ราคาน้ำมันดิบ พุ่งขึ้นสัปดาห์นี้ ท่ามกลางแรงกดดันรัสเซีย

ราคาน้ำมันดิบ พุ่งขึ้นสัปดาห์นี้ ท่ามกลางแรงกดดันรัสเซีย

ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นรายสัปดาห์สูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เพิ่มแรงกดดันต่อผู้ซื้อพลังงานจากรัสเซีย เพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

บลูมเบิร์ก รายงาน ราคาน้ำมันดิบ พุ่งขึ้นรายสัปดาห์สูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันต่อผู้ซื้อพลังงานจากรัสเซีย เพื่อยุติสงครามในยูเครน

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซื้อขายสูงกว่า 69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.4% แล้วในรอบสัปดาห์นี้ 

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) อยู่ที่มากกว่า 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทรัมป์ กดดันประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ให้ยุติการซื้อน้ำมันรัสเซีย และหารือเรื่องความมั่นคงทางพลังงานกับนายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บัน ของฮังการี หลังจากที่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เขาได้ตำหนิสมาชิกนาโตที่ซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากรัสเซียผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกพลัส

ตุรกี “มีตัวเลือกมากมาย” ขณะที่ฮังการีและสโลวาเกียเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล และ “แทบจะผูกติดกับท่อส่งน้ำมันเส้นเดียว” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในทำเนียบขาว

 

เรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่อุปทานทางกายภาพของรัสเซียกำลังถูกกดดันจากการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของโดรนของยูเครน ขณะเดียวกัน นักการทูตยุโรปได้เตือนเครมลินในสัปดาห์นี้ว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) พร้อมที่จะตอบโต้ การละเมิดน่านฟ้า เพิ่มเติมด้วยกำลังพลเต็มที่ ซึ่งรวมถึงการยิงเครื่องบินรัสเซียตก ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่

ราคาน้ำมัน ที่ปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ไม่สามารถดันราคาน้ำมันให้หลุดพ้นจากกรอบการซื้อขายแคบๆที่ดำเนินมาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมได้ เนื่องจากนักลงทุนกำลังพิจารณาดุลยภาพของตลาดที่ผ่อนคลายเทียบกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น นักพยากรณ์ รวมถึงสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่าจะมีน้ำมันเกินความต้องการในปลายปีนี้ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร รวมถึงจากผู้ผลิตนอกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปอเมริกา

อุปทานทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากการส่งออกจากภูมิภาคเคอร์ดิสถานในอิรักผ่านท่อส่งไปยังท่าเรือเจย์ฮานของตุรกีจะกลับมาดำเนินการอีกครั้งในวันเสาร์ หลังจากหยุดชะงักมานานกว่าสองปี การกลับมาส่งออกอีกครั้งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ 230,000 บาร์เรลต่อวัน และจะเพิ่มขึ้นเป็นมากถึงครึ่งล้านบาร์เรลต่อวันในอนาคต

อัปเดตราคาเช้านี้ (26 ก.ย. 68)

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 0.3% อยู่ที่ 69.61 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 8:44 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 0.4% อยู่ที่ 65.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล