ราคาน้ำมันดิบทรงตัวหลังดีดขึ้น จากทรัมป์แข็งกร้าวกับรัสเซีย

ราคาน้ำมันดิบทรงตัวหลังดีดขึ้น จากทรัมป์แข็งกร้าวกับรัสเซีย

น้ำมันทรงตัวหลังจากดีดตัวขึ้นแรงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จากถ้อยแถลงเชิงแข็งกร้าวของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อรัสเซีย ซึ่งเพิ่มความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

บลูมเบิร์ก รายงานราคาน้ำมันดิบวันนี้ (25 ก.ย.68) ราคาน้ำมันดิบทรงตัวหลังจากพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จากวาทกรรมต่อต้านรัสเซียของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ซื้อขายเหนือ 64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้น 2.5% ในวันพุธ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดเหนือ 69 ดอลลาร์ ทรัมป์กล่าวว่าประเทศสมาชิกนาโตควรยิงเครื่องบินรัสเซียที่ละเมิดน่านฟ้า และยุโรปควรหยุดซื้อพลังงานจากรัสเซียซึ่งเป็นสมาชิกโอเปกพลัส ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดน้ำมันลดสถานะการเก็งกำไรขาลง (Bearish Positions) 

ขณะเดียวกัน ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั่วประเทศลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งช่วยเพิ่มแรงหนุนให้ตลาดน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องน้ำมันล้นตลาดกลับมารุนแรงขึ้น หลังจากบริษัทน้ำมันในเคอร์ดิสถานของอิรักบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลกลางและรัฐบาลภูมิภาคในการกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง หลังหยุดชะงักมานานกว่าสองปี

 ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าติดอยู่ในกรอบแคบๆ นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม เนื่องจากนักลงทุนกำลังสร้างสมดุลระหว่างแนวโน้มพื้นฐานที่ซบเซากับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ยูเครนยังได้เพิ่มการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซีย โดยท่าเรือน้ำมันสำคัญสองแห่งบนชายฝั่งทะเลดำของรัสเซียได้ระงับการขนส่งน้ำมันชั่วคราวหลังจากมีคำเตือนเกี่ยวกับการโจมตีของโดรนเมื่อคืนนี้

อัปเดตราคาเช้านี้

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 0.4% มาอยู่ที่ 64.72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 7:20 น. ที่สิงคโปร์

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพฤศจิกายนปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.5% มาอยู่ที่  69.31 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในวันพุธ