ฟ้องโลกงานถนัดกัมพูชาจับตาประชุมใหญ่ยูเอ็น

ฟ้องโลกงานถนัดกัมพูชาจับตาประชุมใหญ่ยูเอ็น

ช่วงที่ไทยกำลังวุ่นอยู่กับการตั้งรัฐบาลใหม่ ความสนใจพุ่งเป้าไปที่คณะรัฐมนตรีของนายกฯ หนู อนุทิน ชาญวีรกูล ใครจะนั่งตำแหน่งไหน คุณสมบัติผ่านหรือไม่ ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาดูเหมือนจะเงียบไปไม่มีข่าว

จนกระทั่งเมื่อวันพุธ (17 ก.ย.)  เกิดเหตุชาวกัมพูชา ชุมนุมประท้วง ขัดขวางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ขณะวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องใช้มาตรการสากลเข้าควบคุมระงับเหตุ ข้อพิพาทชายแดนกลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง
    

ร้อนถึงขนาดที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เนต พักตรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข่าวสารกัมพูชาแถลงในวันเกิดเหตุ กล่าวหาเจ้าหน้าที่ไทยรุกล้ำพรมแดน แล้วใช้ “แก๊ซน้ำตา กระสุนยาง และเครื่องมือส่งเสียงรบกวนกับพลเรือนกัมพูชา” ไม่เพียงเท่านั้น แถลงการณ์จากรัฐบาลกัมพูชาระบุว่า นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ได้ส่งจดหมายถึงผู้นำโลกเพื่อขอการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศ และอาเซียนให้หยุดยั้งการกระทำของไทย ที่ฮุน มาเนตเรียกว่า “เป็นการกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียวซึ่งเสี่ยงทำให้ความตึงเครียดบานปลายและขยายวงความขัดแย้ง”

         มาดูว่า นายกฯ ฮุน มาเนต เขียนจดหมายไปฟ้องใครบ้าง เอาเฉพาะที่คุ้นๆ ชื่อ มีทั้งนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย ประธานอาเซียน, ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน, ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ, ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส, นายแอนโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ และนางแอนนาเลนา เบอร์บ็อก ประธานการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UNGA) ครั้งที่ 80 รวมถึงคนอื่นๆ

ท่าทีของกัมพูชาเล่นเอา พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกับงง เพราะไทยประท้วงกัมพูชาเรื่องการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแต่ฝ่ายกัมพูชากลับมาประท้วงไทยเรื่องการวางแนวรั้วลวดหนาม เรื่องไหนรุนแรงกว่ากัน?

ดูเหมือนแนวทางของกัมพูชานั้นจะถนัดกับการโหมกระพือประเด็นความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องระหว่างสองประเทศ ให้กลายเป็นประเด็นนานาชาติด้วยการดึงคนโน้นคนนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง ยิ่งช่วงนี้มีการประชุม UNGA ที่นิวยอร์ก สัปดาห์หน้าผู้นำโลกจะแสดงสุนทรพจน์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดขึ้นเวทีวันที่ 23 ก.ย. แม้ประเด็นใหญ่ของโลกจะอยู่ที่ชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ในกาซา และฝรั่งเศส อังกฤษ จะประกาศยอมรับรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการตามที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้ แต่ดูจากท่าทีที่กัมพูชาทำมาโดยตลอด

รวมถึงการส่งจดหมายถึงเลขายูเอ็นก็อาจเป็นไปได้ที่กัมพูชาจะใช้เวที UNGA กล่าวร้ายไทย การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติปีนี้จึงน่าจับตายิ่ง และไทยต้องรับมือให้ดีในเวทีที่ได้ชื่อว่า “เวิลด์คัพแห่งวงการทูต”