 

 

 

นายนันทพงษ์ กล่าวว่า  ปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงในช่วงที่เหลือปีนี้ ได้แก่ (1) ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง (2) ภาครัฐได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือนก.ย. - ธ.ค. 2568 มาอยู่ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่ากระแสไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.94 บาทต่อหน่วย (3) ราคาผักสด และผลไม้สดต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก 

เป็นผลจากผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก รวมทั้งฐานของราคาผักสดในปีก่อนหน้าที่อยู่ระดับสูง และ (4) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่สูงขึ้น ขณะนี้ปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ได้แก่ ราคาสินค้าเกษตรบางชนิด และเครื่องประกอบอาหารมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อน เช่น เนื้อสุกร มะขามเปียก กะทิสำเร็จรูป กาแฟ เกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น

นายนันทพงษ์  กล่าว เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องมาแล้ว 6 เดือน สะท้อนไทยอยู่ในภาวะเงินฝืดแล้วหรือไม่ นั้น ยังไม่ถือว่าเป็นเงินฝืด แต่เป็นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงเงินเฟ้อต่ำ  เงินฝืดต้องมีองค์ประกอบหลายด้าน ที่สำคัญแม้เงินเฟ้อทั่วไปติดลบแต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก สะท้อนถึงการบริโภคยังมีต่อเนื่อง  อัตราจ้างงานของไทยยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงจนน่ากังวล และแม้จีดีพีไทยจะต่ำแต่ก็ยังขยายตัว แต่ก็ยอมรับว่าสถานการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่างบประมาณจากภาครัฐและมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายที่กำลังออกมา เช่น คนละครึ่ง กระตุ้นท่องเที่ยว เป็นต้น จะมีผลต่อการเพิ่มความเชื่อมั่นการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่ก็ไม่มีผลต่อเงินเฟ้อจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนกับการสูงขึ้นของราคาอาหารสด และราคาพลังงานปีนี้ที่มีสัดส่วนกว่า 29 % ในการคำนวณเงินเฟ้อ   

ทั้งนี้ หากเทียบอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ  ณ เดือนสิงหาคม 2568 พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยลดลง 0.79 %  โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 9 จาก 140 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน 9 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (บรูไน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม สปป.ลาว)  

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์