สปีดโบตวิ่งเหนือน้ำไร้มลพิษ เทคโนโลยีหนุนศักยภาพขนส่งไทย

สปีดโบตวิ่งเหนือน้ำไร้มลพิษ   เทคโนโลยีหนุนศักยภาพขนส่งไทย

เรือเร็ว หรือ สปีดโบต คือการเดินทางที่ไม่เพียงใช้ความเร็วและเทคโนโลยีแลกกับระยะเวลาเดินทางเท่านั้น แต่สปีดโบต ยังตอบสนองความต้องด้านสิ่งอำนวยความสะดวก เทคโนโลยี ไม่เว้นแม้แต่ความลักชูรี่

ข้อมูลจาก Visionary Research เผยแพรทาง LinkedIn ระบุว่า แนวโน้มในอนาคตของสปีดโบ๊ท จะได้รับผลจากการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การผสานรวมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์( AI)  และ อินเทอร์เน็ตประสานสรรพสิ่ง( internet of things :IoT) รวมไปถึงการเปลี่ยนไปสู่โซลูชันที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

จากการประเมินตลาดสปีดโบต 3 ส่วนได้แก่  เร็วจำแนกตามเรือเร็วเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ,เรือเร็วเพื่อการพาณิชย์,เรือเร็วลักซูรี่ พบว่า ตลาดนี้มีมูลค่าสูงถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 และคาดว่าจะเติบโตอย่างน่าประทับใจ โดยคาดว่าจะสูงถึง 7.2 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2576 และรักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 6.5% ตั้งแต่ปี 2569 ถึงปี 2576

เมื่อเร็วๆนี้ ในพิธีที่กรุงเทพฯ บริษัท Candela ผู้ผลิตเรือไฟฟ้าสัญชาติสวีเดน และ Seudamgo ผู้ให้บริการเรือไทยโดยบริษัท Leopard Transportation Co., Ltd. ได้ลงนามในข้อตกลงจัดหาเรือเฟอร์รี่ไฟฟ้า Candela P-12 จำนวน 10 ลำ เพื่อให้บริการในเส้นทางระหว่างแผ่นดินใหญ่และเกาะกูด จังหวัดตราด

ข้อมูลจากCandela ระบุว่า Candela P-12 เป็นเรือเฟอร์รี่ไฟฟ้าที่มีพิสัยการบินไกลที่สุดและเร็วที่สุด ด้วยปีกใต้น้ำที่ช่วยยกตัวเรือขึ้นเหนือผิวน้ำ ช่วยลดแรงต้านและขจัดมลพิษ

ชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ได้โดยตรง

สำหรับเรือไฮโดรฟอยล์ไฟฟ้า P-12 ของ Candela แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากเรือเฟอร์รี่เร็วและเรือเร็วแบบดั้งเดิม ด้วยปีกที่ลอยอยู่เหนือน้ำ ทำให้ใช้พลังงานน้อยกว่าเรือแบบดั้งเดิมถึง 80% ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และแทบไม่มีคลื่นหรือเสียงรบกวนใดๆ ด้วยความสามารถในการชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์โดยตรง ช่วยให้การขนส่งบนเกาะเป็นไปอย่างสะอาดและยั่งยืนอย่างแท้จริง

ด้วยฝูงบิน P-12 ที่ใช้งาน Seudamgo จะสามารถให้บริการเที่ยวขาออกทุกวัน พร้อมกับยกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสารอย่างเหนือชั้น นั่นคือการเดินทางที่ไร้อาการเมาเรือนอกจากนี้ยังมีห้องโดยสารที่เงียบสงบสะดวกสบาย เนื่องจาก P-12 มีระบบควบคุมการเดินเรือแบบดิจิทัล ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ปรับมุมการชนของไฮโดรฟอยล์โดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ เพื่อรับมือกับแรงปะทะหรือการเหวี่ยงที่พบในเรือลำอื่นๆ

หรูหราเงียบสบาย-ไม่เมาเรือ

“เทคโนโลยีไฟฟ้าฟอยล์ P-12 ของ Candela ถือเป็นนวัตกรรมที่พลิกโฉมวงการ เรือลำนี้ถือเป็นเรือที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ปราศจากมลพิษ การรั่วไหลของน้ำมัน และเสียงรบกวนใต้น้ำ ในขณะเดียวกัน เรือลำนี้ยังมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับผู้โดยสาร คุณจะไม่ต้องเมาเรือ และเราภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าแรกที่นำเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์นี้มาสู่ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ผู้บริหาร บริษัท เลพเพิร์ด ทรานสปอร์ตเทชั่น จำกัดระบุ

เรือทั้ง 10 ลำเป็นเรือ P-12 รุ่น Business สุดหรู มาพร้อมที่นั่งระดับพรีเมียม ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง โปร่งสบาย รองรับ

ผู้โดยสารได้ 20 คน พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง เรือลำนี้แล่นด้วยความเร็วมากกว่า 25 นอต สามารถทำระยะทาง 20 ไมล์ทะเล ในเวลาเพียง 40 นาที

“ข้อตกลงนี้แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถก้าวกระโดดไปสู่การขนส่งทางน้ำอย่างยั่งยืน เรากำลังร่วมกัน ปกป้องหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สวยงามที่สุดของประเทศไทย” กุสตาฟ ฮัสเซลสค็อก ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแคนเดลากล่าว

ศักยภาพไทยขนส่งทางน้ำยั่งยืน

ทั้งนี้ กรุงเทพ เป็นที่ตั้งของสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดของCandela นอกประเทศสวีเดน และเป็นตลาดสำคัญของบริษัทยานยนต์ไฟฟ้าจากสวีเดน ขณะที่ภาคการขนส่งทางน้ำที่กว้างขวางและเกาะต่างๆ มากกว่า 1,500 เกาะของไทยซึ่งหลายเกาะติดอันดับจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก

“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับการขนส่งทางน้ำอย่างยั่งยืนด้วยเกาะนับพัน แม่น้ำสายใหญ่ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่คึกคัก ประเทศไทยสามารถได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงจากเทคโนโลยีของเรา การร่วมมือกับเซอดัมโกเพื่อเปิดตัวกองเรือ P-12 ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม เรามองเห็นศักยภาพมหาศาลในการขยายการขนส่งทางน้ำที่สะอาดและมีประสิทธิภาพทั่วประเทศไทยและภูมิภาคที่กว้างขึ้น”  บียอร์น แอนทอนส์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของCandelaกล่าว 

ทดลองใช้ในเมืองใหญ่แล้วทั่วโลก

       สำหรับCandela P-12: ความยาว 11.99 เมตร ความกว้าง 4.5 เมตร ความจุ 20 ที่นั่ง ระบบขับเคลื่อน Candela C-Pod 2 ตัว กำลังขับต่อเนื่อง 110 กิโลวัตต์ / กำลังขับสูงสุด 160 กิโลวัตต์ แบตเตอรี่ 378 กิโลวัตต์ชั่วโมง / ใช้งานได้ 336 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟได้สูงสุด 300 กิโลวัตต์ DC ความเร็ว 25 นอต พิสัย สูงสุด 40 ไมล์ทะเล ที่ความเร็ว 25 นอต

       ปัจจุบันได้นำไปทดสอบการใช้งานในเมืองต่าง ๆ เช่น สตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน และเมืองอัจฉริยะ NEOM ของซาอุดิอาระเบีย นับเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในภาคการขนส่งทางน้ำของไทย สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการผลักดันระบบการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม

สปีดโบตวิ่งเหนือน้ำไร้มลพิษ   เทคโนโลยีหนุนศักยภาพขนส่งไทย