‘ปลัดพาณิชย์’ หารือซาอุฯ เร่งขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ดันสินค้าไทยสู่ตลาด GCC

‘ปลัดพาณิชย์’ หารือซาอุฯ เร่งขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ดันสินค้าไทยสู่ตลาด GCC

‘ปลัดพาณิชย์’ หารือซาอุฯ ดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า  พร้อมเคาะจัดทำความตกลงการเว้นการเก็บภาษีซ้อน และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านศุลกากร ช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุนสองฝ่าย

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า  ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและการค้า ภายใต้สภาความร่วมมือซาอุดิ-ไทย (Saudi-Thai Coordination Council) ร่วมกับนายอับดุลอะซีซ อัลซะคราน (H.E. Mr. Abdulaziz Alsakran) รองผู้ว่าการสำนักงานการค้าต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2568 ผ่านระบบการประชุมทางไกล

พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบีย

ซาอุดิอาระเบียเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้ายุทธศาสตร์ของไทย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ภาคเอกชนมีกำลังซื้อ และมีความต้องการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารฮาลาลจำนวนมาก รวมทั้งยังมีบทบาทนำในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปค รวมทั้งมีบทบาทนำในภูมิภาคตะวันออกกลาง

โดยเฉพาะกลุ่มประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ประกอบด้วย บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดังนั้น การกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้ากับซาอุดีอาระเบียจึงตอบโจทย์นโยบายขยายการส่งออกของไทยไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ

นายวุฒิไกร กล่าวว่า  การประชุมครั้งนี้ได้วางแผนการทำงานสำหรับปี 2568-2569 ร่วมกับฝ่ายซาอุดิฯ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะยกระดับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าในด้านต่างๆ อาทิ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าและงานแสดงสินค้าระหว่างกัน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางการวางแผนพัฒนาประเทศ การร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เช่น หุ่นยนต์ ยานยนต์สมัยใหม่ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เป็นต้น

รวมทั้งความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล ยา และสมุนไพร ตลอดจนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดทำนโยบายดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้สอดรับกับทิศทางสังคมไทยในอนาคต 

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นพ้องที่จะจัดทำความตกลงว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อน และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านศุลกากร ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุนระหว่างภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ ในปี 2567 ซาอุดีอาระเบียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 19 ของไทยในตลาดโลก และอันดับที่ 2 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง การค้าระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย มีมูลค่า 7,757.03 ล้านดอลลาร์ โดยไทยส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย มูลค่า 2,856.68 ล้านดอลลาร์ และไทยนำเข้าจากซาอุดีอาระเบีย มูลค่า 4,900.36 ล้านดอลลาร์

ในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2568) การค้าระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย มีมูลค่า 3,846.50 ล้านดอลลาร์  โดยไทยส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย มูลค่า 1,250.85 ล้านดอลลาร์ และไทยนำเข้าจากซาอุดีอาระเบีย มูลค่า 2,595.65 ล้านดอลลาร์

สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ และเคมีภัณฑ์