คืนกำไร คนถูกหวยกิน ‘คลัง‘ ผุดกลไกซื้อสลากดิจิทัลเป็นเงินออม

คืนกำไร คนถูกหวยกิน ‘คลัง‘ ผุดกลไกซื้อสลากดิจิทัลเป็นเงินออม

ใครถูกหวยกินไม่ต้องเศร้า ยังได้ออม คลังเดินหน้า "คืนกำไร" ผุดไอเดียซื้อสลากดิจิทัลเป็นเงินออม เทียบเกณฑ์ RMF ย้ำซื้อผ่าน ‘เป๋าตัง’

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับนโยบายด้านการส่งเสริมการออมได้สั่งการบ้านให้ปลัดกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข กลไกการออมสำหรับผู้ซื้อสลากดิจิทัลที่ไม่ถูกรางวัล เพื่อการออมรองรับสังคมสูงวัย โดยรัฐจะหักเงินส่วนหนึ่งจากราคาสลากเข้าบัญชีเงินออมผู้ซื้อ ซึ่งคาดว่าโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายใน 4 เดือน

“สลากเงินออม ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ แต่จะไม่ใช่โครงการเดียวกับหวยเกษียณของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) โดยจะเป็นการแบ่งสัดส่วนเงินที่ซื้อสลากมาเก็บเป็นเงินออม และใช้หลักเกณฑ์เดียวกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) คือ ถอนเงินคืนได้เมื่ออายุ 55 ปี ส่วนคนที่อายุ 56 ปีขึ้นไป จะสามารถออมได้อีก 5 ปี” นายเอกนิติ กล่าว

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการนี้ไม่ใช่การพิมพ์สลากเพิ่ม หรือเป็นการมอมเมา แต่เป็นการ "คืนกำไร" ให้กับผู้ที่ซื้อสลากในรูปแบบของการออม

ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออม และกำลังอยู่ระหว่างการทำรายละเอียดในเรื่องของสัดส่วนเงินที่จะคืนให้ หรือเปอร์เซ็นต์ที่จะถูกเปลี่ยนเป็นเงินออม ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนในขณะนี้ เนื่องจากต้องพิจารณาค่าใช้จ่าย และต้นทุนของแต่ละส่วน โดยแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในการคืนกำไรเป็นเงินออมนี้ จะดึงมาจาก ส่วน 17% ของรายได้สลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งเป็นอำนาจของรัฐมนตรีในการจัดสรรแบ่งส่วน

สำหรับกลไกการดำเนินการนั้น นายลวรณ เน้นย้ำว่า ผู้ซื้อจะต้องทำการซื้อสลากผ่าน ช่องทางดิจิทัล บนแอปเป๋าตังเท่านั้น เนื่องจากระบบดิจิทัลทำให้สามารถรู้ว่าใครคือผู้ซื้อ และสามารถโอนเงินคืนไปให้ในรูปแบบการออมได้ “สำหรับหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้คือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งมีการพูดคุยกับสำนักงานสลากฯ แล้วว่ากฎหมายรองรับ และคุยกับธนาคารกรุงไทยแล้วว่า ระบบสามารถดำเนินการได้

ในส่วนของหลักเกณฑ์ในการเบิกถอนเงินออมออกมาใช้ จะมีการไปเทียบเคียงกับเงื่อนไขของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เป็นหลัก เพื่อดูว่าเงื่อนไขในการถอดเงินออกมาใช้ได้นั้นเป็นอย่างไร เช่น ต้องฝากกี่ปี (เช่น 5 ปี) หรืออายุเท่าไร (เช่น 55 ปี)

นายลวรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า เงินออมที่สะสมไว้ก้อนนี้จะถูกนำไปบริหารจัดการโดยเน้นที่ความปลอดภัย และการรักษาเงินต้นไว้ โดยจะต้องเป็นการลงทุนที่ทำให้ต้นยังอยู่ แม้ว่าดอกผลที่ได้รับอาจจะต่ำ แต่ก็ต้องมีดอกผล ไม่ใช่การปล่อยให้เงินก้อนนี้อยู่เฉย ๆ ดังนั้น จึงคาดว่าการบริหารเงินจะเป็นในลักษณะของกองทุนที่มีความปลอดภัยสูง โดยเงินก้อนนี้หากมีการสะสมไปทุกงวดเป็นเวลานาน จะสามารถเติบโตเป็นจำนวนมากถึง หลักหมื่นล้านได้

โครงการส่งเสริมการออมนี้ถือเป็นหนึ่งใน "Quick Big Win” ของรัฐบาล และคาดว่าจะสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้น และเห็นผลได้ภายในช่วง 4 เดือน

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์