กทม .- KT นัดถกปมหนี้หมื่นล้าน BTS ลุ้นจ่ายหนี้ - ย้ำสัญญาชอบด้วยกฎหมาย

กทม .- KT นัดถกปมหนี้หมื่นล้าน  BTS ลุ้นจ่ายหนี้ - ย้ำสัญญาชอบด้วยกฎหมาย

กทม.แพ้คดีหนี้ O&M รถไฟฟ้าสายสีเขียว ก้อนที่ 2 ศาลปกครองกลางสั่งจ่าย 1.1 หมื่นล้าน เร่งเคาะแนวทางสางหนี้เตรียมชงสภา กทม.อนุมัติใช้เงินสะสม ด้าน “บีทีเอส” ลุ้นผลของคดีประกอบการพิจารณาของ กทม.เร่งจ่ายหนี้ที่เหลืออีก 2 หมื่นล้านบาท จ่อนำเงินไปเสริมสภาพคล่องธุรกิจ

KEY

POINTS

  • ศาลปกครองกลางสั่งให้ กทม. และกรุงเทพธนาคม (KT) ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวแก่ BTS กว่า 1.1 หมื่นล้านบาท โดยทั้งสองหน่วยงานจะประชุมเพื่อตัดสินใจว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่
  • กทม. มีแนวโน้มที่จะไม่ยื่นอุทธรณ์ เนื่องจากคดีคล้ายกับคดีก่อนหน้าที่ศาลเคยตัดสินว่าสัญญาชอบด้วยกฎหมาย และเตรียมเสนอสภา กทม. เพื่อขออนุมัตินำเงินสะสมมาจ่ายหนี้ทั้งหมดเพื่อลดภาระดอกเบี้ย
  • BTS กำลังรอดูท่าทีของ กทม. และหวังว่าจะได้รับการชำระหนี้เพื่อนำไปเสริมสภาพคล่อง ขณะที่ยังมีหนี้ค่าจ้างที่ กทม. ค้างชำระอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาทที่ยังไม่ได้ฟ้องร้อง

ศาลปกครองกลาง อ่านคำพิพากษาในวันที่ 29 ก.ย.2568 ในคดีที่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ฟ้องกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กรณีผิดสัญญาการให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุง (O&M) ส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2564 ถึงวันที่ 20 พ.ย.2565 เพื่อขอให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญา

ศาลมีคำพิพากษาสั่งให้ กทม.และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ชำระค่าจ้างให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้แก่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ตามที่สองฝ่ายได้ทำสัญญากันไว้ รวมเป็นเงินประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย โดยให้ชำระภายใน 180 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด 

แหล่งข่าวจาก กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า หลังศาลตัดสินกรณีผิดสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว คงต้องกลับไปหารือกับทางผู้บริหาร กทม.ว่าจะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดหรือไม่ เนื่องจากคดีนี้ยังอยู่ในชั้นของศาลปกครองกลาง 

“หาก กทม.ยื่นอุทธรณ์จะส่งผลให้วงเงินในคดีนี้มีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยจะมีการหารือระหว่างผู้บริหาร กทม.และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ในวันที่ 30 ก.ย.68 นี้” 

ทั้งนี้ ประเด็นการชำระค่าให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นเรื่องที่ กทม.หารือกันมาต่อเนื่อง โดยมีแนวทางเสนอสภากรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณานำเงินสะสมของ กทม.มาใช้จ่ายในการเคลียร์หนี้ส่วนนี้ให้ BTSC เพราะการเร่งชำระหนี้จะเป็นผลดีกับ กทม.เพราะไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ย 5.4 ล้านบาทต่อวัน และจะนำเงินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยไปพัฒนาส่วนอื่น

อีกทั้ง ข้อพิพาทกรณีการค้างจ่ายหนี้ O&M ยังเป็นในแนวทางเดียวกันกับข้อพิพาทคดีแรกที่ศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้ กทม.ชำระหนี้ ดังนั้นหากรอให้คดีสิ้นสุด ซึ่งไม่รู้ว่าคดีจะสิ้นสุดเมื่อใด จะยิ่งทำให้ กทม. ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยในอัตรา MLR+1 ต่อปี หรือ 8%

“เบื้องต้น กทม.เตรียมแผนจ่ายหนี้ค่าจ้างเดินรถ 1.1 หมื่นล้านบาท ตามที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา เพราะมองว่าหากยื่นอุทธรณ์คงเป็นไปได้ยากที่จะต่อสู้คดี เนื่องจากคดีนี้มีลักษณะเดียวกันกับคดีที่ศาลปกครองสูงสุดเคยตัดสินให้ กทม.ชำระเงินแก่เอกชนไปแล้ว”

กทม.มีเงินสะสม 8-9 หมื่นล้าน

แหล่งข่าว กล่าวว่า หากที่ประชุมร่วมระหว่าง กทม.และกรุงเทพธนาคม ได้ข้อสรุปในการหารือร่วมกัน กทม.จะต้องนำเรื่องดังกล่าวเสนอสภา กทม.เพื่อขออนุมัติใช้เงินสะสมของ กทม.มาจ่ายเอกชน โดยจะเป็นการจ่ายค่าจ้างทั้งหมดในทีเดียวเพื่อลดภาระดอกเบี้ย เบื้องต้นคาดว่าจะเสนอต่อสภา กทม.พิจารณาได้ภายในเดือนพ.ย.นี้ ก่อนดำเนินการจ่ายหนี้ให้แก่เอกชน

ทั้งนี้ อ้างอิงตามขั้นตอนดำเนินงานที่ กทม.เคยนำเงินสะสมมาชำระหนี้ BTSC หลังจากผ่านการเห็นชอบจากสภา กทม.แล้ว จะเป็นอำนาจของผู้ว่าฯ กทม.ในการออกประกาศเพื่อนำเงินสะสมของ กทม.มาใช้จ่าย ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.มีเวลาออกประกาศดังกล่าวภายใน 30 วันนับจากวันที่สภา กทม.เห็นชอบ 

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน กทม.มีเงินสะสมรวมอยู่ประมาณ 8-9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการชำระหนี้ให้กับ BTS และเป็นผลบวกที่ทำให้ กทม.ไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ย และหลังจากนี้ในการจ่ายค่าจ้างเดินรถรายเดือน กทม.มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ เนื่องจากปัจจุบันเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 มีรายได้จากค่าโดยสารค่อนข้างมาก

“บีทีเอส” ลุ้น กทม.ยื่นอุทธรณ์หรือไม่

แหล่งข่าวจากบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรณีศาลปกครองกลางตัดสินให้ชำระค่าจ้าง O&M รถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามที่บริษัท ได้ยื่นฟ้องไปนั้น ขณะนี้คงต้องรอดูการพิจารณาของผู้บริหาร กทม.ว่าจะมีการจ่ายตามศาลปกครองกลางตัดสินหรือจะยื่นอุทธรณ์เพื่อซื้อคดีไปในชั้นศาลปกครองสูงสุด 

อย่างไรก็ดี หาก กทม.ชำระค่าจ้างงานดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัท ได้รับเงินค่าจ้างประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ย โดยบริษัท มีแผนนำเงินดังกล่าวไปชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนดชำระ รวมไปถึงเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ 

ทั้งนี้ปัจจุบัน กทม.ยังค้างค่าจ้าง O&M รถไฟฟ้าสายสีเขียว วงเงินรวมอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัท ยังไม่ได้ยื่นฟ้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เนื่องจากยังรอการเจรจารับชำระจาก กทม.

“ตอนนี้คดีข้อพิพาทเกี่ยวกับค่าจ้างการดำเนินงานส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเขียว มีเหลือเพียง 1 คดี คือ ค่าจ้าง O&M วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท ที่ศาลปกครองกลางได้ตัดสินแล้ว หาก กทม.ไม่อุทธรณ์สู้คดี เรื่องนี้ก็จะจบลง ส่วนค่าจ้างที่เหลืออีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท ทราบว่า กทม.รอดูแนวทางของคดี O&M 1.1 หมื่นล้านบาท จึงจะพิจารณาจ่ายค่าจ้าง” แหล่งข่าว กล่าว

ศาลชี้สัญญาชอบด้วยกฎหมาย

รายงานข่าวระบุว่า BTSC ได้ฟ้องให้ กทม.และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด แล้ว 2 คดี โดยคดีแรกเป็นค่าจ้างส่วนต่อขยาย 1 เดินรถ พ.ค. 2562 - พ.ค.2564 และส่วนต่อขยาย 2 เดินรถ เม.ย.2560 - พ.ค.2564 จำนวนเงิน 14,476 ล้านบาท ซึ่งศาลปกครองชี้ว่าเป็นสัญญาชอบด้วยกฎหมาย

สำหรับคดีดังกล่าวสิ้นสุดแล้วโดย กทม.ชำระให้สำนักงานบังคับคดี สำนักงานศาลปกครองแล้ว เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2567 ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2567

เหลือหนี้ 2 ก้อนยังไม่ฟ้อง 2 หมื่นล้าน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน กทม. ยังมีหนี้ค้างชำระค่าจ้างให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย 

หนี้ก้อนที่ 2 ค่าจ้าง O&M รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2564 ถึงวันที่ 20 พ.ย.2565 รวม 11,811 ล้านบาท ซึ่งศาลปกครองกลางตัดสินวันที่ 29 ก.ย.2568 ให้ กทม.ชำระภายใน 180 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด 

หนี้ก้อนที่ 3 ค่าจ้าง O&M รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 ตั้งแต่ พ.ย.2565 - ธ.ค.2567 รวม 17,596 ล้านบาท คิดเป็นเงินต้น 15,762 ล้านบาท และดอกเบี้ย 1,833 ล้านบาท(ยังไม่มีการฟ้องคดี) 

หนี้ก้อนที่ 4 ค่าจ้าง O&M รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 ตั้งแต่ 1 ม.ค.2568 - พ.ค.2568 รวม 3,697 ล้านบาท คิดเป็นเงินต้น 3,650 และดอกเบี้ย 46.78 ล้านบาท (ยังไม่มีการฟ้องคดี)

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์